Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

แผนการตลาดออนไลน์ฉบับเข้าใจง่าย อธิบายทีละขั้นตอน!

แผนการตลาดออนไลน์ฉบับเข้าใจง่าย อธิบายทีละขั้นตอน!

ในโลกธุรกิจปัจจุบัน หากต้องการประสบความสำเร็จ การมีคุณภาพสินค้าที่ดีเพียงอย่างเดียวไม่พออีกต่อไป เพราะต่อให้สินค้าจะคุณภาพดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีใครหยิบมาดูก็ไร้ประโยชน์ โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ที่ผู้คนพร้อมจะไถผ่านสิ่งที่พวกเขาไม่สนใจไปภายในเสี้ยววินาที ด้วยเหตุนี้ การวางแผนการตลาดออนไลน์ หรือ Online Marketing จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอย่างชาญฉลาด โดยใช้เครื่องมืออย่าง Mandala Analytics จาก Mandala AI เพื่อให้เข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และนำมาพัฒนาเป็นแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Mandala AI ตัวช่วยทำการตลาด ลองใช้เลย

บทความนี้ได้หยิบยกเรื่องการวางแผนการตลาดออนไลน์มาอธิบายแบบเข้าใจง่าย ไล่เลียงไปแบบทีละขั้นตอน อ่านจบ ผู้ประกอบการสามารถทำตามได้เลย

Step 1: การวิจัยตลาดและการตั้งเป้าหมาย

ในสงคราม หากต้องการได้รับชัยชนะ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้ว่ารบอยู่กับใคร ศัตรูมีจุดอ่อน-จุดแข็งตรงไหน ในโลกของการทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน การทำแผนการตลาดออนไลน์จึงต้องเริ่มขั้นตอนแรกด้วยการสำรวจวิจัยตลาด
จุดประสงค์ของการวิจัยตลาดเพื่อเข้าใจสภาพแวดล้อมของธุรกิจ รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคและคู่แข่ง โดยข้อมูลที่ได้จากการวิจัยจะช่วยให้ธุรกิจกำหนดเป้าหมายทางการตลาดได้อย่างเหมาะสม เป้าหมายทางการตลาดควรมีความชัดเจน เป็นรูปธรรม และสามารถวัดผลได้ เช่น เพิ่มยอดขาย เพิ่มจำนวนผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย หรือเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์

Step 2: เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเงินถุงเงินถังในการใช้ทำการตลาดออนไลน์ ก็อาจจะข้ามวิธีวางแผนการตลาดออนไลน์ในข้อนี้ไปได้ แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจรายย่อย หรือ SME การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในปัจจุบัน แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างก็มีระบบนิเวศเป็นของตัวเอง พฤติกรรมของผู้ใช้งานแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้น ถ้าคุณไม่ได้มีงบประมาณเพียงพอสำหรับวางแผนการตลาดออนไลน์ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกแพลตฟอร์ม ก็อย่า “จับปลาหลายมือ” ด้วยการทำคอนเทนต์ที่แนวหว่านแหให้ใช้ได้ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์ม เพราะถ้าอย่างนั้น มีโอกาสสูงที่จะไม่โดดเด่นในแพลตฟอร์มไหนเลย ดังนั้น ทางที่ดีคือให้เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับประเภทสินค้า รวมถึงตัวตนของแบรนด์
ตัวอย่างเช่น หากต้องการทำ Online Marketing ให้กับแบรนด์เสื้อผ้าหรูสำหรับผู้ชาย ก็ให้เน้นไปที่แพลตฟอร์ม Instagram ซึ่งตอบโจทย์กับคอนเทนต์ประเภทรูปภาพ และวิดีโอ

Step 3: การวางแผนคอนเทนต์

เมื่อได้ข้อสรุปแล้วว่าการวางแผนการตลาดออนไลน์ที่จะทำมีคู่แข่งเป็นใคร ต้องการสร้างสรรค์คอนเทนต์เสิร์ฟคนกลุ่มไหน ผ่านแพลตฟอร์มใด ก็ถึงเวลาลงรายละเอียดว่าประเภทคอนเทนต์ที่จะทำเป็นแบบไหนดี ตัวอย่างเช่น

  • บล็อก: จุดเด่นคือการสามารถใส่รายละเอียดของสินค้าที่ต้องการได้อย่างลงลึก แต่สำหรับบางกลุ่มเป้าหมายก็อาจจะย่อยยากเกินไป
  • อินโฟกราฟิก: จุดเด่นคือย่อยง่าย เสพง่าย อ่านสนุก แต่ก็อาจจะใส่รายละเอียดที่ต้องการได้ไม่ครบถ้วน
  • วิดีโอ: เป็นหนึ่งในประเภทคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่เมื่อทำก็ต้องมั่นใจว่าจะปัง เพราะใช้งบประมาณมาก และหากเปิดวิดีโอมา 3-5 วินาทีแล้วเนื้อหาไม่น่าสนใจพอ ผู้คนก็พร้อมเปลี่ยนไปดูอย่างอื่น

