ในโลกของการตลาด การออกแบบ และการสร้างแบรนด์ “สี” เปรียบเสมือนภาษาสากลที่มีอิมแพ็กอย่างมากต่อผู้บริโภค เพราะสามารถสื่อสาร ดึงดูดความสนใจ และสร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี ดังนั้น การเลือกใช้สีที่ดึงดูดสายตาจึงถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้
บทความนี้ เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจเทคนิคการเลือกสีสร้างแบรนด์ มาดูกันเลยว่า สีที่ดึงดูดลูกค้ามากที่สุดสำหรับแบรนด์คุณควรเป็นสีไหน ! ที่สำคัญ อย่าลืมติดตามเทรนด์สี และพฤติกรรมความสนใจของกลุ่มเป้าหมายเพื่อผลักดันธุรกิจให้เติบโต ด้วยการดูข้อมูลเชิงลึก (Insight) ของกลุ่มคนเหล่านั้น โดยใช้ Mandala Analytics จาก Mandala AI ในการวิเคราะห์เทรนด์ต่าง ๆ อย่างทันท่วงที
1. จิตวิทยาของสี : นัยและความหมายแฝงที่ส่งผลต่อการรับรู้
ตามที่ได้เกริ่นไปข้างต้นว่า “สี” มีบทบาทสำคัญในการแสดงถึงอารมณ์ ความรู้สึก และความคิดของมนุษย์ผ่านการมองเห็น ดังนั้น การเลือกใช้สีแบรนด์ควบคู่ไปกับการเลือกใช้โลโก้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม เพราะสีแต่ละแบบมีพลังในการโน้มน้าวและให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป ตามหลักจิตวิทยาแล้ว แต่ละสีมีนัยและความหมายแอบแฝงที่ส่งผลต่อการรับรู้อย่างไรบ้าง ไปดูกัน
สีแดง สื่อถึงพลัง ความตื่นเต้น เร้าใจ ดึงดูดความสนใจ
หากแบรนด์ของคุณต้องการความตื่นเต้น เร้าใจ ขอให้นึกถึงสีแดงไว้เลย เพราะสีแดงเป็นสีที่สามารถปลุกอารมณ์ ความรู้สึก ทำให้เลือดสูบฉีดมากที่สุดในบรรดาสีทั้งหมด หลายแบรนด์จึงเลือกใช้สีแดงเพราะเป็นสีที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้ ทั้งยังช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็ว แบรนด์ส่วนใหญ่จึงใช้สีแดงในการทำโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขาย สังเกตได้จากป้าย Sale ตามห้างสรรพสินค้าที่มักใช้สีแดงในช่วงสินค้าลดราคา รวมถึงการทำป้ายเตือนอันตราย ที่ช่วยเรียกร้องความสนใจได้มากขึ้น นอกจากนี้ สีแดงยังเป็นสีที่แทนความรักโรแมนติก และพลังปรารถนาได้อีกด้วย
สีส้ม สื่อถึงความสนุกสนาน มีชีวิตชีวา กระตือรือร้น
ถึงแม้ว่าสีส้มจะเป็นสีที่ไม่ได้ดึงดูดสายตาหรือร้อนแรงเท่าสีแเดง แต่ก็เป็นสีที่ให้ความมีชีวิตชีวา สดชื่น และช่วยสร้างความรู้สึกที่ดีให้แก่ผู้พบเห็น เป็นสีที่แสดงถึงความกระตือรือร้น มั่นใจ กระปรี้กระเปร่า แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความอบอุ่นและเป็นกันเอง เนื่องจากสีส้มเป็นสีโทนอบอุ่น มักเป็นสีที่ใช้สำหรับแบรนด์ของทีมกีฬาต่าง ๆ หรือสินค้าสำหรับเด็กบางประเภท
สีเหลือง สื่อถึงความสดใส ร่าเริง อบอุ่น
ตามหลักจิตวิทยา สีเหลืองถือเป็นสีที่สื่อถึงความสดใส ร่าเริง และสื่อถึงความสุขได้ดีที่สุด เป็นสีที่เพิ่มความมีชีวิตชีวา อบอุ่น ทำให้คนมองโลกในแง่ดี เหมาะสำหรับแบรนด์ที่เน้นความสดใส ซุกซน ขี้เล่น หรือต้องการตอกย้ำความสุข เมื่อผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าหรือใช้บริการ
