Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

เผยเคล็ดลับ ! สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่อยากขายครีมให้ได้กำไรในปี 2024

เผยเคล็ดลับ ! สำหรับเจ้าของแบรนด์ที่อยากขายครีมให้ได้กำไรในปี 2024

เป็นที่รู้กันว่าครีมทาหน้าและบำรุงผิว ถือเป็นตลาดใหญ่ที่สร้างกำไรเม็ดงามในยุคออนไลน์ ซื้อมาขายไปคล่อง แถมยังได้ Volume เยอะอีกต่างหาก 

อย่างไรก็ตาม การขายครีมออนไลน์ในยุคปัจจุบันไม่ได้ง่ายเหมือนเดิมแล้ว ด้วยจำนวนคู่แข่งที่มากขึ้น และผู้บริโภคเองที่ค่อนข้างระมัดระวังในการเลือกซื้อครีมด้วย พ่อค้าแม่ค้าขายครีมออนไลน์หลายคนจึงต้องปรับกลยุทธ์การตลาดขายครีมให้ทัน เพื่อป้องกันไม่ให้ยอดขายและจำนวนลูกค้าลดลง

วันนี้เราจึงรวบรวมเคล็ดลับการตลาดสำหรับใครที่อยากปั้นแบรนด์ขายครีมให้ได้กำไร รับรองทำตามได้ง่ายๆ อ่านจบเอาไปใช้ได้ทันที

ศึกษาเนื้อครีมละสร้างจุดเด่นให้กับผลิตภัณฑ์

ก่อนที่จะเจาะลึกลงไปในส่วนของการตลาด เราต้องมั่นใจก่อนว่าผลิตภัณฑ์ครีมของเรานั้นดีจริง และเป็นที่ต้องการของตลาด ปัจจุบันครีมบำรุงมีหลากหลายรูปแบบและเนื้อสัมผัส ทั้งเนื้อครีมทั่วไป น้ำตบ เจล ฯลฯ รวมถึงจุดเด่นของครีมก็แตกต่างกันไปตามปัญหาผิว เช่น

  • Whitening – กลุ่มครีมที่ได้รับความนิยมตลอดกาล ด้วยเทรนด์ความงามของคนไทยชอบความขาวใส 
  • Anti-Aging – กลุ่มครีมลดเลือนริ้วรอยสำหรับคนที่เริ่มมีอายุ ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ 
  • Anti-Acne – กลุ่มครีมยอดนิยมสำหรับวัยรุ่นที่มีปัญหาเรื่องความมันส่วนเกินและฮอร์โมน 
  • Moisturiser – ครีมสุดคลาสสิกพื้นฐานที่ช่วยให้ใบหน้าชุ่มชื้น

ในขั้นตอนนี้ การใช้ Social Listening Tool จะช่วยให้เราเข้าใจเทรนด์ของตลาดได้ดีขึ้น ว่าครีมชนิดไหนกำลังเป็นที่พูดถึง และผู้คนมักมองหาอะไรจากครีมที่เลือกใช้

mandala banner

สร้างความชัดเจนให้กับแบรนด์

Branding เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราโดดเด่นออกมาจากคู่แข่ง และถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการตลาดขายครีม เพราะเป็น Segment ที่มีการแข่งขันสูง

ลองพยายามจินตนาการแบรนด์ของเราให้เป็นคนสักหนึ่งคน แล้วลองวาดภาพต่อว่าเขาน่าจะเป็นคนแบบไหน มีลักษณะในการพูดยังไง โทนสีของ Artwork ควรจะเป็นไปในทิศทางไหน คอนเทนต์การตลาดของเราจะได้มีสีสันและตรงใจผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งประโยชน์ที่จะตามมาคือ Engagement ที่สูงขึ้น จากการที่โพสต์มีความแปลกใหม่และน่าสนใจขึ้นนั่นเอง

 เข้าใจกลุ่มผู้บริโภคสายบิวตี้

นอกจากการทำ Branding แล้ว การทำคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์กับลักษณะการบริโภคของลูกค้าแต่ละกลุ่มก็ช่วยให้ได้รับ Engagement ที่ดีเช่นกัน โดยจะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์มีความเข้าอกเข้าใจตัวเองมากกว่าการทำคอนเทนต์แบบแมสทั่วไป 

