รวมช่องทางการตลาดออนไลน์ ที่สำคัญ [พร้อมเครื่องมือช่วยเหลือ]

ยุค E-Commerce ที่ช่องทางการตลาดเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ และยังส่งผลไปถึงออฟไลน์ด้วยนั้น  เป็นเรื่องสำคัญสำหรับแบรนด์และนักการตลาดที่จำเป็นต้องมีตัวช่วยในการดูพฤติกรรมลูกค้าในช่วงเวลานั้น ๆ เพื่อให้ได้ Insight ของลูกค้าได้มากที่สุด แล้วต่อยอด สร้างแคมเปญทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จได้ 

แน่นอนว่าการใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่ดี แต่การมีเครื่องมือที่ดีควรจะมาพร้อมกับพื้นฐานความเข้าใจการตลาดไปพร้อม ๆ กัน วันนี้เราจะชวนมาทำความเข้าใจช่องทางการตลาด ความสำคัญและการใช้เครื่องมือ Social Monitoring ที่ช่วยให้ติดตามพฤติกรรมของลูกค้าได้ในหน้าเดียว มาดูไปพร้อมกันเลย

ช่องทางการตลาดออนไลน์ คืออะไร

ช่องทางการตลาด คือ พื้นที่ที่สามารถนำข้อดี จุดขายของสินค้าหรือบริการของเรานำเสนอไปสู่กลุ่มเป้าหมายหรือสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งช่องทางการตลาดออนไลน์ในยุคสมัยนี้ วัดผลเป็นตัวเลขและรูปธรรมได้ง่ายกว่าเดิม ซึ่งใช้ปัจจัยสำคัญ ๆ อย่าง Traffic, Reach, Engagement, CTR%, Conversion rate เป็นต้น ทำให้การเลือกช่องทางการตลาดที่ใช้ประชาสัมพันธ์หรือโฆษณาแคมเปญทางการตลาดมีจุดเปรียบเทียบเป็นรูปธรรมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย 

ทำให้ช่องทางการตลาดออนไลน์ใช้เป็นจุดวัดผลกับแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถเลือกได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะผ่านแอปพลิเคชัน ผ่านเว็บไซต์ ผ่านอุปกรณ์ที่ใช้งาน ไปจนถึงผ่านตำแหน่ง หรือคีย์เวิร์ดที่ค้นหาของกลุ่มเป้าหมายได้ เป็นต้น ทั้งหมดล้วนเข้าถึงและเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวัน พฤติกรรมการใช้งานอินเตอร์เน็ต เพื่อหาทัชพอยท์และเชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายให้ได้แนบเนียนและราบเรียบไร้รอยต่อมากที่สุดนั่นเอง

ทำไมช่องทางการตลาดออนไลน์ถึงสำคัญ

การที่เข้าใจช่องทางการตลาดหรือเลือก ‘Marketing Channel’ ให้มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มโอกาสให้แคมเปญการตลาดของเราประสบความสำเร็จได้มากขึ้น หากเลือกช่องทางได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่เพิ่มยอดขายเท่านั้น ยังสามารถสร้างแบรนด์ สร้างความเชื่อใจ สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างเข้าใจ ลึกซึ้งและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย นักการตลาดหรือแบรนด์จะเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าได้ง่ายขึ้น ทำความรู้จักกับลูกค้าได้ใกล้ชิดขึ้น สื่อสารตอบโต้กันได้ดีขึ้น และสร้างลูกค้าที่เป็นแฟนคลับของแบรนด์ได้กว้างขึ้นนั่นเอง

ช่องทางการตลาดมีรูปไหนบ้าง

การสื่อสารทางการตลาดปกติแล้วจะแบ่งง่าย ๆ เป็น 2 แบบ คือ ออนไลน์และออฟไลน์ โดยแต่ละแพลตฟอร์มจะมีช่องทางการสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่แตกต่างกันไป ตามแคมเปญ พฤติกรรมของผู้บริโภค ไปจนถึงงบประมาณในการเลือกใช้ ทำให้การเลือกช่องทางพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมาย สำคัญพอ ๆ กับการวางกลยุทธ์ วางแผน หรือการออกแบบแคมเปญอีกด้วย โดยช่องทางต่าง ๆ ที่สำคัญสามารถลงรายละเอียดได้ดังนี้

