Content Marketing ถือว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ ซึ่งนำไปสู่ยอดขายได้ โดยการสร้างคอนเทนต์การตลาดให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องรู้ให้เท่าทันโลก หมั่นสำรวจเทรนด์และเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อนำมาเป็นไอเดียในการออกแบบกลยุทธ์สำหรับ Content Marketing โดยขอแนะนำ Mandala Cosmos จาก Mandala AI หรือเครื่องมือทำคอนเทนต์การตลาดที่สามารถรวบรวมกระแสที่กำลังได้รับความนิยมบนทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ไว้ในที่เดียว เพื่อให้นักการตลาดสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาปรับใช้ในการกำหนด Keyword & Hashtag ที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
หลังจากสร้างคอนเทนต์ออกมาแล้ว การวัดผลประสิทธิภาพของ Content ก็เป็นสิ่งที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม เพราะสามารถช่วยวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน เพื่อปรับปรุงให้คอนเทนต์การตลาดมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถวัดผล Content ได้อย่างไรบ้าง ตามไปหาคำตอบพร้อมกันด้านล่างนี้ได้เลย
ทำไมต้องวัดผล Content ?
การวัดผลอย่างเป็นระบบมีส่วนสำคัญในการช่วยชี้ให้เห็นถึงผลลัพธ์ของกลยุทธ์ในลักษณะที่จับต้องได้ ดังนั้น การนำขั้นตอนการวัดผล KPI คอนเทนต์ มาปรับใช้จึงมีประโยชน์กับนักการตลาดในแง่ของการฉายให้เห็นประสิทธิภาพของกลยุทธ์ Content Marketing ได้อย่างรอบด้าน ดังนี้
เข้าใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
แม้การทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายจะเป็นขั้นตอนแรกสุดที่นักการตลาดควรทำก่อนเริ่มวางแผนกลยุทธ์ แต่บ่อยครั้งที่ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายมีความคลาดเคลื่อนจากสถานการณ์จริง หรืออาจขาดข้อมูลสำคัญบางประการจนทำให้ผลลัพธ์จากกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงตามความเป็นจริง การนำเกณฑ์การวัดผล Content มาปรับใช้จึงมีประโยชน์ ทั้งในส่วนของการชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาด อีกทั้งยังช่วยให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น จนสามารถพัฒนา Content Marketing ให้ตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รู้ทิศทางที่ชัดเจน สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
การวัดผล KPI Content คือการชี้ให้นักการตลาดมองเห็นถึงจุดแข็งและจุดอ่อนในกลยุทธ์ โดยแสดงผลลัพธ์ให้เห็นเป็นรูปธรรมว่า คอนเทนต์ไหนที่ได้รับความนิยม หรือคอนเทนต์แนวไหนที่กลุ่มเป้าหมายไม่สนใจ จึงมีส่วนช่วยให้แบรนด์รู้ทิศทางการวางกลยุทธ์ที่ชัดเจนว่า อะไรคือจุดแข็งที่ควรเก็บไว้ และอะไรคือจุดอ่อนที่ควรแก้ไข เพราะการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและกำหนดทิศทางที่ชัดเจนในการวางกลยุทธ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ คือหัวใจสำคัญของการสร้างคอนเทนต์การตลาดยุคใหม่ ดังนั้น การมีเครื่องมือที่จะช่วยจะทำการรวบรวมทุกข้อมูล Insight มาให้นักการตลาดได้ทราบ อย่าง Mandala Analytics จาก Mandal AI จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพื่อให้นักการตลาดสามารถปรับกลยุทธ์ของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ฉับไว และสอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า
เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว แน่นอนว่าประโยชน์ข้อถัดมาที่นักการตลาดจะได้รับโดยปริยาย หากแต่มีความสำคัญอย่างยิ่งคือ การใช้งบประมาณที่มีให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น โดยสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนไม่จำเป็นที่เกิดจากการสร้างคอนเทนต์ไม่มีคุณภาพ ทำให้สามารถจัดสรรงบเพิ่มในส่วนที่จำเป็นไปสร้างสรรค์คอนเทนต์การตลาดได้อย่างตรงจุด
ปรับแต่งกลยุทธ์ได้อย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากโลกยุคออนไลน์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับไว ดังนั้นการวัด KPI Content จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เปิดโอกาสให้นักการตลาดปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และทันท่วงที
การวัดผล KPI คอนเทนต์ ดูจากอะไรได้บ้าง ?
