ปัจจุบันนี้เราสามารถเลือกทำการตลาดออนไลน์ได้บนหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, TikTok, Instagram หรือ Google ซึ่งแต่ละช่องทางก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์ต้องการจะเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบไหน วันนี้เรามาพร้อมกับอีกหนึ่งทางเลือกในการทำการตลาดที่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ Google Display Network หรือ GDN มาดูกันว่า การทำโฆษณา GDN คืออะไร น่าสนใจแค่ไหน อ่านเลย!
รู้จัก Google Display Network: ช่องทางการทำการตลาดบน Google ที่น่าสนใจไม่แพ้ Social Media
Google Display Network หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า โฆษณา GDN คือ การลงโฆษณากับ Google โดย Google จะส่งโฆษณาของเราไปปรากฏอยู่บนเว็บไซต์เครือข่ายที่เป็นพันธมิตรกับทาง Google ซึ่งมีอยู่นับล้านเว็บไซต์ทั่วโลก ทำให้โฆษณาของเราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย และยังสามารถเลือกทำโฆษณาได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาแบบข้อความ รูปภาพ หรือวิดีโอ
หากใครที่ยังนึกไม่ออกว่า โฆษณา GDN ทำงานอย่างไร ให้เราลองนึกไปถึงเวลาที่เราเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่าง ๆ และพบกับ Banner ที่แสดงอยู่ทั่วทุกที่ จนไม่อาจละสายตา นั่นก็คือสิ่งที่เรียกว่า GDN นั่นเอง
รูปแบบของ Google Display Network
- Text
โฆษณา GDN แบบ Text คือ โฆษณาแบบข้อความ ประกอบด้วย หัวข้อ, คำอธิบาย และ URL ที่จะพาลูกค้าไปยังหน้าที่เราต้องการ ซึ่งการทำ GDN ในรูปแบบนี้ สำคัญตรงที่การเขียน ‘หัวข้อ’ ให้สะดุดตา เพราะเป็นสิ่งแรกที่จะดึงดูดความสนใจและทำให้กลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าหยุดอ่าน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่กลุ่มคนเหล่านั้นจะคลิกเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ของเราในที่สุด
- Banner
หนึ่งในรูปแบบของโฆษณา GDN ที่พบได้บ่อยที่สุด ก็คือโฆษณาแบบ Banner หรือโฆษณาแบบรูปภาพ ประกอบด้วยรูปภาพที่สามารถทำได้ทั้งไฟล์สกุล JPG, PNG และ GIF ควบคู่ไปกับคำอธิบายสั้น ๆ เพื่อโปรโมตสินค้าหรือบริการ ซึ่งแน่นอนว่าหัวใจสำคัญของการทำโฆษณาแบบรูปภาพ ก็คือการเลือกใช้ภาพที่สวยงาม คมชัด และสามารถบอกเล่าถึงโปรโมชันหรือรายละเอียดของสินค้าให้ผู้ที่พบเห็นเข้าใจได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่อ่าน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อ และช่วยให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจดจำแบรนด์ของเราได้ตั้งแต่แรกเห็น
- Responsive
อีกหนึ่งรูปแบบของโฆษณา GDN ที่มีประสิทธิภาพ และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคนี้ ก็คือโฆษณาแบบ Responsive ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปภาพพร้อมข้อความ ที่สามารถปรับเปลี่ยนขนาดไปตามหน้าจอของอุปกรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่ได้ เป็นรูปแบบของการโฆษณาบน Google ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขจุดด้อยของโฆษณาแบบ Banner ที่บางครั้งขนาดของรูปอาจเป็นอุปสรรคต่อการแสดงผลบนเว็บไซต์ที่แตกต่างกัน
- VDO
โฆษณา GDN ในรูปแบบวิดีโอ เกิดขึ้นหลังจากการที่ YouTube ได้รวมเข้ามาเป็นหนึ่งในเว็บไซต์พันธมิตรสำหรับการลงโฆษณาของ Google ข้อดีก็คือ เป็นโฆษณาที่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้มาก และยังช่วยสร้างการจดจำได้ดีกว่าโฆษณาในรูปแบบอื่น ๆ อีกด้วย
Google Display Network มีวิธีแสดงผลอย่างไรบ้าง
ในการทำโฆษณา GDN หรือ Google Display Network เราสามารถเลือกวิธีแสดงผลได้ด้วยกันหลัก ๆ 4 วิธีดังนี้
- Keyword Contextual
การทำโฆษณา GDN ประเภทนี้ คือการที่เราตั้งค่า Keyword ที่ต้องการไว้ จากนั้นเมื่อกลุ่มเป้าหมายทำการเสิร์ช Google ด้วย Keyword เหล่านี้ และเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ที่มี Keyword นี้อยู่ โฆษณาของเราก็จะปรากฏให้กลุ่มเป้าหมายได้มองเห็นด้วย
- Remarketing