Online

1. Social media เป็นช่องทางพื้นฐานสำหรับนักการตลาดในการเลือกใช้ เพราะช่องทางนี้สื่อสารไปยังผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง แบรนด์สามารถเรียนรู้พฤติกรรม สัมผัสความคิด ทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายได้เลยว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร มีความคิดเห็นอย่างไรได้ลึกซึ้งและเป็นรูปธรรมได้นั่นเอง

2. Website อีกหนึ่งช่องทางที่สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งกระทู้หรือหัวข้อการพูดคุย การแสดงแบนเนอร์โฆษณา หรือการโชว์ข้อดีของสินค้าหรือบริการว่าทำอะไรได้บ้างให้กลุ่มเป้าหมายเข้าไปเก็บเป็นข้อมูลเพื่อประกอบการใช้งานสินค้าหรือบริการนั้น ๆ นั่นเอง

3. Email marketing อีกช่องทางที่เข้าถึงลูกค้าและประชาสัมพันธ์ข้อดีของสินค้า มอบดีลพิเศษ หรือมอบความพิเศษเฉพาะกลุ่มเป้าหมายตามพฤติกรรมให้กับลูกค้าได้ แถมยังสามารถสร้างความพิเศษให้กับกลุ่มเป้าหมายด้วยโปรโมชัน สิทธิพิเศษ ส่วนลดเฉพาะผู้ที่ได้รับอีเมล์ ได้อีกด้วย

ศึกษาเพิ่มเติม: เพิ่มยอดขายด้วย Email marketing

4. SEO marketing เป็นช่องทางที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงได้ผ่านการค้นหาข้อมูลสินค้า บริการ เพื่อประกอบการตัดสินใจ การที่มีบทความหรือข้อมูลที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ผ่านช่องทางการค้นหา ก็ช่วยสื่อสารและสร้างการตัดสินใจของลูกค้าได้ดีขึ้น

5. Advertising เรียกว่าเป็นพื้นฐานการสื่อสารและการตลาดโดยตรงต่อลูกค้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตามงบประมาณและการวางแผนโฆษณาที่ทำกันหลาย ๆ แบรนด์เพื่อบอกข้อดีของสินค้านั้น ๆ ได้โดยตรงและสร้างความคุ้นเคยให้กับกลุ่มเป้าหมายได้นั่นเอง

6. Influencer Marketing การสร้างการสื่อสารผ่าน Influencer เป็นอีกหนึ่งวิธีการสื่อสารจากแบรนด์ไปสู่กลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรีวิว การหยิบสินค้าไปสร้างคอนเทนต์ ไปจนถึงการโฆษณาแฝงด้วยอินฟลูเอนเซอร์คนนั้น ๆ ก็สามารถบอกวิธีการใช้ ข้อดี หรือข้อสังเกตการใช้งานให้กับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ได้

7. Video อีกหนึ่งรูปแบบและวิธีการที่บอกเล่าสินค้าและบริการที่สามารถสื่อสารได้โดยตรงกับกลุ่มเป้าหมาย สามารถแสดงอารมณ์ วิธีการใช้ ความรู้สึก การสัมผัส ซึ่งทำให้ลูกค้าได้เห็นภาพจริง การใช้จริง สามารถคิดต่อและจินตนาการได้ต่อว่าจะใช้งานสินค้าหรือบริการเหล่านี้ได้อย่างไร

ศึกษาเพิ่มเติม: 10 video content ที่กำลังฮิต

Offline

1. Event เป็นช่องทางการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง สามารถเข้าไปลอง สัมผัส ใช้งานสินค้าหรือบริการได้จริง และสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย

2. หนังสือพิมพ์ / วารสาร เป็นการสร้างเครดิตให้กับแบรนด์ ซึ่งทำให้กลุ่มเป้าหมายได้สัมผัสกับแบรนด์ในชีวิตจริง ได้รับรู้และลดช่องว่างระหว่างกลุ่มเป้าหมายและแบรนด์ให้ใกล้ชิดกว่าเดิม อีกทั้งยังสามารถใช้อ้างอิง หรือเป็นหลักประกันเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้เป็รอย่างดี