อย่างไรก็ตาม สีเหลืองก็เป็นสีที่เพิ่มอารมณ์และการตอบสนอง จนอาจทำให้เกิดความกังวลได้เช่นกัน สังเกตได้จากการใช้สีเหลืองเพื่อเตือนภัยบนป้ายจราจร หรือสัญลักษณ์บนถนน ดังนั้น ในการเลือกสีแบรนด์ให้เหมาะสม แนะนำว่าอย่าใช้สีเหลืองเยอะจนเกินไป ไม่เช่นนั้นอาจเป็นการสร้างความกังวลต่อผู้บริโภคได้
สีเขียว สื่อถึงธรรมชาติ สงบ สดชื่น เติบโต
สีเขียว เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบมากที่สุด เพราะสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ ความออร์แกนิก ให้ความรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย และแสดงถึงการเจริญเติบโต โดยในแง่ของการทำธุรกิจนั้น สีเขียวจะแสดงถึงการมีสุขภาพที่ดี มีความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรามักจะเห็นการใช้สีเขียวได้บ่อยครั้งในแบรนด์ที่ส่งเสริมผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น ธุรกิจอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
สีฟ้า สื่อถึงความมั่นคง น่าเชื่อถือ สงบ สุขุม
สีฟ้า เป็นสีแห่งความมั่นคง สื่อถึงความสงบและสุขุม อีกทั้งยังเป็นสีที่แสดงถึงความเป็นมืออาชีพ ความแข็งแกร่ง เป็นผู้ใหญ่ ทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ แบรนด์รถยนต์ เครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ ใช้สีฟ้าในโลโก้ เพื่อส่งเสริมเรื่องความน่าเชื่อ จนทำให้สีฟ้าเป็นสีที่ดึงดูดสายตาลูกค้า กระตุ้นความอยากซื้อ และเป็นทางเลือกในการใช้เป็นสีแบรนด์ที่ดีเลยทีเดียว
สีม่วง สื่อถึงความหรูหรา ลึกลับ น่าค้นหา
หากอยากให้แบรนด์ของคุณดูลึกลับ น่าค้นหา ก็เลือกใช้สีม่วงได้เลย เพราะสีม่วงเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นจินตนาการ แต่ซ่อนความหรูหราและความมั่งคั่งอยู่ในที แบรนด์ส่วนใหญ่ที่เลือกใช้สีม่วงก็เพราะต้องการสื่อว่า “ทุกอย่างเป็นไปได้” เพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งเห็นได้บ่อยในกลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าพวก Anti-Aging และผลิตภัณฑ์เสริมความงาม
สีชมพู สื่อถึงความโรแมนติก อ่อนหวาน น่าทะนุถนอม
สีชมพู เป็นสีที่สื่อถึงความเป็นผู้หญิง มีความโรแมนติก อ่อนหวาน น่าทะนุถนอม และบ่งบอกถึงความเป็น Feminism ได้ดี ในขณะเดียวกันสีชมพูก็เป็นสีที่ให้ความสนุกสนาน สดใส ให้ความรู้สึกที่อ่อนโยน และมีความนุ่มนวล เหมาะสำหรับแบรนด์ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้หญิงโดยตรง เช่น เครื่องสำอาง สกินแคร์ น้ำหอม และร้านเสื้อผ้า รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเด็กอ่อน
สีดำ สื่อถึงพลัง ความลึกลับ น่าค้นหา
หากคุณต้องการปลุกเร้าอำนาจ แสดงถึงความแข็งแกร่ง น่าค้นหา แต่แอบแฝงไปด้วยความเรียบหรู แนวคลาสสิก บอกเลยว่าการใช้สีดำเป็นสีแบรนด์ถือว่าตอบโจทย์เป็นอย่างดี เพราะสีดำทำให้ดูโก้แต่เรียบง่าย เหมาะสำหรับการใช้ในแบรนด์ระดับไฮเอนด์ หรือสินค้าราคาแพง เพื่อสื่อถึงความมีระดับแบบไร้กาลเวลา แต่อาจไม่เหมาะกับธุรกิจประเภทอาหารสักเท่าไร
สีขาว สื่อถึงความบริสุทธิ์ เรียบง่าย สะอาด
