Google Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาใหม่ล่าสุดจาก Google Ads ที่ช่วยเสริมศักยภาพการโฆษณาธุรกิจ โดยเป็นการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อค้นหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อช่วยให้สามารถเพิ่ม Conversion ได้มากกว่าโฆษณารูปแบบเดิม !
สำหรับใครที่ต้องการรู้ข้อมูลลึก ๆ ว่า Google Demand Gen คืออะไร มีประโยชน์ในการทำธุรกิจอย่างไร และโฆษณารูปแบบนี้ต่างจากโฆษณารูปแบบเดิมของ Google อย่าง Discovery Ads อย่างไร บทความนี้จะพาไปไขข้อสงสัยพร้อมกัน !
สำหรับธุรกิจที่ไม่รู้จะขายออนไลน์อะไรดี และต้องการรู้จักกลุ่มลูกค้ามากขึ้น อยากค้นหาลูกค้าใหม่ และสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้เลือกใช้ตัวช่วยอย่าง Mandala analytics จาก Mandala AI เครื่องมือดี ๆ ที่ช่วยอัปเดตเทรนด์การตลาดใหม่ วัดผลและวิเคราะห์คู่แข่งอย่างละเอียดและครบถ้วนทุกแง่มุมที่ต้องการ
Google Demand Gen คืออะไร ?
เมื่อไม่นานมานี้ Google ได้อัปเกรดเครื่องมือสร้างแคมเปญโฆษณา โดยเพิ่มโซลูชันใหม่ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการช่วยค้นหาลูกค้าเป้าหมายและเพิ่มประสิทธิภาพการแปลงผู้ชมให้กลายเป็นลูกค้า (Conversion) โซลูชันนี้เรียกว่า Google Demand Gen
Google Demand Gen คือรูปแบบโฆษณาใหม่จาก Google Ads ซึ่งได้รับการอัปเกรดมาจากโฆษณา Discovery Ads แบบดั้งเดิม โดยมีการนำ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์และค้นหากลุ่มผู้ที่มีแนวโน้มจะสนใจในสินค้าหรือบริการ โดยพิจารณาจากข้อมูลต่าง ๆ เช่น ประวัติการค้นหา เว็บไซต์ที่เคยเข้าชม วิดีโอที่เคยรับชม และแอปพลิเคชันที่ใช้งาน จากนั้นจะแสดงโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ของ Google
จุดเด่นสำคัญของ Google Demand Gen คือความสามารถในการสร้างรูปแบบโฆษณาที่หลากหลายภายในแคมเปญเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอโฆษณา วิดีโอสั้น ภาพแสดงเป็นชุด (Carosual) หรือภาพเดี่ยว ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีความชอบแตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม
Google Demand Gen แตกต่างจาก Discovery Ads อย่างไร ?
Google Ads ได้อัปเกรดรูปแบบแคมเปญโฆษณาจาก Google Discovery Ads มาเป็น Demand Gen Ads ซึ่งอาจแบ่งความแตกต่างของโฆษณาทั้งสองรูปแบบได้ ดังนี้
หัวข้อ | Discovery Ads | Demand Gen Ads |
เป้าหมาย | เน้นเพิ่มการเข้าถึง (Reach) | เน้นกระตุ้น Conversion ดึงดูดลูกค้าใหม่ |
รูปแบบโฆษณา | รูปภาพ (Images Ads) กับ Product Feeds | รูปภาพและวิดีโอในแคมเปญเดียว พร้อมการทดสอบ A/B Testing ก่อนปล่อยโฆษณาจริง |
การวัดผล | รายงานมาตรฐาน Google Ads* (Standard Google Ads Report) | Conversion Path Report, Data Driven Attribution, Brand Lift, Conversion Lift* |
การประมูลราคา (Bidding) | Conversions, Conversion Value | Maximize Clicks (เพิ่มคลิกสูงสุด ภายใต้งบ) |
การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย | Lookalike Audience, Device Targeting | เพิ่ม Remarketing และ Customer Lists เข้ามาด้วย |
พื้นที่แสดงโฆษณา (Placement) | YouTube Feed, Google Discovery, Gmail | เพิ่ม YouTube Shorts, YouTube In-stream เข้ามาด้วย |
*อธิบายเพิ่มเติม
- รายงานมาตรฐาน Google Ads : รายงานพื้นฐานที่ติดตามผลแคมเปญโฆษณาทั่วไป เช่น จำนวนคลิก ครั้งที่แสดงโฆษณา และค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
- Conversion Path Report : รายงานวิเคราะห์เส้นทางของลูกค้าก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ แสดงจุดสัมผัส (Touchpoint) ต่าง ๆ ที่ลูกค้าพบก่อนเกิด Conversion
- Data Driven Attribution : รายงานที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์แต่ละจุดสัมผัส (Touchpoint)
- Brand Lift : การวัดผลว่าโฆษณาของคุณสามารถสร้างการรับรู้และจดจำแบรนด์เพิ่มขึ้นหรือไม่
- Conversion Lift : เป็นการวัดผล Conversion เพิ่มเติมที่เกิดจากโฆษณา
Placement ของโฆษณา Google Demand Gen
โฆษณา Google Demand Gen มีจุดเด่นในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางและตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยสามารถไปแสดงผลตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ ดังนี้
