Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

O2O Marketing คืออะไร สำคัญแค่ไหน สรุปไว้แล้วที่นี่

O2O Marketing คืออะไร สำคัญแค่ไหน สรุปไว้แล้วที่นี่
ภาพตัวอย่างกลยุทธ์การตลาด O2O Marketing

แม้ใคร ๆ จะบอกว่า ยุคนี้เป็นยุคของการขายออนไลน์ ทำให้การขายหน้าร้านกลายเป็นเรื่องที่ไม่มีบทบาทสำคัญอีกต่อไป ต้องบอกว่าความเชื่อนี้ไม่จริงเสมอไป เพราะทั้งสองช่องทางก็มีข้อดีที่แตกต่าง และในทางกลับกัน หากนำการตลาดทั้งสองช่องทางนี้มาผสมผสานกันได้ ก็จะยิ่งช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จและเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

Mandala AI ตัวช่วยทำการตลาด ลองใช้เลย

ชวนรู้จัก O2O Marketing การตลาดแบบผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ ที่จะช่วยยกระดับการบริการ และช่วยให้ธุรกิจของคุณได้เปรียบเหนือคู่แข่ง มาดูกันว่า O2O Marketing หรือ Online to Offline Marketing คืออะไร พร้อมตัวอย่างการนำไปปรับใช้ในธุรกิจ

O2O Marketing คืออะไร?

O2O Marketing หรือ Online to Offline Marketing คือ กลยุทธ์การทำธุรกิจที่นำจุดแข็งของการขายแบบออนไลน์และออฟไลน์มาผสมผสานกัน จนเกิดเป็นแผนการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และสามารถสร้างยอดขายได้มากขึ้น

ข้อดีของการขายแบบออนไลน์

  • ลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลของสินค้าที่ต้องการได้ด้วยตัวเอง
  • ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคาและโปรโมชันได้ง่าย
  • ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเดินทางไปหน้าร้าน
  • ร้านค้าสามารถนำเสนอโปรโมชันต่าง ๆ ได้ง่าย
  • ลูกค้าสามารถเลือกชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง

ข้อดีของการขายแบบออฟไลน์

  • ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองใช้สินค้าจริง
  • ลูกค้าได้ปรึกษาและรับคำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าจากผู้ขาย
  • ลูกค้าเกิดความมั่นใจว่า จะได้สินค้ากลับบ้านอย่างแน่นอน โดยไม่ต้องรอการจัดส่ง 

สามารถทำ O2O Marketing ผ่านช่องทางใดได้บ้าง

ปัจจุบันนี้ ธุรกิจสามารถทำ O2O Marketing ได้หลากหลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละช่องทางมีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร ทั้ง Social Media, Website และหน้าร้าน อย่างที่เรียกกันว่า Omni Channel นั่นเอง ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อเรามีช่องทางการขายที่หลากหลาย ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะมองเห็นร้านค้าของเรา นำไปสู่การตัดสินใจซื้อที่ง่ายขึ้น 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องระมัดระวังและให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ในการทำ O2O Marketing ก็คือเรื่องของการบริหารจัดการช่องทางการขาย เพราะยิ่งมีหลายช่องทาง ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเกิดการขัดข้องได้ง่าย ดังนั้น เจ้าของธุรกิจจึงต้องจัดการให้มีพนักงานที่รับผิดชอบในแต่ละช่องทางอย่างเพียงพอ เพื่อช่วยให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ และเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กร

จะเริ่มทำการตลาดแบบ O2O Marketing ได้อย่างไร? แนะ 3 ตัวอย่างกลยุทธ์ที่น่าสนใจ

  • ซื้อออนไลน์ รับของหน้าร้าน

ถึงแม้ว่าการซื้อของออนไลน์จะเป็นทางเลือกที่สะดวกสบาย แต่ลูกค้าบางกลุ่มก็อาจเกิดความกังวลว่า เมื่อสั่งซื้อไปแล้วจะไม่ได้รับสินค้าจริง ดังนั้น หนึ่งในกลยุทธ์ O2O Marketing ที่จะตอบรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ได้ ก็คือบริการ “สั่งซื้อออนไลน์ รับของหน้าร้าน” โดยเป็นบริการที่ให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าที่ต้องการได้ผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมรับโปรโมชันหรือข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ จากร้าน และเลือกชำระเงินในช่องทางที่สะดวก จากนั้นจึงเข้ามารับสินค้าที่หน้าร้านตามเวลาที่นัดหมายไว้ นอกจากจะช่วยสร้างความมั่นใจโดยการให้ลูกค้าได้ตรวจสอบสินค้าด้วยตัวเองแล้ว กลยุทธ์นี้ยังช่วยลดปัญหาความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการขนส่งได้อีกด้วย

