พาสอดส่องวิธีการวัดผลโฆษณายอดนิยมสำหรับนักการตลาดที่มุ่งใช้เหล่าครีเอเตอร์ นักสร้างสรรค์วิดีโอบน YouTube หากต้องการจ้าง เพื่อยิงโฆษณาจะมีวิธีการวัดผลอย่างไรที่แม่นยำ พารู้จัก YouTube Ads KPIs สอดส่อง 4 เมตริกยอดนิยมที่ใช้วัดกันตามหลักสากล
YouTube Ads KPIs วัดผลลัพธ์โฆษณาได้อย่างแม่นยำ
YouTube Ads KPIs (Key Performance Indicators) เป็นกลไกที่ทำหน้าที่เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพ และผลสำเร็จของแคมเปญโฆษณาบนแพลตฟอร์ม YouTube โดยตัวเลขเหล่านี้จะบ่งบอกถึงความเคลื่อนไหว แนวโน้ม ตลอดจนข้อบกพร่องของแคมเปญ ที่สามารถจัดเก็บและนำไปวิเคราะห์ พร้อมปรับปรุง YouTube Ads เพื่อการยิงแคมเปญใหม่ที่ดีกว่าในอนาคต
ความสำคัญของ YouTube Ads KPIs
- เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของแคมเปญ
เพราะ KPIs มีอยู่หลากหลายเมตริก ซึ่งจะช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าใจได้ว่า แคมเปญที่ทำไว้จะบรรลุเป้าหมายตามจุดประสงค์การยิงโฆษณาหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่น การตั้งเป้าหมายแคมเปญเพื่อให้มีคนเข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้น เมตริกของ YouTube Ads ที่ใช้วิเคราะห์ก็จะต้องเป็นประเภท CTR และ Conversion Rate เพื่อให้สามารถติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญได้ว่า มีการดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้คลิกลิงก์นำทางไปสู่เว็บไซต์ได้ตรงตามที่ตั้งเอาไว้หรือไม่ เป็นต้น
- ปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพ
เพราะนอกจาก KPIs จะช่วยแสดงผลความสำเร็จของแคมเปญแล้ว ยังช่วยแสดงข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการยิงโฆษณาได้อย่างชัดเจน ซึ่งจุดนี้จะช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าใจจุดอ่อนและจุดแข็งได้อย่างลึกซึ้ง พร้อมนำมาช่วยปรับปรุงแคมเปญได้อย่างตรงจุด
ยกตัวอย่างเช่น หากยอด CTR ต่ำมาก อาจเกิดจากคอนเทนต์การโฆษณาที่ไม่น่าสนใจ ในส่วนนี้อาจจะต้องปรับปรุงกระบวนการผลิตวิดีโอให้มีความกระชับ เปลี่ยนเทคนิคการนำเสนอเพื่อให้ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เป็นต้น
- เปรียบเทียบแคมเปญได้
ความสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ในขั้นตอนการทำการตลาด นั่นคือการเปรียบเทียบระหว่างแคมเปญ YouTube Ads ที่มีความใกล้เคียงกันโดยใช้ KPIs เป็นตัวตัดสิน
ซึ่งในส่วนนี้จะช่วยนักการตลาดสามารถตัดสินใจได้ว่า ควรปรับแต่งแคมเปญใดและควรมุ่งเน้นไปที่แคมเปญใด เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณ พร้อมช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถเปรียบเทียบกับแคมเปญของคู่แข่งได้ เพื่อให้เข้าใจว่าคู่แข่งของคุณประสบความสำเร็จอย่างไร และจะสามารถเรียนรู้ พร้อมนำมาปรับปรุงแก้ไขได้อย่างไรบ้าง เป็นต้น
4 เมตริกตัวตึงที่ใช้ในการวิเคราะห์ YouTube Ads KPIs
อย่างที่ได้เกริ่นไปในข้างต้น เกี่ยวกับเมตริกด้านการวัดผลลัพธ์ YouTube Ads ที่มีอยู่หลากหลายรูปแบบ ซึ่งก็จะถูกนำไปใช้แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ แต่โดยส่วนมากแล้วจะมีอยู่เพียง 4 ประเภทหลัก ๆ ที่ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย และเป็นสิ่งที่นักการตลาดมือใหม่ทุกคนควรรู้ ได้แก่
- View Rate
