คู่มือการใช้งาน Facebook Pixel ฉบับผู้ประกอบการออนไลน์

“รู้จัก Facebook Pixel ไหม?”

ถ้าคำตอบของผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์ออนไลน์คนไหนคือ “ไม่รู้จัก” แนะนำว่าอย่าเพิ่งกดปิดบทความนี้ และอยากให้อ่านไปจนถึงบรรทัดสุดท้าย เพราะเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่เสียไป อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายของคุณได้ โดยเราจะมาบอกถึง 5 ข้อดีในการใช้งาน Facebook Pixel สำหรับธุรกิจออนไลน์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไมผู้ประกอบการออนไลน์ที่รู้จักสิ่งนี้จึงได้เปรียบคู่แข่ง โดยเริ่มอธิบายตั้งแต่ที่ว่า เริ่มต้นใช้งาน Facebook Pixel ต้องทำยังไง เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจที่สุด ติดตามได้เลย

Facebook Pixel คืออะไร?

สำหรับผู้ประกอบการที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน สามารถอธิบายให้เข้าใจได้ตามนี้ Facebook Pixel คือเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้นักการตลาดออนไลน์สามารถติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญโฆษณา Facebook และวัดผลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด ซึ่ง Facebook Pixel จะทำงานโดยติดตั้งโค้ดสคริปต์บนเว็บไซต์ และโค้ดนี้จะช่วยเก็บข้อมูลการกระทำของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เช่น

• ผู้เข้าชมดูหน้าเว็บใดบ้าง
• ผู้เข้าชมคลิกปุ่มใดบ้าง
• ผู้เข้าชมกรอกข้อมูลในฟอร์มหรือไม่
• ผู้เข้าชมทำการซื้อสินค้าหรือไม่

ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งกลับไปยัง Facebook และแสดงบนแดชบอร์ด Facebook Pixel ทำให้ผู้ใช้งานสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เข้าใจว่าแคมเปญโฆษณาใดมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การปรับแต่งแคมเปญโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น

ขั้นตอนการติดตั้ง Facebook Pixel

Facebook Pixel นั้นติดตั้งไม่ยาก เพียงแค่ทำตามดังต่อไปนี้ ทุกคนก็สามารถเริ่มต้นใช้งานเครื่องมือตัวนี้ได้เลยทันที

1. เข้าสู่ระบบ Facebook Business Manager
2. สร้าง Facebook Pixel ใหม่
3. ติดตั้งโค้ด Pixel บนเว็บไซต์ โดย Facebook จะให้โค้ด JavaScript สิ่งที่ต้องทำก็เพียงคัดลอกโค้ดทั้งหมดไปยังเว็บไซต์ที่ต้องการ
4. ตรวจสอบการติดตั้ง Pixel
5. ตั้งค่าเหตุการณ์ Pixel โดยสามารถตั้งค่าเหตุการณ์ Pixel หลายแบบ เช่น การดูหน้าเว็บ การคลิกปุ่ม และการส่งแบบฟอร์ม
6. คุณสามารถใช้ปลั๊กอิน Facebook Pixel สำหรับระบบจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ เช่น WordPress, Shopify เป็นต้น

เพียงเท่านี้ Facebook Pixel ที่ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย ก็พร้อมให้ผู้ประกอบการใช้งานในฐานะเครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง

5 ข้อดีในการใช้งาน Facebook Pixel สำหรับธุรกิจออนไลน์

ช่วยในการเก็บข้อมูลเว็บไซต์

เรียกได้ว่า Facebook Pixel เปรียบเสมือนสายลับตัวจิ๋วที่คอยติดตามและเก็บข้อมูลผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ โดยข้อมูลเหล่านี้มีประโยชน์มหาศาลต่อธุรกิจออนไลน์ ช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้า วิเคราะห์กลยุทธ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด โดยตัวอย่างข้อมูลที่ Facebook Pixel เก็บมามีดังต่อไปนี้

• จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
• หน้าเว็บที่ผู้เข้าชม
• ระยะเวลาที่ผู้เข้าชมใช้บนเว็บไซต์
• อุปกรณ์ที่ผู้เข้าชมใช้
• ข้อมูลประชากรของผู้เข้าชม (เช่น เพศ อายุ เมือง)
• พฤติกรรมของผู้เข้าชมบนเว็บไซต์ (เช่น คลิกอะไร กรอกข้อมูลอะไร)