สำหรับวิธีแสดงผลแบบ Remarketing เชื่อว่าเป็นวิธีที่เราน่าจะเคยเห็นผ่านตากันอยู่บ่อย ๆ อย่างแน่นอน โดยเป็นการฝังโค้ด Remarketing ลงบนหน้าเว็บไซต์ที่ต้องการ เพื่อเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นเมื่อกลุ่มเป้าหมายย้ายไปเข้าเว็บไซต์ใด โฆษณาของเราก็จะตามไปปรากฏอยู่ด้วยทุกที่ จนทำให้รู้สึกอยากซื้อสินค้าในที่สุด
- Topic
หากใครที่อยากให้โฆษณา GDN ของตัวเองไปปรากฏอยู่บนเฉพาะเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง วิธีแสดงผลแบบ Topic ถือว่าเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ เพราะเราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายและ Topic ที่ต้องการได้ เช่น ถ้าเราทำโฆษณาเกี่ยวกับอาหารสัตว์ ก็สามารถเลือกให้โฆษณาไปแสดงผลอยู่บนเฉพาะเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น ทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เห็นโฆษณา มีโอกาสที่จะสนใจในสินค้าของเราได้มากขึ้น
- Placement
นอกจากการแสดงผลแบบ Topic แล้ว หากใครที่อยากกำหนดไปเลยชัด ๆ ว่า ต้องการให้โฆษณาของเราไปปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ไหนบ้าง ก็สามารถเลือกใช้วิธีแสดงผลแบบ Placement ได้ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าอยากให้โฆษณาไปแสดงอยู่บนหน้าเว็บไซต์ใด ซึ่งแนะนำว่าเว็บไซต์ที่เราเลือกไปลง ควร มีความน่าเชื่อถือ เป็นที่รู้จัก และมีผู้ใช้งานจำนวนมาก เพื่อให้โฆษณาของเรามีโอกาสถูกพบเห็นได้มากที่สุดนั่นเอง
ข้อดีของ Google Display Network
- ตามติดลูกค้าไปทุกที่
การทำโฆษณา GDN นั้น ถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ และเหมาะกับพฤติกรรมของลูกค้าในยุคนี้ โดยเฉพาะเมื่อเราเลือกวิธีแสดงผลในรูปแบบ Remarketing โฆษณาของเราจะคอยตามติดลูกค้าไปทุกที่ จนลูกค้าเริ่มจดจำแบรนด์ได้ และทำให้เกิดความสงสัยใคร่รู้ อยากจะกดเข้าไปดูเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติม และนำไปสู่การตัดสินใจซื้อได้ในที่สุด
- มีโอกาสไปปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ
หนึ่งในข้อดีที่ทำให้การทำโฆษณา GDN เป็นกลยุทธ์ที่คุ้มค่ากับการลงทุน ก็คือระบบอัลกอริทึมของ Google ที่ทำงานได้อย่างอัจฉริยะ โดยอัลกอริทึมจะทำการเลือกเว็บไซต์สำหรับลงโฆษณาที่เหมาะสมกับสินค้าของเรามากที่สุด เช่น หากโฆษณาของเราเกี่ยวกับการขายอาหารเพื่อสุขภาพ ทาง Google ก็จะนำไปลงบนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยตรง ไม่ใช่การนำไปลงบนเว็บไซต์แฟชั่นหรืออุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
- ใช้งบประมาณไม่มาก
ถึงแม้ว่าโฆษณา GDN จะมีรูปแบบที่หลากหลาย และสามารถเลือกการแสดงผลได้หลายวิธี แต่ค่าใช้จ่ายในการทำ GDN นั้นถือว่าถูกมาก เมื่อเทียบกับการทำโฆษณาในรูปแบบอื่น ๆ จึงตอบโจทย์ทั้งแบรนด์ใหม่ที่ต้องการสร้าง Awareness และแบรนด์เก่าแก่ที่อยากโปรโมตสินค้าให้คนกลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง
- ทำไม่ยาก ไม่ซับซ้อน
สำหรับใครที่กังวลว่า การทำ GDN จะยุ่งยากไหม จะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหรือเปล่า บอกเลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะ GDN ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอย่างที่คิด แม้จะเป็นมือใหม่ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงตั้งค่าแค่ครั้งเดียว โฆษณาของเราก็จะไปปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ ช่วยให้แบรนด์ของเราเข้าถึงผู้คนได้หลักล้าน และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจได้มากกว่าที่เคย!
เพิ่มยอดขายอย่างเหนือชั้น ด้วยพลังของการทำการตลาดออนไลน์ เริ่มใช้งาน Mandala Analytics จาก Mandala AI เครื่องมืออัจฉริยะที่จะช่วยรวบรวม Insight ให้คุณนำไปพัฒนาเป็นโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ พร้อมติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญได้ง่าย ๆ ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเราได้เลย ที่
https://www.mandalasystem.com/contact_us
ข้อมูลอ้างอิง:
- รู้จัก GDN ให้มากขึ้นใน 5 นาที. สืบค้นเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2567