YouTube Ads KPIs ตัวตึงที่ถูกเรียกกันติดปากว่า “ยอดวิว” เมตริกวัดผลที่แสดงได้ชัดมากที่สุด สำหรับการทำแคมเปญเพื่อสร้างการรับรู้บนแพลตฟอร์มวิดีโอ โดยจะโชว์ว่ามีคนเข้ามาดูไปแล้วทั้งหมดกี่ครั้ง และแน่นอนว่าหากจำนวนผู้ชมไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ นัการตลาดก็จำเป็นที่จะต้องปรับปรุงกลยุทธ์ใหม่ เพื่อให้ยอดวิวเป็นไปตามที่คาดหวัง
โดยการนับยอด View Rate ของทาง YouTube สามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบ คือโฆษณาที่มีความยาวหลายนาที ระบบก็จะทำการนับยอดวิว 1 ยอด ตั้งแต่การหยุดดูโฆษณาเป็นเวลา 30 วินาทีขึ้นไป และโฆษณาที่มีความสั้นไม่ถึงหลักนาที ระบบจะทำการนับยอด 1 วิวก็ต่อเมื่อมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาดูจนจบเท่านั้น เป็นผลให้ในปัจจุบัน นักการตลาดส่วนมากนิยมที่จะทำคลิปโฆษณาแบบ Unskippable Ads และโฆษณา 30 วินาที มากกว่าจะทำคลิปยาว ๆ ที่มีเปอร์เซ็นต์การกดข้ามสูง
- Click Through Rate (CTR)
ในส่วนของการวิเคราะห์โดยใช้เมตริกแบบ Click Through Rate (CTR) นั้น จะเป็นการวัดผ่าน “ยอดคลิก” ซึ่งเป็นอัตราการคลิกเพื่อเข้าไปดูข้อมูลสินค้าหรือบริการ โดยเทียบกับอัตราการเห็นโฆษณา (Impression) หมายความว่า ถ้ามีคนเห็นเยอะแต่คลิกน้อย ค่า CTR ก็จะต่ำ แต่ถ้าคนเห็นเยอะแล้วยังคลิกเยอะ ค่า CTR ก็จะสูงตามขึ้นไปนั่นเอง
ดังนั้น หากวัตถุประสงค์ของแคมเปญต้องการที่จะไดรฟ์กลุ่มเป้าหมาย ให้เข้าชมเว็บไซต์เยอะ ๆ การเลือกเมตริก YouTube Ads เป็น CTR ก็ถือได้ว่าตอบโจทย์ไม่น้อย เพราะจะแสดงให้เห็นได้เลยว่า แคมเปญมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน ดึงดูดพอที่จะมีคนกดเข้ามาดูหรือไม่ และถ้าเปอร์เซ็นต์ของ CTR มียอดต่ำมากเกินไป จะได้แก้ไขคอนเทนต์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญได้อย่างทันท่วงที
- Conversion Rate (CVR)
Conversion Rate (CVR) เมตริกที่วัดผล “ยอดขาย” จากการกดโฆษณาของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ YouTube Ads ผ่าน KPIs ประเภทอื่น ๆ โดยเฉพาะ View Rate และ CTR เพราะถึงแม้ทั้งสองยอดจะมีตัวเลขที่สูงมาก แต่ถ้าไม่เกิดการซื้อขายที่ปลายทางก็แปลว่าแคมเปญของคุณอาจยังไม่ดีพอนั่นเอง
- Cost Per Acquisition (CPA)
ปิดท้ายกันที่ Cost Per Acquisition (CPA) ที่หมายถึงการกระทำของกลุ่มเป้าหมาย หลังจากที่ได้ดูโฆษณาของคุณ โดยกำหนดได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทักแชตเพื่อสอบถามข้อมูลสินค้าหรือบริการ, การกรอกแบบฟอร์ม, การสมัครสมาชิก ตลอดจนการสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ โดยใช้ร่วมกับการกำหนด CVR เพราะจะต้องใช้ทั้งยอดมาประมวลผลร่วมกันนั่นเอง
ไม่พลาดทุกการกำหนดเมตริก พร้อมวางแผนการซื้อโฆษณา YouTube ให้แม่นยำด้วย Mandala Analytics จาก Mandala AI ที่รองรับการทำรีพอร์ตและวัดประสิทธิภาพโฆษณาได้แบบตัวต่อตัว ช่วยให้คุณพัฒนาคุณภาพแคมเปญได้อย่างตรงจุด ลดปัญหาทุนโฆษณาจม ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่เคย ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ ปรึกษาเราได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง
- Google Ads Benchmarks for YOUR Industry [Updated!]. ค้นหาเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566. https://www.wordstream.com/blog/ws/2016/02/29/google-adwords-industry-benchmarks