ในโลกยุคปัจจุบันที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมาย การจะดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจไม่ใช่เรื่องง่าย ธุรกิจจึงจำเป็นต้องหาวิธีใหม่ ๆ ในการดึงดูดและรักษาลูกค้า ซึ่งการทำการตลาดเฉพาะกลุ่ม หรือ Personalized Marketing ก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ บทความนี้จะมาเจาะลึกเกี่ยวกับ Personalized Marketing กันให้มากขึ้นว่าคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร
Personalized Marketing คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร
การตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะใช้เทคโนโลยีหรือเครื่องมือเข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค แล้วนำข้อมูลที่ได้มาปรับแต่งข้อความ หรือเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจและความต้องการ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งสามารถช่วยให้ธุรกิจบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดหลายประการ ดังนี้
สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
Personalization Marketing มีข้อดีที่สำคัญมากคือการช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าใจลูกค้าแต่ละคนได้อย่างลึกซึ้ง เพื่อนำเสนอสิ่งที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจ ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษ เสริมสร้าง Brand Loyalty ให้แข็งแกร่งขึ้น
เพิ่มยอดขายและรายได้
ตามปกติแล้วคนเราย่อมสนใจสินค้าที่ตรงกับความต้องการมากกว่าสินค้าทั่วไปอยู่แล้ว การทำ Personalized Marketing จึงสามารถช่วยให้แบรนด์หรือธุรกิจสามารถนำเสนอสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ลูกค้าเคยซื้อ หรือสินค้าที่ลูกค้ากำลังมองหาได้โดยตรง จึงถือเป็นตัวช่วยที่เพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการได้เป็นอย่างดี
ปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญ
เนื่องจาก Personalized Marketing สามารถวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ จึงสามารถนำข้อมูลที่ได้มาออกแบบแคมเปญการตลาดที่ตรงใจและเหมาะกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม ส่งผลให้แคมเปญมีประสิทธิภาพ ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
Personalized Marketing มีอะไรบ้าง
Segmentation
เป็นการจำแนกกลุ่มลูกค้าออกเป็นหลายกลุ่มก้อน โดยแบ่งตามประเภทข้อมูลอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนตัว พฤติกรรมการซื้อสินค้า หรือความสนใจ เพื่อให้การทำ Personalization เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำเสนอเนื้อหาที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย เช่น แบรนด์เสื้อผ้าที่เลือกแบ่งกลุ่มลูกค้าตามเพศ อายุ และสไตล์การแต่งตัว ส่วนธุรกิจธนาคารก็อาจใช้การแบ่งกลุ่มตามรายได้และประเภทบัญชี
1-to-1 Personalization
เป็นการนำเสนอประสบการณ์การตลาดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละคน โดยการรวบรวมข้อมูล หรือประวัติการสื่อสารระหว่างธุรกิจและลูกค้ามาประมวลผล ทำให้สามารถนำเสนอข้อมูลที่เปรียบเสมือนการพูดคุยกับลูกค้าแบบตัวต่อตัว เช่น ร้านค้าออนไลน์ที่ให้คำแนะนำสินค้าตามประวัติการสั่งซื้อ หรือเว็บไซต์สตรีมมิงวิดีโอที่แนะนำหนังและซีรีส์ได้ตรงกับความสนใจของผู้ใช้งาน
Personalized Content Marketing
