Sale Page คือ หนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลัง ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และสินค้า สร้างตัวตนทางธุรกิจ เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ทำให้สามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ Sale Page คืออะไร มีวิธีการสร้างอย่างไร ไปดูกันเลย
Sale Page คืออะไร
Sale Page คือ หน้าเพจที่ให้ลูกค้าเลือกและซื้อสินค้า โดยการใส่ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่น่าสนใจเอาไว้ในหน้าเดียว เพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเลือกซื้อสินค้าจากทางร้านค้า โดยสามารถเลือกซื้อผ่านสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ตได้เลย ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้าน
ที่สำคัญ ต้นทุนในการเปิด Sale Page ก็มีราคาที่ต่ำกว่าการสร้างเว็บไซต์ E-commerce จึงเหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่มีสินค้าจำนวนมาก แต่ยังไม่มีเว็บไซต์ร้านค้าทางการของตนเอง
ข้อดีของการทำ Sale Page
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจ เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า สามารถยืนยันตัวตนได้ สร้างความมั่นใจว่าไม่ใช่พวกหลอกลวงหรือมิจฉาชีพ
- ช่วยกระตุ้นยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น และเลือกซื้อได้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
- ประหยัดงบประมาณ หากว่ายังไม่ต้องการทำเว็บไซต์แบบจัดเต็ม หรือมีงบประมาณจำกัด สามารถใช้ Sale Page ในการปิดการขายได้เช่นเดียวกัน
- เก็บข้อมูลทางการตลาดและ Journey ของลูกค้าได้ ผ่านการดูยอดผู้ชมที่เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ รวมไปถึงการเก็บข้อมูลต่าง ๆ ของลูกค้า
องค์ประกอบของ Sale Page อยากได้ขายปัง ๆ ต้องทำยังไง
วิธีทำ Sale Page ให้ประสบความสำเร็จ จะต้องใส่ใจในทุกองค์ประกอบ เพื่อดึงดูดและจูงใจให้ลูกค้าซื้อสินค้าของเรา โดยมีองค์ประกอบที่เราต้องใส่ใจ ดังต่อไปนี้
Headline ที่กระตุ้นให้คนอยากซื้อของ
สิ่งสำคัญที่สุดในการทำ Sale Page คือ การเขียน Headline ที่กระตุ้นให้คนสนใจอยากจะซื้อของ แนะนำให้เขียนสั้น กระชับ ตรงประเด็น และตรงใจ อาจจะเน้นไปที่ประโยชน์ของสินค้าบริการ เน้น Pain Point ของกลุ่มเป้าหมาย การจำกัดเวลาหรือปริมาณการขาย หรือโปรโมชันที่โดนใจ
ตัวอย่าง Headline ที่น่าสนใจ
- ซื้อวันนี้ รับส่วนลด 50%
- 99% ของแมวชอบอาหารของเรา!
- “อาหารสุนัข” ขนร่วงลดลง 50%
- “บลัชออน” แก้มแดงเป็นธรรมชาติ เหมือนสาวเกาหลี
ใส่ Pain Point ที่สำคัญของกลุ่มเป้าหมาย
สิ่งสำคัญที่กลุ่มเป้าหมายของเรากำลังมองหาคือ สินค้าของเราสามารถแก้ไขปัญหาหรือ Pain Point ได้หรือไม่ ไม่ว่าปัญหาดังกล่าวนั้นจะเป็นอะไร ให้เราหยิบยกขึ้นมาใส่ใน Sale Page ของเรา โดยอาจจะใส่ใน Headline หรืออาจจะใส่เป็น Bullet Point ก็ได้
ตัวอย่าง Pain Point ของสินค้าเครื่องสำอางและคำโฆษณา
Pain Point | คำโฆษณา |
ผิวลอก เป็นขุย | “บอกลาผิวแห้ง ลอก เป็นขุย! กับครีมบำรุงผิวหน้าสูตรเข้มข้น” |
แพ้ง่าย ผื่นขึ้น เป็นสิว | “สูตรอ่อนโยน แม้กับผิวที่แพ้ง่าย หยุดสาเหตุของสิว” |
หลุดออกได้ง่าย | “กันน้ำ กันเหงื่อ ติดทนนานทั้งวัน ” |
ข้อมูลสินค้าแบบละเอียด
คำโฆษณาและโปรโมชันต่าง ๆ อาจจะทำให้กลุ่มเป้าหมายของเราสนใจ แต่สิ่งที่ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าของเราก็คือ ข้อมูลสินค้าและบริการที่ละเอียด ครบถ้วน และจริงใจ แนะนำให้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นขนาด สี การใช้งาน นอกจากนี้ การใส่รูปและวิดีโอที่สวยงามและมีความน่าสนใจ เป็นประโยชน์สำหรับลูกค้า ก็จะช่วยให้เพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างการเขียนรายละเอียดสินค้าเกี่ยวกับอาหารแมว
อาหารแมว “แมวยิ้ม” สูตรแมวสูงวัย สำหรับ 10 ปีขึ้นไป
ขนาด: 500 กรัม
สำหรับ: แมวทุกสายพันธุ์ อายุ 10 ปีขึ้นไป
คุณสมบัติ:
อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ กรดไขมัน และกรดอะมิโนจำเป็นต่าง ๆ ปราศจากสารกันบูด ไม่แต่งสี ไม่แต่งรส ไม่ใส่เกลือเพิ่ม ใช้วัตถุดิบเดียวกับอาหารคน (Human Grade) ปราศจากผลพลอยได้จากสัตว์ สัตวแพทย์เป็นผู้คิดค้นและพัฒนาสูตรให้ตรงกับช่วงวัย ผ่านการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญ
วิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ: โปรตีน: 28% ไขมัน 10% ใยอาหาร 8% ความชื้น 10% เถ้า 5%