แม้ขั้นตอนการวัดผล KPI คอนเทนต์อาจจะแตกต่างกันไปในแต่ละแพลตฟอร์มออนไลน์ แต่โดยทั่วไปแล้วเราสามารถวัดผลลัพธ์ของ Content ได้จากยอดผู้เข้าชม การมีส่วนร่วม รวมถึงตัวเลขที่แปลงมาเป็นยอดการขาย ซึ่งหากมีตัวเลขเยอะเท่าไรก็ยิ่งแปลว่า คอนเทนต์การตลาดสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถวัดผล Content ได้จากการสังเกตองค์ประกอบ ตามรายละเอียด ดังต่อไปนี้
การรับรู้ หรือ Awareness (Reach, Impression, Traffic)
ยอดการรับรู้ คือ ยอดที่จะช่วยให้มองเห็นว่าหลังจากที่เผยแพร่คอนเทนต์ไปแล้ว มียอดผู้เข้าชมคอนเทนต์ทั้งหมดเท่าไร โดยสามารถแบ่งย่อยลงไปได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- Reach หรือยอดของ Account ที่เข้ามาอ่าน หรือดูคอนเทนต์ โดย 1 Account จะนับเป็น 1 Reach
- Impression ซึ่งเป็นยอดที่บ่งบอกว่าคอนเทนต์ของแบรนด์ได้มีการแสดงผลบน Feed หรือ Timeline ทั้งหมดกี่ครั้ง
การมีส่วนร่วม หรือ Engagement (Like, Share, Comment)
เป็นยอดวัดผล Content ที่จะแสดงให้นักการตลาดเห็นว่า คอนเทนต์ของเรามีการตอบรับจากผู้ใช้งานที่เห็นคอนเทนต์ด้วยวิธีไหนบ้าง โดยแสดงผลออกมาเป็นจำนวนการ Like, Share และ Comment ซึ่งข้อมูลที่ได้จาก Engagement ถือว่ามีความสำคัญในการช่วยให้แบรนด์และนักการตลาดทราบถึงความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายที่มีต่อตัวคอนเทนต์ หากคอนเทนต์มียอด Engagement โดดเด่นเป็นจำนวนมากกว่าอันอื่น ก็อาจบอกได้ว่าเป็นคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ตรงความชอบของผู้ติดตาม รวมถึงคนทั่วไป ซึ่งแบรนด์สามารถนำโครงสร้างคอนเทนต์ไปวิเคราะห์และนำมาปรับใช้กับคอนเทนต์อื่น เพื่อเสริมประสิทธิภาพ Content Marketing ได้ในอนาคต
การแปลงไปสู่ผลลัพธ์ หรือ Conversion (Sales)
เพราะผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นหลังการทำคอนเทนต์ คือเป้าหมายหลักของการทำธุรกิจ ซึ่ง Conversion สามารถบ่งบอกได้ถึงตัวเลขความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่เห็นคอนเทนต์ ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แท้จริง เช่น การสั่งซื้อ การสมัครสมาชิก หรือการกดปุ่มติดต่อ โดยนักการตลาดสามารถตรวจสอบตัวเลขเหล่านี้ได้ผ่าน Conversion Rate ซึ่งจะเป็นการชี้วัดผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ชัดเจน ช่วยให้ทราบว่าคอนเทนต์การตลาดกลยุทธ์ไหนที่สามารถสร้างรายได้ หรือเพิ่มลูกค้า ให้แก่ธุรกิจได้บ้าง
การสร้างเทรนด์
นอกจากการวัดผลด้วยตัวเลขข้างต้นแล้ว การเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง หรือขึ้นคำค้นหาในโซเชียล ก็เป็นอีกสิ่งที่หลายแบรนด์อยากทำให้สำเร็จ ซึ่งโดยปกติแล้วแพลตฟอร์มออนไลนมักจะมีการจัดอันดับของเนื้อหาที่ได้รับความนิยม ทั้งในรูปแบบของ Hastag ที่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง รวมถึงการขึ้นคำค้นหา ซึ่งนักการตลาดสามารถตรวจสอบฟีดแบ็กที่ได้จากการเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านช่องทางดังกล่าวว่า คอนเทนต์ที่ทำได้ขึ้นไปอยู่ในเทรนด์ หรือเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงบ้างหรือไม่
อ่านมาถึงตรงนี้ คงสรุปได้แล้วว่าการวัดผล Content เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลที่ได้จากกลุ่มเป้าหมายหลังจากการเผยแพร่คอนเทนต์การตลาดมีส่วนช่วยสำคัญที่ทำให้นักการตลาดเข้าใจแนวทางในการออกแบบและปรับปรุงกลยุทธ์ ขอแนะนำการเสริมประสิทธิภาพการทำคอนเทนต์ด้วยเครื่องมือจาก Mandala AI ไม่ว่าจะเป็น Mandala Cosmos ที่จะคอยรวบรวมข้อมูลที่กำลังเป็นกระแสบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ ให้นักการตลาดในการเลือก Keyword & Hashtag ที่เหมาะสมในการทำคอนเทนต์ หรือ Mandala Analytics ที่จะทำการวิเคราะห์และบอกข้อมูลเชิงลึกให้สามารถทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถสร้างสรรค์ Content Marketing ได้สุดปังไม่ซ้ำใคร ทดลองใช้บริการฟรี ติดต่อเจ้าหน้าที่ของเราเลย
ข้อมูลอ้างอิง:
- 5 Ways to Measure the Success of Your Content Marketing Efforts. สืบค้นวันที่ 24 มิถุนายน 2567
- How to Measure Content Marketing Performance. สืบค้นวันที่ 24 มิถุนายน 2567