Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

ยิง Facebook Ads ต้องรู้! การทำ Bidding Strategy คืออะไร?

ยิง Facebook Ads ต้องรู้! การทำ Bidding Strategy คืออะไร?

ในฐานะนักโฆษณาดิจิทัล หนึ่งสิ่งที่ต้องควบคุมให้ดีนั่นคือ “งบประมาณในการทำแคมเปญออนไลน์” เพราะนี่คือปัจจัยที่จะช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง Bidding Strategy หรือการตั้งค่าแคมเปญเพื่อควบคุมงบประมาณ ก็ดูเหมือนจะเป็นอีกแนวทางที่มาแรง พร้อมช่วยสร้างผลลัพธ์การทำโฆษณาให้เป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ โดยไม่ทำให้เกิดการบานปลาย

อย่างไรก็ตาม การจะใช้กลยุทธ์ Bidding Strategy ก็ไม่ได้เป็นเรื่องง่าย หากไม่ศึกษาให้ดีเสียก่อน และในบทความนี้เราจะพาไปศึกษากับความรู้เบื้องต้นที่ใช้ได้จริง พร้อมตอบชัด ๆ ว่า Bidding Strategy คืออะไร มีรูปแบบไหนบ้าง เพื่อให้คุณนำไปปรับใช้กับแคมเปญโฆษณาได้อย่างเหมาะสม

เข้าใจ Bidding Strategy กลยุทธ์นี้คืออะไร?

Bidding Strategy คือกลยุทธ์ที่นำมาใช้ในการเสนอราคาทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นทาง Google ก็ดี หรือแม้กระทั่งการทำโฆษณาบนโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยหลักการสำคัญของกลยุทธ์ดังกล่าว จะเป็นการมุ่งเน้นไปที่การกำหนดงบประมาณโฆษณาให้คุ้มค่า ภายใต้ความคาดหวังในผลลัพธ์ที่ต้องตอบสนองต่อวัตถุประสงค์ของแคมเปญ และสามารถวัดประสิทธิภาพได้สูงที่สุด

รู้จักประเภทของ Bidding Strategy ก่อนเริ่มยิงแอด

แน่นอนว่ากลยุทธ์การ Bid ราคาต้นทุนโฆษณาก็ย่อมต้องมีอยู่หลากหลายวิธี แต่ถ้าจะให้แบ่งเป็นประเภทย่อย ๆ ตามที่รู้จักกันโดยทั่วไป และยังไม่เจาะจงลงเฉพาะกลยุทธ์ที่แพลตฟอร์มอย่าง Facebook นำเสนอมาให้เลือกใช้ สิ่งแรกที่นักการตลาดมือใหม่ควรเรียนรู้ คือ “ประเภทของการ Bidding Strategy” ซึ่งแบ่งแยกตามกลไกการตั้งค่า โดยจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่

  • การเสนอราคาด้วยตัวเอง (Manual Bidding) : เป็นกลไกการเสนอราคาต้นทุนด้วยตัวเอง โดยอาศัยการกำหนดค่าตามข้อมูลที่มีการวิเคราะห์จากราคาค่าเฉลี่ยแคมเปญที่ผ่านมา หรืออ้างอิงจากราคาที่อยู่ในงบประมาณที่รับไหว เหมาะสำหรับคนที่เข้าใจสถานการณ์ของแคมเปญตัวเอง ทำให้คุณสามารถจัดสรรงบโฆษณาได้อย่างมั่นใจ
  • การเสนอราคาแบบอัตโนมัติ (Automated Bidding) : เป็นกลไกการเสนอราคาต้นทุนผ่าน Learning Machine หรือ AI ของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ซึ่งจะเป็นการเสนอราคาแบบอัตโนมัติ โดยให้ AI เป็นผู้วิเคราะห์ ดูแล และจัดสรรงบประมาณ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการตามความเหมาะสม

ประเภทของ Bidding Strategy บน Facebook

หลักการทำ Bidding Strategy บนแพลตฟอร์ม Facebook นั้น ทั้งสะดวกสบายและเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะทางผู้ให้บริการนำเสนอตัวเลือกกลยุทธ์ที่พร้อมจะตอบสนองได้อย่างหลากหลาย มาให้คุณเลือกใช้ตามความเหมาะสม โดยอยู่บนพื้นฐานการตัดสินใจที่มีวัตถุประสงค์ของแคมเปญเป็นตัวกำหนด เพื่อให้คุณเลือกได้อย่างยืดหยุ่นว่าต้องการจะแสดงโฆษณาดังกล่าวต่อใคร และเสนอราคาเท่าไหร่ในการแสดงโฆษณาแต่ละครั้ง

