เคยไหม…ที่เลื่อนฟีดโซเชียลมีเดียอยู่ดี ๆ สายตาก็พลันสะดุดเข้ากับโพสต์รีวิวสินค้าชนิดหนึ่ง และเมื่อลองอ่านดู จากที่ไม่เคยสนใจสินค้าประเภทนี้มาก่อนเลย กลับกลายเป็นว่ารู้สึกอยากได้ขึ้นมาทันที กดสั่งซื้อกันแทบไม่ทัน นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า “การป้ายยา” และคำ ๆ นี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ศัพท์แสงไว้พูดเอาฮาเท่านั้น แต่คืออีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่เข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งในโลกยุคออนไลน์ ดังนั้น
การใช้อินฟลูเอนเซอร์ หรือ KOLs จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งแบรนด์จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย Mandala Analytics จาก Mandala AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มพลังในการป้ายยา โดยการเลือกอินฟลูเอนเซอร์ หรือ KOLs ที่มีประสิทธิภาพให้
ทำคอนเทนต์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ด้วย Mandala AI
บทความนี้จึงจะมาอธิบายให้กระจ่างว่าการป้ายยาคืออะไร พร้อมแนะนำเทคนิคการป้ายยาที่มีประสิทธิภาพ ติดตามได้เลย
การป้ายยาคืออะไร?
ถึงแม้จะดูเป็นศัพท์วัยรุ่นยุค Gen Z แต่จริง ๆ แล้วการป้ายยาคือสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมเรามาอย่างยาวนานแล้ว อธิบายให้เห็นภาพ สมมติว่าเพื่อนสนิทของคุณไปกินอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งมา แล้วรู้สึกว่าอร่อยแสงออกปาก จนอดไม่ได้ที่จะมาบอกต่อเรื่องนี้ให้คุณฟัง ส่วนคุณหลังจากที่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกคล้อยตาม จนอยากไปลองกินดูบ้าง นี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าการป้ายยา
ดังนั้น แท้จริงแล้วการป้ายยา เดิมทีก็คือสิ่งที่เรียกว่า “การตลาดแบบปากต่อปาก (Word-of-Mouth Marketing)” เพียงแต่ในปัจจุบัน เมื่อมีโลกออนไลน์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลไก รูปแบบการตลาดแบบปากต่อปากจึงมีความแตกต่างกับเมื่อก่อนพอสมควร เนื่องจากโลกออนไลน์เชื่อมต่อคนทั่วโลกเข้าไว้ด้วยกัน ทุกคนสามารถติดต่อกันได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ดังนั้น ในฐานะผู้ประกอบการก็สามารถที่จะป้ายยาผู้คนวงกว้างได้ภายในครั้งเดียว และทางตรงกันข้าม ฝ่ายผู้บริโภคก็สามารถโดนป้ายยาจากใครก็ได้ในโลกออนไลน์เช่นกัน
และการที่บทความนี้จั่วหัวมาว่าการตลาดป้ายยามีอิทธิพลอย่างมากสำหรับคนยุคนี้ ก็ไม่ใช่การโกหกพกลม แต่สามารถยืนยันได้จากผลสำรวจของ Nielsen ที่ระบุว่าผู้บริโภค 70% ให้ความเชื่อถือต่อคำแนะนำจากเพื่อน ครอบครัว คนใกล้ตัว หรือ KOL ที่พวกเขาเชื่อถือมากกว่าโฆษณา โดยผู้บริโภค 83% ระบุว่าพวกเขาจะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่เพื่อนหรือครอบครัวแนะนำ
ข้อดีของการตลาดแบบป้ายยา
- Conversion Rate สูง: ในขณะที่การทำโฆษณาออนไลน์โดยทั่วไป หากได้ยอด Conversion Rate 1-2% ก็ถือว่าสำเร็จแล้ว แต่สำหรับการตลาดแบบป้ายยา มีโอกาสที่ Conversion Rate จะสูงกว่าเท่าตัว เนื่องจากผู้บริโภคมีความเชื่อถือต่อผู้ที่มาป้ายยา ทำให้รู้สึกคล้อยตามได้ง่าย
- ใช้งบในการทำโฆษณาน้อย: เมื่อเปรียบเทียบกับการทุ่มงบทำแคมเปญโฆษณาใหญ่โต ยิงแอดรัว ๆ ไปจนถึงการติดป้ายบิลบอร์ด การทำโฆษณาแบบป้ายยาใช้งบน้อยกว่ามาก เพราะสิ่งเดียวที่ต้องจ่ายคือค่าตัว KOL ที่มีความน่าเชื่อถือในวงการนั้น ๆ ซึ่งพวกเขาอาจจะไม่ใช่คนดัง ดังนั้นเรตการ์ดจึงถูกกว่าศิลปินดาราแน่นอน