นอกจากในส่วนของเนื้อหาแล้ว เวลาในการโพสต์ก็ถือว่าเป็นวิธีวางแผนการตลาดออนไลน์ที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะต้องอย่าลืมว่าคุณกับคู่แข่งกำลังแย่งส่วนแบ่งตลาดเดียวกันอยู่ ดังนั้นโพสต์ของใครมีคนเห็นมากกว่าก็ย่อมได้เปรียบ โดยจากข้อมูลของ Sprout Socials และ HubSpot เว็บไซต์ชั้นนำด้านการตลาด Social Media ระบุว่าเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์โซเชียลมีเดียในปี 2023 ในแต่ละแพลตฟอร์มมีดังนี้

  • Facebook: 12.00-15.00 น. และ 18.00-21.00 น
  • Instagram: 10.00-12.00 น. และ 16.00-18.00 น.
  • Twitter: 8.30-9.23 น. และ 10.00 น.
  • LinkedIn: 10.00-12.00 น. และ 16.00-18.00 น.
  • TikTok: 10.00-12.00 น. และ 16.00-18.00 น.

สิ่งที่ต้องมีควบคู่กับวิธีวางแผนการตลาดออนไลน์อย่างรอบคอบคือ เครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจ Insight กลุ่มเป้าหมาย เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้แผนการตลาด ดังนั้น ขอแนะนำ เครื่องมือ Mandala Analytics จาก Mandala AI ที่จะช่วยให้การวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายแม่นยำยิ่งขึ้น

Mandala AI ตัวช่วยทำการตลาด ลองใช้เลย

Step 4: กลยุทธ์เผยแพร่

ถึงแม้ว่าจะวางแผนมาอย่างรอบคอบ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นการสำรวจตลาด การวางแผนคอนเทนต์ ไปจนถึงการโพสต์ แต่เราก็ไม่อาจมั่นใจได้ว่าคอนเทนต์จะปังอย่างที่คิด ดังนั้น เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ การทำแผนการตลาดออนไลน์จึงมีขั้นตอนเกี่ยวกับ กลยุทธ์เผยแพร่คอนเทนต์ โดยแบ่งเป็น 2 ข้อดังนี้

  • Soft Launch: เป็นขั้นตอนเริ่มต้นของการทำแคมเปญการตลาดออนไลน์ โดยเริ่มเผยแพร่คอนเทนต์ต่าง ๆ ในกลุ่มเล็ก ๆ เพื่อดูผลตอบรับเบื้องต้นก่อนว่าตรงกับที่วางเป้าหมายไว้หรือไม่  
  • Full-scale Launch: เมื่อมั่นใจจากการ Soft Launch แล้วว่าคอนเทนต์ที่ทำออกมาได้รับผลตอบรับที่ดี ก็ถึงเวลา Full-scale Launch ที่จะเป็นการเดินหน้าแคมเปญ Online Marketing สู่วงกว้าง
วิธีวางแผนการตลาดออนไลน์ ต้องทำอย่างไรบ้าง

Step 5: การติดตามผล

ถึงแม้แคมเปญที่ทำมาจะออกสู่สายตากลุ่มเป้าหมายแล้ว แต่การวางแผนการตลาดออนไลน์ก็ยังไม่ได้จบลงเพียงเท่านี้ เพราะถ้าอยากประสบความสำเร็จ ก็ต้องคอยหมั่นตรวจสอบผลตอบรับอยู่เสมอ ตาม 2 แนวทางดังต่อไปนี้

  • การตรวจสอบ KPI: เพื่อให้แน่ใจว่าแคมเปญบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ โดย KPI เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของแคมเปญและสามารถวัดได้หลายวิธี เช่น จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ จำนวนการดาวน์โหลด จำนวนการสมัครสมาชิก และยอดขาย
  • การประเมิน ROI:  ROI คืออัตราผลตอบแทนจากการลงทุน และเป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพของแคมเปญทางการเงิน ได้แก่ ต้นทุนต่อการเข้าชมเว็บไซต์ ต้นทุนต่อการซื้อ และต้นทุนต่อลูกค้าใหม่ 

เปลี่ยน Online Marketing ให้เป็นเรื่องง่ายด้วยเครื่องมือจาก Mandala AI

ถึงตรงนี้ ทุกคนคงเข้าใจชัดเจนแล้วว่า การวางแผนการตลาดออนไลน์ต้องทำอย่างไร และมีขั้นตอนไหนบ้าง แต่ถ้าหากต้องการตัวช่วยที่ทำให้ Online Marketing เป็นเรื่องง่ายขึ้น แนะนำ Mandala AI ผู้ให้บริการเครื่องมือ Mandala Analytics โซลูชันในการทำ Social Listening ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการธุรกิจในยุคดิจิทัล ลงทะเบียนทดลองใช้ Mandala Analytics และ Mandala Cosmos รวมทั้งรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้าน Social Listening ได้ฟรีที่เว็บไซต์ของเรา

Mandala AI ตัวช่วยทำการตลาด ลองใช้เลย

  • หมวดหมู่ :
สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.