Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

10 วิธีขายของในไอจีให้ปัง 2024 ฉบับทำตามได้ เพิ่มยอดขายจริง

10 วิธีขายของในไอจีให้ปัง 2024 ฉบับทำตามได้ เพิ่มยอดขายจริง

ในยุคดิจิทัลที่การค้าออนไลน์เฟื่องฟู Instagram หรือที่ทุกคนเรียกติดปากกันว่า IG กลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จในด้านการขายสินค้าออนไลน์มากที่สุด ทั้งนี้ นอกจากเหตุผลที่มีรูปแบบการนำเสนอภาพและวิดีโอดึงดูดสายตาผู้ใช้งานแล้ว Instagram ยังมีจำนวนผู้ใช้งานมหาศาล และมีฟีเจอร์หลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจโดยเฉพาะด้วย

ทว่า เมื่อมีข้อดีมากมาย ก็ทำให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต่างก็หันมาใช้ Instagram กันจนคู่แข่งสูงขึ้นตามไปด้วย บทความนี้จึงขอรวบรวมกลยุทธ์โปรโมต IG และเทคนิคขายของในไอจีให้ปัง ฉบับอัปเดตปี 2024 มาฝากทุกคน รับรองว่าไม่พลาดทุกเทรนด์อัปเดตมาแรงแน่นอน!

10 กลยุทธ์และเทคนิคขายของออนไลน์ในไอจีให้ปัง

กลยุทธ์การขายของใน IG ให้ปัง มีดังนี้

1. ลาก่อนตลาดใหญ่ มุ่งสู่ลูกค้าประจำใน Niche Market

แทนที่จะไล่ล่าลูกค้าจำนวนมหาศาล ลองโฟกัสกลุ่มเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่มีความสนใจตรงกับสินค้าของคุณ กลยุทธ์นี้ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าที่ “ใช่” จริง ๆ ได้ เพิ่มโอกาสการซื้อซ้ำ และสร้างฐานลูกค้าประจำที่เหนียวแน่น

2. สินค้าไม่ใช่แค่สินค้า แต่คือเรื่องราว

สร้างความแตกต่างให้สินค้าด้วย “สตอรี่” ที่น่าสนใจ โดยอาจจะเล่าที่มา ความพิเศษ หรือประสบการณ์การใช้งาน ในฟอร์แมตต่าง ๆ ของ Instagram เพื่อดึงดูดใจลูกค้าด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากที่ไหน

3. Reels มาแรง แซงทุกฟีเจอร์

เน้นการผลิต Reels ในสัดส่วน 30-50% ของคอนเทนต์ทั้งหมด เพราะ Reels กำลังมาแรง เข้าถึงผู้ใช้ได้กว้าง และดึงดูดความสนใจได้ดีกว่ารูปแบบอื่น

4. Nano Influencer กลยุทธ์ใหม่ที่ไม่ควรมองข้าม

ใช้งบโฆษณากับ Nano Influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนน้อยแต่ Engagement สูง เนื่องจากกลยุทธ์นี้สร้างความน่าเชื่อถือ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด และคุ้มค่ากว่าการจ้าง Influencer ดัง ๆ ที่อาจตามมาพร้อมค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว

5. SEO บน Instagram ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน

เพิ่มโอกาสให้คนค้นหาสินค้าของคุณเจอด้วยการใช้ SEO บน Instagram ที่สำคัญในการทำ SEO ต้องไม่ลืมใส่ Keyword ที่เกี่ยวข้องใน Bio แค็ปชัน และ Hashtag เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้าใหม่ให้มากขึ้นกว่าเดิม

6. Brand Partnerships ร่วมมือสู่ความสำเร็จ

จับมือกับแบรนด์อื่นในการโปรโมตสินค้าร่วมกัน โดยอาจจับคู่กับแบรนด์ประเภทเดียวกัน หรือแม้แต่ต่างประเภท เพื่อขยายฐานลูกค้า เพิ่มการเข้าถึง และสร้างการรับรู้แบรนด์ให้สูงขึ้น