สีขาว เป็นสีที่สื่อถึงความบริสุทธิ์ เรียบง่าย และสะอาด มีความไร้เดียงสา นอบน้อม และอ่อนโยน แต่อาจไม่เหมาะกับการใช้เพื่อเป็นสีหลักสีเดียว จึงนิยมนำมาใช้เป็นสีรองเพื่อตัดกับสีอื่น โดยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสีขาว เช่น ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเด็ก เครื่องสำอาง สกินแคร์
เข้าใจความหมายของสีแล้ว อย่าพลาดที่จะเรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค เทรนด์ฮิต และความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ ด้วยเครื่องมือ Mandala Analytics จาก Mandala AI เพื่อช่วยให้คุณวางแผนการรตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. เทคนิคเลือกสีสร้างแบรนด์ : 5 ขั้นตอนสู่ความสำเร็จ
กำหนดภาพลักษณ์ของแบรนด์
อย่ามองข้ามเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ชัดเจนก่อน จงคิดเสมอว่าต้องการให้แบรนด์เราเป็นตัวแทนในเรื่องของอะไร หรืออยากให้ผู้บริโภคมองแบรนด์เราเป็นแบบไหน เช่น เป็นแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นมิตร หรือตื่นเต้นเร้าใจ เพราะการกำหนดภาพลักษณ์ถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ก่อนที่จะเลือกสีแบรนด์เสียอีก
เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
เรียนรู้และทำความเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายเราคือใคร ชอบอะไร ศึกษาความต้องการของพวกเขา เพื่อกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม เมื่อคุณมีความเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายแล้ว คุณก็จะมีไอเดียคอนเทนต์และการสร้างสรรค์กิจกรรมต่าง ๆ ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิเคราะห์คู่แข่ง
วิเคราะห์คู่แข่ง เป็นกระบวนการทางการตลาดที่จำเป็นต่อการทำธุรกิจ เพราะจะทำให้คุณสามารถเข้าใจจุดอ่อน จุดแข็ง กลยุทธ์ทางการตลาดของคู่แข่ง และแนวโน้มของตลาดได้เป็นอย่างดี
เลือกสีแบรนด์หลัก และสีเสริม
อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนน่าจะเข้าใจกันเป็นอย่างดีแล้วว่า สี คือเครื่องมือทางการตลาดที่ช่วยสร้างการจดจำและภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ โดยนักการตลาดจะต้องมีกลยุทธ์ในการเลือกใช้สีที่เหมาะสม ด้วยการลองพิจารณาความหมายของสี ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจสิ่งที่แต่ละสีกระตุ้นความรู้สึกนึกคิดหรือความอยากซื้อของผู้บริโภค จนตัดสินใจซื้อสินค้าและใช้บริการได้ง่ายขึ้น
เทรนด์สี
เพราะสีมีความสำคัญในเชิงธุรกิจ หากเลือกสีที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจ โอกาสที่สินค้าจะได้รับความนิยมก็มีสูงตามไปด้วย ดังนั้น นักการตลาดควรหมั่นติดตามและอัปเดตเทรนด์สีอยู่เสมอ
อยากตามให้ทันเทรนด์สีในช่วงนั้น ๆ แบบไม่มีพลาด เราขอแนะนำเครื่องมือ Madala Analytics จาก Mandala AI ที่มีฟีเจอร์ครบครัน ช่วยให้คุณเข้าใจกลุ่มลูกค้าและรู้เท่าทันทุกการเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคมออนไลน์ ถ้าไม่อยากตกขบวน ทดลองใช้ฟรีได้เลยวันนี้ !