  • Local SEO

โดยปกติแล้ว เมื่อต้องการซื้อสินค้าใด ๆ ลูกค้ามักจะใช้วิธีค้นหาจาก Google เพื่อดูว่ามีร้านค้าไหนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงบ้าง ซึ่งธุรกิจเองก็สามารถใช้กลยุทธ์ “Local SEO” ในการโปรโมตร้านค้า เพื่อให้ร้านของเราไปปรากฏอยู่ในผลลัพธ์การค้นหา ซึ่งจะช่วยให้ร้านของเรากลายเป็นที่รู้จัก และสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันได้มากขึ้น 

  • QR Code

กลยุทธ์ “QR Code” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ O2O Marketing ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้กลับมาซื้อซ้ำได้อย่างต่อเนื่อง โดยเราสามารถนำไปปรับใช้ได้หลากหลายรูปแบบ เช่น แปะ QR Code ไว้ที่เมนู เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเลือกดูเมนูสินค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่ต้องเดินทางมาที่หน้าร้าน และร้านค้าก็สามารถรับออเดอร์ล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว 

Mandala AI ตัวช่วยทำการตลาด ลองใช้เลย
ผู้หญิงเข็นรถเข็นสินค้ากำลังหาข้อมูลด้วยสมาร์ตโฟน

ข้อดีของ O2O Marketing

  • ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

หนึ่งในข้อดีที่โดดเด่นของการทำการตลาดแบบ O2O Marketing ก็คือการที่ช่วยให้แบรนด์สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างครบครัน ตั้งแต่การที่ลูกค้าสามารถค้นหา เปรียบเทียบ และเลือกซื้อสินค้าได้ผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการเข้าไปซื้อสินค้าที่หน้าร้าน และสะสมแต้มออนไลน์ เพื่อรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ในการซื้อครั้งต่อไป ซึ่งเมื่อธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำ และเกิดการบอกต่อ จนทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง 

  • เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย

เพราะการโฟกัสกับกลุ่มลูกค้าเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ในยุคที่ธุรกิจมีการแข่งขันสูงเช่นนี้ ดังนั้น การที่ธุรกิจของเราหันมาปรับตัว ด้วยการใช้กลยุทธ์ O2O Marketing จึงเป็นโอกาสที่จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลาย ทั้งกลุ่มที่ชอบการซื้อออนไลน์ และกลุ่มที่พึงพอใจกับการซื้อหน้าร้าน 

  • ช่วยให้แบรนด์กลายเป็นที่รู้จัก

อย่างที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ยุคนี้เป็นยุคที่ลูกค้าให้ความสำคัญกับการค้นหาข้อมูลของสินค้าและร้านค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ซึ่งหากเราให้ความสำคัญกับการโปรโมตร้านค้าทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กันไป ไม่ใช่ช่องทางใดช่องทางหนึ่งเพียงอย่างเดียว ก็จะช่วยให้แบรนด์ของเรากลายเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว

  • สร้างยอดขายได้มากขึ้น

การที่เรามีช่องทางการขายที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า จะช่วยให้เราสามารถสร้างยอดขายได้มากขึ้น เพราะลูกค้าไม่ต้องลังเลว่าจะไปเลือกซื้อกับร้านไหนดี ในเมื่อเรามีช่องทางที่ลูกค้ามองหาอย่างครบครัน แถมยังสามารถเลือกชำระเงินได้หลากหลาย ตอบรับพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างดี 

สร้างผลลัพธ์ทางการตลาดอย่างเหนือชั้น ด้วยเครื่องมือจาก Mandala AI ที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้ทุกแพลตฟอร์ม ตอบโจทย์การทำการตลาดแบบ Omni Channel ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเราได้เลย ที่

https://www.mandalasystem.com/contact_us 

Mandala AI ตัวช่วยทำการตลาด ลองใช้เลย

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. Online-To-Offline (O2O) Could Revolutionize E-Commerce Business. สืบค้นวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 
Blog Conversion Banner
  • หมวดหมู่ :
สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.