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ: แทนที่จะเป็นการหว่านแห อัดงบยิงแอดให้คนเห็นเยอะ ๆ แต่การป้ายยาคือทางเลือกที่ตรงข้าม เพราะวิธีนี้จะเข้าถึงคนในวงแคบกว่า อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนดังกล่าวก็จะมีความสนใจในตัวสินค้าที่สูง เรียกได้ว่าเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เน้นคุณภาพมากกว่าจำนวน
อยากป้ายยาให้กลุ่มเป้าหมายคล้อยตาม ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ช่วยในการเข้าใจ Insight กลุ่มเป้าหมายอย่างทะลุปรุโปร่งอย่าง Mandala Analytics จาก Mandala AI โซลูชัน Social Listening ที่รวบรวมข้อมูลจากโลกออนไลน์มาวิเคราะห์หาพฤติกรรมลูกค้าอย่างตรงจุด
ทำคอนเทนต์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ด้วย Mandala AI
เทคนิคการป้ายยาที่มีประสิทธิภาพ
- ต้องแนบเนียนและจริงใจ: ข้อสำคัญของเทคนิคการป้ายยาคือ ต้องไม่ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกว่าเป็นการโฆษณาที่โจ่งแจ้งเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความไม่น่าเชื่อถือ ในทางกลับกัน ควรนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่แนบเนียน จริงใจ และสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น การรีวิวสินค้าโดยถ่ายทอดประสบการณ์การใช้งานจริง เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่เน้นการอวยหรือขายของมากเกินไป
- เลือกใช้ KOL ที่ใช่ ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย: อีกหนึ่งเทคนิคการป้ายยาที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำการตลาดรูปแบบนี้ เพราะจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ดังนั้น ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายอย่างละเอียด เพื่อเลือก KOL ที่กลุ่มเป้าหมายจะรู้สึกเชื่อถือจริง ๆ
- นำเสนอให้เห็น Pain Point แบบชัดเจน: เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความรู้สึกร่วมและอยากที่จะแก้ปัญหานั้น ผู้ประกอบการควรนำเสนอให้เห็น Pain Point ที่กลุ่มเป้าหมายกำลังเผชิญอยู่อย่างชัดเจนว่า สินค้าหรือบริการสามารถช่วยแก้ไขปัญหานั้นได้จริง
ทำการตลาดป้ายยาแบบมีประสิทธิภาพ ด้วยตัวช่วยจาก Mandala AI
ได้ทราบกันไปแล้วว่าการป้ายยาคืออะไร และหากอยากทำการตลาดแบบป้ายยาให้มีประสิทธิภาพ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ประกอบการจะต้องเข้าใจภาพรวมของเทรนด์สังคม
ดังนั้น แนะนำตัวช่วยจาก Mandala AI ผู้ให้บริการเครื่องมือ Mandala Analytics โซลูชันในการทำ Social Listening นำข้อมูลซึ่งผู้คนแสดงความคิดเห็นในรูปแบบต่าง ๆ ไว้ตามโซเชียลมีเดีย มาวิเคราะห์เพื่อหาเจตนาที่แท้จริงว่า ตอนนี้ภาพรวมของตลาดกำลังต้องการอะไร ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนกลยุทธ์ สร้างคอนเทนต์การตลาด เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการธุรกิจในยุคดิจิทัล ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ หรือปรึกษาเราได้เลย ที่
https://www.mandalasystem.com/contact_us
ทำคอนเทนต์ให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ด้วย Mandala AI
ข้อมูลอ้างอิง:
- Word-of-Mouth Marketing: Meaning and Uses in Business. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2566.
- Why Word Of Mouth Marketing Is The Most Important Social Media. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2566.
- The Power Word-Of-Mouth Has In Marketing, And How To Cultivate It. สืบค้นเมื่อ 27 ธันวาคม 2566.