คำแนะนำในการให้อาหาร:
แมวโต น้ำหนัก 4 กิโลกรัม: ให้ 30-40 กรัมต่อวัน
แมวโต น้ำหนัก 5 กิโลกรัม: ให้ 35-45 กรัมต่อวัน
แมวโต น้ำหนัก 6 กิโลกรัม: ให้ 40-50 กรัมต่อวัน
สามารถปรับปริมาณอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของแมวแต่ละตัว
วิธีเก็บรักษา:
- เก็บในที่แห้งและเย็น
- ปิดถุงให้มิดชิดหลังใช้งาน
- หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
ราคา: 1,000 บาท
รีวิวสินค้าจากผู้ใช้จริง
ในส่วนนี้มีความสำคัญมาก เพราะจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ามีความมั่นใจ และตัดสินใจซื้อสินค้าของเราในท้ายที่สุด แนะนำให้เลือกรีวิวจริงจากลูกค้าของเราที่ซื้อสินค้าและบริการจริง อาจจะค้นหาจาก Social Media ช่องทางต่าง ๆ หรือจากที่ลูกค้า Tag ชื่อแบรนด์เอาไว้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
ลิสต์คำถามที่ถามบ่อย (FAQ)
แม้จะมีลูกค้าบางส่วนที่ถามแม้ว่าเราจะเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน แต่ก็มีลูกค้าอีกส่วนหนึ่งที่ไม่ชอบถาม แต่ขออ่านแล้วตัดสินใจซื้อสินค้าของเราเลย ดังนั้น เราควรจะรวบรวมคำถามที่ลูกค้าถามบ่อย ๆ แล้วใส่ลงไปในหน้า Sale Page ของเราด้วย
ตัวอย่างคำถามที่ลูกค้าถามบ่อย
- ซื้อที่ไหนได้บ้าง มีหน้าร้านหรือไม่
- โอนเงินผ่านทางไหนได้บ้าง
- สินค้ามีกี่สี / กี่แบบ / กี่ขนาด
- มีโปรโมชันอะไรบ้าง
- หมดอายุเมื่อไร
อย่าลืมใส่ CTA
CTA หรือ Call to Action เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าสั่งซื้อ แนะนำให้เขียนข้อความสรุปเกี่ยวกับสินค้า ก่อนกระตุ้นด้วยการใส่ CTA ให้ลูกค้าสั่งซื้อ หรือติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ตัวอย่างการเขียน CTA
- สั่งซื้อเลย! สินค้ามีจำนวนจำกัด
- ส่งฟรี ทั่วประเทศ
- อย่ารอช้า สมัครวันนี้เลย

เทคนิคในการทำ Sale Page ให้ประสบความสำเร็จ
รู้จักองค์ประกอบของ Sale Page แล้วมาดูวิธีทำ Sale Page ที่ช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อของได้ ดังต่อไปนี้
กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
เราต้องรู้ว่าสินค้าของเราต้องการขายคนกลุ่มไหนเป็นหลัก โดยที่เราจะต้องเข้าใจปัญหา ความต้องการ และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำเสนอเนื้อหาและภาษาที่ช่วยให้สื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเช่น ขายเครื่องสำอาง สำหรับผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไป ที่มีปัญหาเรื่องผิวแพ้ง่าย เป็นสิว ผดผื่น
ใช้ภาษาที่สั้น กระชับ เข้าใจง่าย
เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจซื้อสินค้าโดยเร็ว แนะนำให้ใส่ Pain Point และประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นในการซื้อสินค้า หรือโปรโมชัน ของแถมต่าง ๆ และหลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เฉพาะที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือสื่อสารผิดพลาดได้
ดึงดูดด้วยรูปแบบหรือวิดีโอที่สวยงาม
การขายของออนไลน์ จะต้องถ่ายภาพหรือวิดีโอที่สวยงามและดึงดูดให้คนสนใจ เราควรจะเลือกรูปที่สวยที่สุด และมีคุณภาพดี ไม่แตกหรือมองเห็นสินค้าไม่ชัดเจน และควรมีรูปหรือวิดีโอตอนใช้สินค้า เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าอยากได้มากยิ่งขึ้น
ทดสอบการใช้งานก่อน Launch จริง
พอสร้าง Sale Page เสร็จแล้ว อย่าเพิ่งนำไปให้ลูกค้าใช้งาน สิ่งที่สำคัญคือเราลองทดสอบระบบเสียก่อน โดยอาจจะให้พนักงานของเราหรือเพื่อนลองกดอ่านและกดซื้อสินค้า เพื่อดูว่าระบบลื่นไหลและสะดวกสบายหรือไม่
กระตุ้นยอดขายให้ทะลุเป้า ด้วย Sale Page ที่ทรงประสิทธิภาพ และการวิเคราะห์การตลาดออนไลน์อย่างลึกซึ้งด้วย Mandala Analytics จาก Mandala AI เครื่องมืออัจฉริยะที่จะช่วยรวบรวม Insight ให้คุณรู้จักกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น เป็นหนึ่งในวิธีเพิ่มยอดขายที่ทรงอานุภาพ ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ ปรึกษาเราได้เลย ที่
https://www.mandalasystem.com/contact_us
ข้อมูลอ้างอิง
- 15 Great Sales Page Examples (And Why They Convert). สืบค้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
- What Is a Sales Page? (With Content, Directions and Tips). สืบค้นเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567