3. Billboard เป็นการบอกเล่าหรือประกาศที่สำคัญเพื่อบอกให้กลุ่มเป้าหมายและผู้ใช้งานทั่วไปเข้าถึงข้อความและการสื่อสารของแบรนด์ได้เป็นวงกว้าง ซึ่งการใช้ช่องทางนี้เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมหากต้องการประชาสัมพันธ์หรืออัปเดตข้อมูลที่สำคัญจากแบรนด์ ตั้งแต่การออกสินค้าใหม่ การออกแคมเปญใหม่ ไปจนถึงรณรงค์บางอย่างนั่นเอง 

4. Word of mouth การบอกเล่าปากต่อปากเกิดจากแบรนด์ทำบางสิ่งบางอย่างที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเพื่อให้บริการหรือแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้สมบูรณ์ที่สุดและทำให้ลูกค้าประทับใจมากที่สุด ซึ่งจะเกิดการส่งต่อและบอกกล่าวไปยังลูกค้าโดยอัตโนมัตินั่นเอง

ตัวช่วยในการสำรวจช่องทางการตลาดออนไลน์

จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 ช่องทางสามารถสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ หากวางแผน และวางกลยุทธ์การสื่อสารได้อย่างดี ซึ่งหากต้องการช่องทางที่ได้ผลดีที่สุด ก็จำเป็นต้องรู้ว่า ณ ช่วงเวลานั้นกลุ่มเป้าหมายรับรู้ข่าวสาร หรือกำลังอินกับเทรนด์ใดบ้างถึงแม้ว่าการติดตามเทรนด์ในโลกออฟไลน์จะเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่เรายังสามารถพึ่งพาโลกออนไลน์ได้ เพราะเมื่อกลุ่มเป้าหมายรู้สึกอะไร สัมผัสอะไร โลกออนไลน์จะเป็นพื้นที่ที่จะแสดงออกถึงความรู้สึก หัวข้อและการพูดคุย ณ ช่วงเวลานั้นได้อย่างดี ไม่ว่าจะผ่าน #Hashtag หัวข้อ แฟนเพจดัง ๆ เพจข่าว หรือผ่านอินฟลูเอนเซอร์ กระแสต่าง ๆ จะผ่านหน้าฟีดบนแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียโดยตรง

อย่างไรก็ตามการจะติดตามเทรนด์ต่าง ๆ ต้องการความรวดเร็ว ทันกระแส เพื่อรับมือหรือวางแผนการตลาดได้อย่างทันท่วงที ตัวช่วยในการเช็กเทรนด์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อไม่ให้พลาดและสามารถออกแบบแคมเปญ ปรับแผนการตลาดได้ทัน ก็ต้องมีตัวช่วยเอาไว้บ้าง ซึ่งเครื่องมือโซเชียลมอนิเตอร์ที่อยากมาแนะนำ ก็คือ Mandala Cosmos ที่มีฟังก์ชันแตกต่างจากตัวอื่น นั่นก็คือ Ripples ที่ทำให้นักการตลาดหรือแบรนด์สามารถติดตามเทรนด์บนโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว เพราะการใช้งานฟีเจอร์นี้ นักการตลาดจะเป็นคนสร้างเพลย์ลิสต์ จัดกลุ่มโซเชียลมีเดียได้ครบทั้ง Facebook, X, YouTube, Instagram แสดงผลบนแดชบอร์ดเดียว ที่จะช่วยให้การติดตามเทรนด์และกระแสมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถดูยอด Engagement ดูแนวโน้มของโพสต์นั้น ๆ ว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไรได้อีกด้วย 

เรียกได้ว่าหากมีเครื่องมือ หรือใช้ฟังก์ชันนี้ก็สะดวกสบาย และตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะปรับแผนการตลาด วางแคมเปญได้อย่างไรบ้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของแคมเปญเพื่อให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นอีกด้วย

สรุป

สิ่งสำคัญในการสื่อสารผ่านช่องทาต่าง ๆ ไปยังลูกค้า เป็นสิ่งสำคัญกับแบรนด์และนักการตลาดไม่น้อยไปกว่า กลยุทธ์หรือส่วนอื่น ๆ ในการทำตลาดเลย หากสื่อสารได้อย่างดี รู้จักเทรนด์ สื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายด้วยภาษาที่ตรงกับพฤติกรรมนั้น ๆ หรือวางแผนการสื่อสารได้อย่างมีระบบ ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้กลยุทธ์หรือแผนการตลาดที่วางไว้สร้างอิมแพค ส่งผลดีให้กับแบรนด์ได้เลยทีเดียว