- YouTube Feed : แสดงโฆษณาระหว่างวิดีโอบนหน้าแรกของ YouTube เหมาะสำหรับสร้างการจดจำแบรนด์ รองรับภาพนิ่ง วิดีโอ และแคมเปญ Shopping
- Google Discovery : แสดงโฆษณาบนหน้าค้นพบของ Google ตามความสนใจผู้ใช้ เหมาะกับการนำเสนอเนื้อหาและสินค้าที่เกี่ยวข้อง
- Gmail : แสดงโฆษณาในรูปแบบอีเมลโปรโมชันบนกล่องจดหมาย เหมาะที่จะนำเสนอข้อเสนอพิเศษและส่วนลด
- YouTube Shorts : แสดงโฆษณาวิดีโอสั้นบนแท็บ Shorts ของ YouTube เหมาะที่จะกระตุ้นการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว รองรับวิดีโอสั้นไม่เกิน 60 วินาที
- YouTube In-stream : แสดงโฆษณาวิดีโอก่อน ระหว่าง หรือหลังวิดีโอบน YouTube เหมาะที่จะนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวิดีโอที่ผู้ใช้กำลังดู
ประโยชน์ของ Google Demand Gen
1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น
เนื่องจากโฆษณา Google Demand Gen สามารถแสดงผลบนแพลตฟอร์มยอดนิยมของ Google เช่น YouTube, Gmail และ Google Discover ซึ่งมีผู้ใช้งานนับพันล้านคนทั่วโลก ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้าและบริการของคุณได้อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพ
2. เพิ่มการรับรู้แบรนด์ในระยะยาว
เมื่อโฆษณาปรากฏต่อผู้ใช้ที่สนใจสินค้าหรือบริการประเภทเดียวกับแบรนด์ของคุณ จะช่วยสร้างการจดจำแบรนด์และเพิ่มการรับรู้ต่อกลุ่มผู้ใช้เป้าหมายในระยะยาวได้
3. กระตุ้นความสนใจในสินค้าหรือบริการ
โฆษณา Google Demand Gen สามารถกระตุ้นความสนใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ด้วยการปรับแต่งรูปแบบโฆษณาให้น่าสนใจผ่านข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และรูปแบบอื่น ๆ ทำให้ผู้ชมอยากจะมีส่วนร่วม และหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณ หรือถ้าหากไม่มีไอเดีย ก็สามารถใช้เครื่องมือ Mandala Cosmos จาก Mandala AI ในการอัปเดตเทรนด์หรือไอเดียใหม่ ๆ ได้ ก็จะช่วยให้สร้างโฆษณาได้ถูกใจและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
4. ช่วยเพิ่มยอดขายหรือ Conversion ให้มากยิ่งขึ้น
โฆษณา Google Demand Gen สามารถวัดผลและติดตามประสิทธิภาพได้ สามารถตรวจสอบว่าแคมเปญของคุณสร้างการ Conversion ได้มากน้อยเพียงใด จากนั้นนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์และปรับแต่งกลยุทธ์โฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้สามารถเพิ่มยอดขายหรือ Conversion ให้สูงขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
5. ประโยชน์เพิ่มเติมอื่น ๆ
Google Demand Gen สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำตามข้อมูลประชากรศาสตร์ ความสนใจ และพฤติกรรมผู้ใช้งาน ช่วยให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีโอกาสซื้อสินค้าสูง นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดงบประมาณแคมเปญได้ตามความต้องการ จึงทำให้สามารถวางแผนการใช้งบประมาณได้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด
Google Demand Gen คือตัวช่วยในการทำธุรกิจออนไลน์ ที่ทำให้คุณเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายได้กว้างและแม่นยำมากกว่าเดิม ทั้งนี้ ถ้าคุณจะหาโซลูชันในการสร้างรายได้และกำไร สามารถใช้เครื่องมือตัวนี้ได้ จะช่วยให้ธุรกิจไปไกลกว่าเดิมแน่นอน !
ทั้งนี้ ถ้าอยากเพิ่มประสิทธิภาพการลงโฆษณาออนไลน์ให้แซงหน้าคู่แข่ง นอกจากใช้ Google Demand Gen แล้วจะต้องมีเครื่องมือดี ๆ อย่าง Mandala Cosmos และ Mandala Analytics เครื่องมือ Social Listening จาก Mandala AI ที่ช่วยบอกเทรนด์ความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าเราจะมีสินค้าอยู่แล้ว หรือยังไม่รู้ว่าจะขายของออนไลน์อะไรดี ก็สามารถช่วยได้ ทดลองใช้ฟรี วันนี้เลย
ข้อมูลอ้างอิง
- หาลูกค้าและทำให้เกิด Conversion ได้ด้วย Demand Gen. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567.
- DEMAND GEN คืออะไร โฆษณารูปแบบใหม่ จาก GOOGLE ADS ที่มาแทน DISCOVERY ใช้ดีไหม เหมาะกับใคร. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567.
- Demand Gen คืออะไร แตกต่างกับ Google Discovery Ads อย่างไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567.
- Evolution from Google Discovery Ads to Demand Gen Campaigns. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567.