Sonic Branding คืออะไร ช่วยกระตุ้นยอดขายแบรนด์ได้อย่างไร ?

“Sonic Branding” อาจเป็นคำที่ไม่คุ้นหูคุ้นตาเท่าไรนัก แต่จริง ๆ แล้วกลยุทธ์การสร้างแบรนด์รูปแบบนี้อยู่รอบตัวทุกคนมาอย่างยาวนาน และสามารถพบเห็นได้ทุกวัน เพียงแต่เราไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ประกอบการอยากสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ Sonic Branding คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่ควรศึกษาทำความเข้าใจ เพราะถ้าสามารถสร้างสรรค์ออกมาได้ดี ผลลัพธ์ที่ได้อาจเป็นทางลัดหรือหนึ่งในเทคนิคเพิ่มยอดขายที่นำพาแบรนด์สู่ความสำเร็จได้เลยทีเดียว ดังนั้นบทความนี้จึงจะพาไปรู้จักคำว่า Sonic Branding คืออะไร พร้อมยกตัวอย่างการใช้กลยุทธ์นี้ของแบรนด์ระดับโลกที่ทุกคนต้องร้องอ๋อ และปิดท้ายด้วยการแนะนำเครื่องมือ Social Monitoring จาก Mandala AI ที่จะช่วยรวบรวมข้อมูล และพฤติกรรมของผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์มาวิเคราะห์เพื่อสร้างกลยุทธ์ Sonic Branding ที่โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ติดตามได้เลย

Sonic Branding คืออะไร ?

Sonic Branding คือ กลยุทธ์การตลาดที่ใช้เสียงหรือดนตรีเพื่อสร้างอัตลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นที่น่าจดจำ เนื่องจากเสียงมีอิทธิพลที่โดดเด่นต่อความรู้สึกและความทรงจำของมนุษย์ ทำให้ผู้คนที่ได้ยินบ่อย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องมองเห็น สามารถจดจำแบรนด์ได้โดยไม่รู้ตัว ตัวอย่างเช่น เสียงที่ใช้ในโฆษณาทางวิทยุหรือทีวี เพลงประจำแบรนด์ เสียงรถขายไอศกรีม หรือเสียงที่ใช้ในเกมหรือแอปพลิเคชัน เป็นต้น

ที่มาที่ไปของกลยุทธ์ Sonic Branding เกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในรูปแบบของโฆษณาทางวิทยุ ซึ่งใช้เสียงเพื่อสร้างความเชื่อมั่น และตอกย้ำลงในความทรงจำของผู้บริโภค จากนั้นเป็นต้นมา การนำเสียงมาใช้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการตลาดก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนมีนิยามเรียกว่ากลยุทธ์ Sonic Branding ในปัจจุบัน

เข้าสู่ยุคดิจิทัล ความนิยมของ Sonic Branding ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไลฟ์สไตล์การฟัง Podcast บริการฟังเพลงแบบ Music Streaming ตลอดจนปรากฏการณ์ฟังเสียง ASMR เพื่อผ่อนคลาย ทั้งหมดนี้ทำให้เสียงกลายเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแบรนด์ยุคใหม่ และสร้างความแตกต่างของแบรนด์ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงได้อย่างมีนัยสำคัญ

ด้วยเหตุนี้ การใช้กลยุทธ์ Sonic Branding จึงมีผลต่อพฤติกรรมกลุ่มลูกค้าโดยตรง เนื่องจากเสียงมีอิทธิพลในการสร้างความรู้สึกและความทรงจำ ตลอดจนพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกวันนี้หลายแบรนด์พยายามสร้างเสียงแบบต่าง ๆ มาใช้เป็นตัวแทนของแบรนด์ เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

ประโยชน์ของการใช้ Sonic Branding

การใช้กลยุทธ์ Sonic Branding  สามารถสร้างผลกระทบทางจิตวิทยา และมีประโยชน์ต่อธุรกิจและแบรนด์หลายแง่มุม ดังต่อไปนี้

1. เพิ่มการจดจำแบรนด์ (Brand Awareness)

เสียงมีบทบาทสำคัญในการสร้างการจดจำให้แก่แบรนด์ได้อย่างมาก ด้วยความสามารถในการกระตุ้นความรู้สึกและความทรงจำได้โดยตรง ดังนั้น การใช้เสียงที่เป็นเอกลักษณ์จึงช่วยสร้างการจดจำ ได้ยินเมื่อไรก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเสียงของแบรนด์ใด

2. สร้างการเชื่อมโยงทางอารมณ์ (Emotional Connection)

เสียงมีพลังในการกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกได้อย่างลึกซึ้ง การเลือกใช้กลยุทธ์ Sonic Branding ที่เหมาะสมจะช่วยสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์ ทำให้เกิดความประทับใจและความผูกพันในระยะยาว

3. ขยายการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness)

Sonic Branding สามารถใช้ได้ในหลากหลายช่องทาง ทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้กว้างขวางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในโฆษณาทีวี วิทยุ หรือพอดแคสต์ 

4. สร้างความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty)