เป็นการนำเสนอคอนเทนต์หรือเนื้อหาที่มีความเฉพาะเจาะจงตรงกับความสนใจและความชอบของลูกค้าโดยเฉพาะ จึงมีโอกาสที่จะสร้างแรงจูงใจให้เกิดการซื้อขายได้ง่าย โดยเนื้อหาอาจเป็นบทความ รูปภาพ วิดิโอ หรือแม้แต่อินโฟกราฟิกก็ได้ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด ซึ่งมักส่งผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น LINE
Personalized Email Marketing
หลายคนมักมองว่าอีเมลเป็นตัวเลือกที่ล้าหลัง แต่แท้จริงแล้วแม้ในปัจจุบัน การส่งข้อมูลโปรโมชันสำคัญผ่านอีเมลก็ยังเป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะสำหรับวัยทำงาน หรือกลุ่มการตลาดที่ยังคงต้องใช้อีเมลในการติดต่อสื่อสาร การทำการตลาดแบบเจาะจงผ่านอีเมลย่อมเป็นช่องทางที่น่าสนใจ เพราะสามารถส่งข้อมูลโดยกำหนดชื่อลูกค้า หรือแจ้งสิทธิพิเศษให้ตามแต่ละคนได้โดยเฉพาะ
ตัวอย่างขั้นตอนการทำ Personalized Marketing
เก็บข้อมูล
การจะเริ่มต้นทำ Personalized Marketing จำเป็นจะต้องเริ่มขั้นแรกคือ การเริ่มเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อให้มีข้อมูลในมือสำหรับนำมาวิเคราะห์เสียก่อน โดยสามารถแบ่งข้อมูลออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- ข้อมูลพื้นฐาน เช่น เพศ อายุ อาชีพ รายได้ ที่อยู่อาศัย
- ข้อมูลพฤติกรรม เช่น ประวัติการซื้อสินค้า เว็บไซต์ที่เข้าชม โฆษณาที่ให้ความสนใจ โดยดูจากการคลิก
- ข้อมูลเชิงลึก เช่น ความสนใจ ความชอบ ความต้องการ
ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลได้จากหลากหลายช่องทาง เช่น การออกแบบหน้าเว็บไซต์ที่ใส่อัลกอริทึมสำหรับเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานลงไป หรือการเลือกใช้เครื่องมือทางการตลาดต่าง ๆ ในการช่วยเก็บข้อมูล
จัดทำ Personalized Persona
นำข้อมูลที่จัดเก็บมาสร้าง Persona แบบเฉพาะเจาะจงสำหรับลูกค้าแต่ละราย ซึ่งจะสรุปออกมาได้เป็นข้อมูลที่ช่วยแบรนด์สามารถจำลองทัศนคติ ความคิด ความชอบ พฤติกรรมการซื้อ ตลอดจนแรงกระตุ้นในการใช้ชีวิต เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งกว่าจะได้ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ จะต้องมีการเจาะลึกรายละเอียดและใช้ข้อมูลจำนวนมาก ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาอยู่ไม่น้อย แต่รับรองว่าผลลัพธ์ออกมาคุ้มค่าแน่นอน
เลือกคอนเทนต์ที่เหมาะสม
การมี Persona ที่ชัดเจน จะทำให้แบรนด์สามารถเลือกออกแบบและผลิตคอนเทนต์ โฆษณา รวมถึงโปรโมชันต่าง ๆ ได้ตรงใจลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
ทดสอบและวัดผล
ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญสำหรับการทำการตลาดทุกชนิดคือ การทดสอบ ติดตาม และวัดผล ผ่านการทดลองนำคอนเทนต์และแผนการตลาดไปใช้จริง โดยทำการเก็บข้อมูลผลลัพธ์และนำไปพัฒนากลยุทธ์แคมเปญต่อไป เพื่อหาแนวทางที่ใช่ และมีประสิทธิภาพสำหรับแบรนด์มากที่สุด
เปิดโอกาสในการเข้าถึงลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Personalization Marketing ให้สำเร็จได้มากขึ้น ด้วยโซลูชันการทำ Social Listening ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ให้สามารถวิเคราะห์กลุ่มลูกค้า เพื่อนำไปปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเราได้เลย ที่
https://www.mandalasystem.com/contact_us
ข้อมูลอ้างอิง:
- Personalized Marketing คืออะไร? มีกี่แบบ? พร้อม Case study การตลาดแบบรู้ใจ. สืบค้นวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567