7. Boosted Content ยิงแอดแบบเจาะจง

Boosted Content คือ ฟีเจอร์โฆษณาบน Instagram ซึ่งช่วยให้โพสต์ที่มีอยู่กลายเป็นโฆษณาที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด ข้อดีคือนอกจากจะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ละเอียดจนเข้าถึงกลุ่มที่ใช่แล้ว การทำ Boosted Content ยังเพิ่มการมองเห็น เพิ่ม Engagement ที่นำไปสู่การเพิ่มโอกาสการขายและ Conversion ที่สูงขึ้น

8. Brand Personality สร้างตัวตนให้แบรนด์

การสร้าง Brand Personality เป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับการสร้างแบรนด์บน Instagram และขายของในไอจีให้ปัง เพราะหากสามารถกำหนด Brand Personality ได้ชัดเจน ก็จะสามารถดึงดูดลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์และความสนใจคล้ายคลึงกัน จนนำไปสู่การขยายฐานลูกค้า และสร้างยอดขายใน Instagram ได้

ตัวอย่าง Brand Personality:

  • แบรนด์ที่เน้นความเป็นมิตร: ใช้ภาษาที่เรียบง่าย สื่อสารแบบกันเอง สร้างความรู้สึกอบอุ่น และเข้าถึงง่าย
  • แบรนด์ที่เน้นความเป็นมืออาชีพ: ใช้ภาษาที่เป็นทางการ สื่อสารแบบน่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจ และความไว้วางใจ
  • แบรนด์ที่เน้นความทันสมัย: ใช้ภาษาที่ทันสมัย สร้างความรู้สึกตื่นเต้น และน่าติดตาม

9. Photo Dumps ขายของใน IG แบบไม่ขาย

Photo Dumps หรือการขายของแบบเนียน ๆ บน Instagram กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่ช่วยสร้างความรู้สึกเป็นธรรมชาติ จนทำให้ลูกค้าสนใจสินค้าของเรามากยิ่งขึ้น โดยการใช้ Photo Dumps สามารถทำได้หลายวิธีคือ

  • ผสมผสานรูปสินค้ากับรูปไลฟ์สไตล์: แชร์รูปสินค้าร่วมกับรูปไลฟ์สไตล์ เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างความรู้สึกเป็นธรรมชาติ
  • เล่าเรื่องราวผ่านรูปภาพ: บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้า แบรนด์ หรือการใช้งานผ่านรูปภาพ เพื่อสร้างความสนใจ และความผูกพัน
  • ใช้รูปภาพดึงดูดสายตา: เลือกใช้รูปภาพที่มีสีสันสวยงามเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากกดดูภาพ
  • ใส่แค็ปชันที่ชวนติดตาม: เขียนแค็ปชันที่บอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ที่น่าสนใจ อาจใช้ภาษาหรือสำนวนฮิตเพื่อดึงดูดความสนใจลูกค้า

10. คอนเทนต์หลากหลาย คือกุญแจสูตรสำเร็จ

การโพสต์ขายของอย่างเดียว อาจไม่เพียงพอสำหรับการทำการตลาดบน Instagram ที่มีผู้ใช้งานหลากหลายและมีความสนใจแตกต่างกัน ดังนั้น การสร้างคอนเทนต์ประเภทอื่น ๆ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่น่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสในการขายได้

ประเภทคอนเทนต์ที่ควรมี

  • ไลฟ์สไตล์: แชร์ไลฟ์สไตล์ การทำงาน หรือกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้สึกใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
  • สาระความรู้: แชร์บทความ ข้อมูล หรือเคล็ดลับที่เกี่ยวข้องกับสินค้า เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและดึงดูดลูกค้าที่มีความสนใจเรื่องนี้โดยเฉพาะ
  • How-to: สอนวิธีใช้หรือ DIY เกี่ยวกับสินค้า เพื่อสร้างมุมมองใหม่ ๆ และกระตุ้นให้ลูกค้าอยากลองใช้สินค้า
  • รีวิว: แชร์รีวิวจากลูกค้าจริง เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
  • เกม/กิจกรรม: จัดกิจกรรม แจกของรางวัล หรือเกมสนุก ๆ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า