ซึ่งประเภทของการทำ Bidding Strategy ใน Facebook มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 รูปแบบ โดยจะมีความแตกต่างทางด้านการควบคุมงบประมาณ การเข้าถึง และการวัดผลที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

ประเภทของ Bidding Strategy สำหรับ Facebook Ads

Lowest Cost

เป็นการปรับต้นทุนในการแสดงโฆษณาไปยังกลุ่มหมายโดยใช้ AI ของ Facebook เป็นผู้ดูแลและวิเคราะห์การวางแผนต้นทุน ทำให้วิธีนี้เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ไม่มีประสบการณ์ยิงแอด เพราะไม่ต้องวางแผนเอง แถมยังสามารถนำข้อมูลที่ได้ไปคำนวณค่าเฉลี่ยและค่า Cost Per Result เพื่อใช้เป็นเกณฑ์การ Bid ในอนาคตได้อีกด้วย

Cost Cap

กลยุทธ์การกำหนดต้นทุนที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการควบคุมงบประมาณในการโฆษณา โดยสามารถกำหนดค่าเฉลี่ย Cost Per Result ได้เอง ซึ่งทาง Facebook ก็จะทำการแสดงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย โดยจะใช้ต้นทุนราคา Cost Per Result ที่ใกล้เคียงกับราคาที่ตั้งค่าเอาไว้นั่นเอง

Bid Cap

กลยุทธ์นี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมราคาเสนอสำหรับการแสดงโฆษณาแต่ละครั้งได้ตามความต้องการ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ของแคมเปญที่สูงและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งกรณีนี้จะเหมาะสำหรับนักการตลาดที่เจนสนาม รู้ราคาค่าเฉลี่ยของ Cost Per Result เป็นอย่างดี เพื่อวางแผนเสนอราคาที่สูงกว่า เพิ่มโอกาส Bid ชนะคู่แข่งทางการตลาดทั้งหลักและรอง เพื่อแย่งชิงพื้นที่การแสดงโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวาง และมีประสิทธิภาพสูงสุด

Target Cost

สำหรับ Bidding Strategy อย่าง Target Cost คือกลยุทธ์ที่จะมาช่วยควบคุมต้นทุนโฆษณา ซึ่งมองผิวเผินอาจจะไม่ได้ต่างจากกลยุทธ์ Cost Cap มากนัก แต่จุดเด่นของวิธีนี้ก็คือ “การกำหนดเป้าหมายตาม Conversion” เช่น ต้องการตั้งเป้าหมาย Conversion เป็นยอดซื้อ (Purchase) ก็ให้กำหนดกับทาง Facebook ไปเลยว่าต้องการหาผลลัพธ์กลุ่มเป้าหมายที่มียอดซื้อขาย โดยให้ราคาต้นทุนอยู่ที่ 200 บาท ซึ่งการทำแบบนี้ก็จะช่วยให้คุณสามารถใช้ต้นทุนได้อย่างคุ้มค่า และหาผลลัพธ์กลุ่มเป้าหมายในการแสดงโฆษณาได้อย่างเที่ยงตรงมากกว่า Cost Cap นั่นเอง

ข้อดีของ Bidding Strategy

  • ช่วยให้โฆษณาปรากฏต่อกลุ่มเป้าหมายของแคมเปญ: เพิ่มประสิทธิภาพการยิงแอด Facebook พร้อมช่วยผลักดันการแสดงโฆษณาของคุณให้มีประสิทธิภาพ นำเสนอไปยังผู้ที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าหรือบริการได้อย่างตรงจุด
  • ช่วยให้โฆษณาเข้าถึงผู้ชมได้มากขึ้น: เพิ่มเปอร์เซ็นต์การเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการแสดงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่กว้างมากขึ้นจากการกำหนด Bidding Strategy ที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการมองเห็นโฆษณาได้จากผู้ชมที่หลากหลาย ทั้งกลุ่มเป้าหมายหลักและรอง
  • วัดประสิทธิภาพแคมเปญได้อย่างแม่นยำ: Facebook จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของแคมเปญได้อย่างชัดเจน โดยข้อมูลในส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถนำไปใช้วางแผนและวิเคราะห์การยิงโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม บางครั้งการควบคุมงบประมาณด้วยกลยุทธ์ Bidding Strategy อย่างเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายทางการตลาดได้ ลองมาเพิ่มประสิทธิภาพการยิงแอด Facebook ที่เหนือกว่าด้วย Mandala Analytics จาก Mandala AI เครื่องมืออัจฉริยะที่จะช่วยรวบรวม Insight ให้คุณรู้จักกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ ปรึกษาเราได้เลยที่

https://www.mandalasystem.com/contact_us

ข้อมูลอ้างอิง

สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.