เมื่อผู้บริโภคมีความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับแบรนด์ผ่านเสียง พวกเขามีแนวโน้มที่จะเกิดความภักดีต่อแบรนด์มากขึ้น เนื่องจากเสียงที่คุ้นเคยจะสร้างความรู้สึกปลอดภัยและไว้วางใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างความภักดีต่อแบรนด์

5. โดดเด่นจากคู่แข่ง (Outstanding)

ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การมี Sonic Identity ที่เป็นเอกลักษณ์จะช่วยให้แบรนด์ของคุณแตกต่างและจดจำได้ง่ายกว่าคู่แข่ง เสียงที่ไม่เหมือนใครจะช่วยสร้างตำแหน่งทางการตลาดที่แข็งแกร่งให้แก่แบรนด์

ผู้ประกอบการท่านใดอยากสร้าง Sonic Identity ที่ทั้งมีเอกลักษณ์ โดดเด่น และน่าจดจำ การเข้าถึง Insight ของกลุ่มเป้าหมายคือกุญแจสำคัญ ซึ่งถ้าผู้ประกอบการมีเครื่องมืออย่าง Mandala Cosmos จาก Mandala AI ที่ช่วยนำข้อมูลซึ่งผู้คนแสดงความคิดเห็นในรูปแบบต่าง ๆ ไว้ตามโซเชียลมีเดีย มาวิเคราะห์เพื่อหาเจตนาที่แท้จริงว่าตอนนี้ภาพรวมของตลาดกำลังต้องการอะไร กลยุทธ์ Sonic Branding ที่ดูเหมือนยากก็ย่อมง่ายดายขึ้น

ตัวอย่างการใช้ Sonic Branding ที่ประสบความสำเร็จของแบรนด์ระดับโลก

20th Century Fox

การใช้กลยุทธ์ Sonic Branding ของ 20th Century Fox เป็นหนึ่งในตัวอย่างของแบรนด์ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างอัตลักษณ์ด้วยเสียงที่ชัดเจนที่สุด ด้วยการใช้เสียงทรัมเป็ต ผสานกับเสียงกลอง กลายเป็นดนตรีที่ใครได้ยินก็ต้องร้องอ๋อ

Netflix

ใครที่เป็นคอหนังหรือสายซีรีส์คงคุ้นหูกับเสียง “TA-DUM” ของ Netflix ที่จะดังขึ้นเมื่อผู้ใช้งานกดดูคอนเทนต์ในแอปพลิเคชัน ซึ่งถึงแม้เสียงนี้จะมีความยาวเพียงแค่ 4 วินาที แต่ด้วยเอกลักษณ์ที่ชัดเจนก็เพียงพอแล้วที่จะตราตรึงอยู่ในใจผู้ใช้งานทั่วโลก อีกทั้งเสียงนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้งานรู้สึกผ่อนคลาย ราวกับเป็นการเปิดสวิตช์สมองว่ากำลังจะเข้าสู่โหมดทิ้งตัวพักผ่อน 

McDonald’s

McDonald’s ใช้กลยุทธ์ Sonic Branding อย่างชาญฉลาดผ่านสโลแกน “I’m loving it” และจิงเกิ้ลอันโดดเด่น โน้ตดนตรีห้าตัวที่ง่ายแต่จดจำได้ไม่รู้ลืม สร้างการเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้บริโภคทั่วโลก ไม่ว่าจะได้ยินที่ไหน เมื่อไร ก็นึกถึง McDonald’s ได้ทันที กลยุทธ์นี้ช่วยเสริมภาพลักษณ์แบรนด์ให้สนุกสนาน เข้าถึงง่าย และเป็นมิตร สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่ต้องการมอบประสบการณ์ความสุขให้แก่ลูกค้าทุกคน

Mandala AI พร้อมนำเสนอเครื่องมือในการช่วยสร้าง Sonic Branding ที่น่าจดจำ

การสร้าง Sonic Branding ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปถ้ามี Insight ที่แม่นยำของกลุ่มเป้าหมาย ดังนั้นขอแนะนำ Mandala AI ผู้ให้บริการเครื่องมือ Mandala Cosmos โซลูชันในการทำ Social Listening ที่จะช่วยรวบรวมข้อมูล และพฤติกรรมของผู้ใช้งานบนโลกออนไลน์มาวิเคราะห์เพื่อหาเจตนาที่แท้จริงว่า ตอนนี้เทรนด์ยอดฮิตคืออะไร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนกลยุทธ์ สร้างคอนเทนต์ เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการธุรกิจในยุคดิจิทัล และได้เรียนรู้วิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านอย่างมีประสิทธิภาพ ทดลองใช้งานฟรีได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ของเรา

ข้อมูลอ้างอิง:

1. The Need To Be Heard: Why Sonic Branding Is Growing In Importance. สืบค้นวันที่ 25 มิถุนายน 2567 จาก https://www.forbes.com/sites/charlesrtaylor/2023/07/31/the-need-to-be-heard-why-sonic-branding-is-growing-in-importance/
2. A Brief History of Sonic Branding . สืบค้นวันที่ 25 มิถุนายน 2567 จาก https://massivemusic.com/blog/posts/a-brief-history-of-sonic-branding