ตัวอย่างแบรนด์ไทยที่มีวิธีสร้าง IG ขายของได้ปังที่สุด

1. Wardrobeministry

แบรนด์เสื้อผ้าผู้ชาย เน้นความคลาสสิก ดีไซน์เรียบง่าย ทว่า ตัดเย็บและผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถัน

กลยุทธ์ที่ทำให้ขายดี

ใช้ภาพสินค้าสวยงาม: รูปภาพสินค้าแสดงคาแรกเตอร์แบรนด์ได้เด่นชัด สวยงาม คลาสสิกและมีสไตล์
นายแบบมีภาพลักษณ์ที่ตรงกับแบรนด์: ใช้นายแบบชาวต่างชาติที่มีบุคลิกเรียบง่าย เพิ่มความหรูหรา ทันสมัยเข้ากับสไตล์ของแบรนด์
การสร้าง Brand Personality ได้ชัดเจน: แสดงคาแรกเตอร์ของแบรนด์ผ่านรูปภาพ แค็ปชัน และภาพรวมของ Instagram ได้อย่างชัดเจน จนลูกค้าสามารถจำแบรนด์ได้

2. Rallymovement

แบรนด์แฟชั่นผู้หญิงสัญชาติไทยที่มาพร้อมโลโก้ RM ที่น่าจดจำ จำหน่ายทั้งเสื้อโปโล กระเป๋า และสินค้าแฟชั่นอื่น ๆ

กลยุทธ์ที่ทำให้ขายดี

ใช้ Influencer Marketing: โปรโมตสินค้าผ่าน Influencer ที่มีกลุ่มผู้ติดตามคล้ายคลึงกับแบรนด์
Boosted Content: ยิงโฆษณาเพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ใช่
ใช้ภาพสินค้าสวยงาม: ภาพแสดงความสวยงามของสินค้าและความสนุกของผู้สวมใส่

3. Valichain

แบรนด์เครื่องประดับดีไซน์สวยงาม ราคาจับต้องได้ และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

กลยุทธ์ที่ทำให้ขายดี

ใช้รูปภาพดึงดูดสายตา: ใช้รูปภาพเน้นโชว์ความสวยงามของเครื่องประดับ ทั้งในรูปแบบที่สวมใส่บนตัวคนและเครื่องประดับเพียงอย่างเดียว
คอนเทนต์หลากหลาย: ใน Instagram มีทั้งคอนเทนต์ที่ชูความสวยงามของเครื่องประดับ คอนเทนต์โปรโมชัน ไปจนถึงรีวิวจากลูกค้าที่เคยซื้อไปใช้งาน

หญิงสาวถ่ายรูปหมวกด้วยโทรศัพท์มือถือเพื่อโพสต์ขายของใน IG

ทั้งนี้ ถ้าอยากขายของในไอจีให้ปัง นอกจากกลยุทธ์และเทคนิคข้างต้น ผู้ประกอบการควรต้องมีตัวช่วยที่ดีอย่าง Mandala AI ด้วย! โดยมาพร้อมเครื่องมือ Mandala Analytics ในการทำ Social Listening ที่ช่วยให้คุณสามารถใช้รวบรวมความคิดเห็นของลูกค้าตามโซเชียลมีเดีย วิเคราะห์หาภาพรวมของความต้องการในตลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวางกลยุทธ์การตลาดและการขายของออนไลน์บน Instagram ให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเราได้เลย ที่

https://www.mandalasystem.com/contact_us

สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.