วัดผลประสิทธิภาพของโฆษณา

ประโยชน์อีกหนึ่งข้อในการใช้งาน Facebook Pixel คือด้านการวัดผลประสิทธิภาพของโฆษณา เพราะในมุมผู้ประกอบการ ทุกโฆษณาที่ส่งออกไปให้กลุ่มเป้าหมายเห็นย่อมมีต้นทุน ดังนั้น ถ้าอยากได้เปรียบในการทำธุรกิจ ทุกโฆษณาก็ควรได้ประสิทธิภาพคุ้มกับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด

ด้วยเหตุนี้ Facebook Pixel จึงสามารถใช้ในการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของโฆษณา Facebook แต่ละแบบ โดยดูว่าโฆษณาแบบไหนดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์มากที่สุด โฆษณาแบบไหนมี Conversion Rate สูงสุด และโฆษณาแบบไหนมีค่าใช้จ่ายต่อ Conversion (CPA) ต่ำที่สุด ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณปรับแต่งแคมเปญโฆษณา Facebook ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ยิงโฆษณา Retargeting

เคยไหม? ลูกค้าเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ แต่ยังลังเลใจ ไม่กดสั่งซื้อ โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ สิ่งที่ผู้ประกอบการควรทำคือ การยิงโฆษณา Retargeting ที่จะช่วยให้แสดงโฆษณาของคุณบน Facebook แก่กลุ่มเป้าหมายนี้อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้พวกเขากลับมาซื้อสินค้า

โดยถ้าผู้ประกอบการใช้งาน Facebook Pixel  การ Retargeting ก็จะไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเครื่องมือนี้ช่วยในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายสำหรับโฆษณา Retargeting ได้อย่างแม่นยำ สามารถเลือกแสดงโฆษณาตามพฤติกรรมของผู้ใช้ เช่น ผู้ที่เคยดูสินค้าในหมวดหมู่ใด ๆ ผู้ที่เคยใส่สินค้าลงในตะกร้า และอีกหลากหลายรูปแบบ

ช่วยสร้าง Custom Audiences

เรียกได้ว่า การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์ และ Facebook Pixel ก็เปรียบเสมือนผู้ช่วยสร้างกลุ่มเป้าหมาย (Custom Audiences) ที่แม่นยำ ช่วยให้ผู้ประกอบการออนไลน์สามารถยิงแอดได้ตรงใจ เพิ่มโอกาสในการขาย และสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยสามารถเลือกได้ว่าจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามพฤติกรรมบนเว็บไซต์ หรือกำหนดกลุ่มเป้าหมายตามข้อมูลประชากร

ขยายฐานลูกค้า

การใช้งาน Facebook Pixel ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมาย Lookalike Audience จากกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ โดยกลุ่มเป้าหมาย Lookalike Audience คือกลุ่มคนที่ Facebook คาดการณ์ว่าจะมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกับกลุ่มลูกค้าเดิม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีโอกาสซื้อสินค้าหรือบริการในอนาคต

ถึงตรงนี้ เชื่อว่าผู้ประกอบการน่าจะเข้าใจแล้วว่า Facebook Pixel คืออะไร และช่วยยกระดับธุรกิจออนไลน์ได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม นอกจากการใช้งาน Facebook Pixel แล้ว อีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ประกอบการมองภาพรวมตลาดออนไลน์ได้อย่างรอบด้านก็คือ Mandala AI ผู้ให้บริการเครื่องมือ Mandala Analytics โซลูชันในการทำ Social Listening นำข้อมูลซึ่งผู้คนแสดงความคิดเห็นในรูปแบบต่าง ๆ ไว้ตามโซเชียลมีเดีย มาวิเคราะห์เพื่อหาเจตนาที่แท้จริงว่า ตอนนี้ภาพรวมของตลาดกำลังต้องการอะไร ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนกลยุทธ์ สร้างคอนเทนต์ ยิงแอด Facebook เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการธุรกิจในยุคดิจิทัล ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเราได้เลย ที่

https://www.mandalasystem.com/contact_us 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. What is the Meta Pixel?. สืบค้นวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 
2. How to set up and install a Meta Pixel. สืบค้นวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567