1. สายซื้อซ้ำ

คอนเทนต์สำหรับสายซื้อซ้ำควรเน้นไปที่ Loyalty Program เช่นการสะสมแต้ม, Friend get friend, ยิ่งซื้อเยอะยิ่งได้ส่วนลดในคราวหน้า หรือการตลาดขายครีม Bundle แบบเป็นแพ็คสุดคุ้ม ให้ลูกค้ารู้สึกว่าประหยัดได้มากกว่า

2. สายลอง

คอนเทนต์สำหรับสายลองควรเน้นโปรโมชันราคาพิเศษ หรือขายครีมกระปุกเล็กลง ในราคาที่ถูกลง เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น

3. สายชอบเมคอัพ

สายชอบเมคอัพมักมองหาผลิตภัณฑ์ครีมที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากการแต่งหน้า หรือช่วยทำให้เมคอัพติดทนนานขึ้น ลองเอาครีมที่มีสรรพคุณดังกล่าวไปใช้ในการโปรโมทน่าจะช่วยให้ผู้บริโภคสายนี้สนใจอยู่ไม่น้อย

4. สายรักผิว

สายรักผิวมักจะศึกษาสรรพคุณและส่วนผสมของครีมอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผิว ลองทำ Infographic อธิบายจุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบบย่อยง่าย น่าแชร์ต่อ น่าจะช่วยให้ได้ผลตอบรับที่ดี

สร้างพันธมิตรหรือตัวแทนจำหน่าย

การสร้างพันธมิตรเป็นกลยุทธ์การตลาดขายครีมที่ช่วยให้เข้าถึงผู้บริโภคได้นอกเหนือจากช่องทางจัดจำหน่ายของแบรนด์เอง เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่เลือกซื้อครีมจากร้านขายปลีก ร้านยา หรือเว็บไซต์ ได้แก่ EVEANDBOY, Watsons, Beautrium, ร้านขายของออร์แกนิก, และร้านสะดวกซื้อ

สร้าง Content ให้สะดุดตามีความหน้าสนใจ

1. Online Content

1.1 การโปรโมทร้านใน Social Media

โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการโปรโมทสินค้าที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถ Engage ได้โดยตรง จะกด Like, Share หรือส่ง Message หาแบรนด์โดยตรงก็ทำได้ ตัวอย่างการทำ Content บนโซเชียลมีเดียได้แก่

  • Jula’s Herb บนช่องทาง TikTok
@julaherbthailand

Jula Herbs หรือครีมซองอันดับ 1 ในประเทศไทย ใช้ TikTok เป็นช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าและโปรโมทสินค้า ส่วนมากเป็นรีวิวจากผู้ใช้จริง ทำให้ผู้ชมสามารถเข้าถึงได้ง่าย ลักษณะเป็นวิดีโอสั้น เหมาะกับแพลตฟอร์มและพฤติกรรมของผู้บริโภควัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่ชอบดูและฟังมากกว่าอ่าน จนมีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคนแล้ว

  • Eve’s บนช่องทาง Facebook
eve's channel

Eve’s เป็นแบรนด์ขายครีมที่สร้าง Page บน Facebook เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า รวมถึงโปรโมทสินค้าและโปรโมชันด้วย โดยคอนเทนต์ส่วนมากจะเป็นรีวิวจากลูกค้า และ Infographic ให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ครีม โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 1 ล้านคนแล้ว

1.2 จัดโปรโมชั่นในช่วง Live

นอกจาก Content post ปกติแล้ว เรายังสามารถสร้าง Live ขายของเพื่อ Engage กับคนดูได้แบบ Real-time ด้วย โดยการ Live สามารถทำได้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook, Instagram, และ TikTok รวมถึง E-marketplace อย่าง Shopee และ Lazada

ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้ Live เป็นกลยุทธ์การตลาดขายครีมได้แก่

Dr. PONG

Dr. PONG ใช้ Shopee Live ในการขายครีมช่วง Payday หรือช่วงที่เงินเดือนออก โดยมีการให้สิทธิ์ใช้คูปองเมื่อซื้อสินค้าครบตามราคาที่กำหนดมาช่วยเสริมการขายด้วย

Garnier

garnier ads

Garnier เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้ Facebook Live ในการขายของ ร่วมกับการใช้ Macro KOL อย่างมิ้นต์ ชาลิดา ที่ช่วยเพิ่มยอดวิวและความสนใจให้กับการ Live ทั้งยังมีการแจกของรางวัลเพื่อเพิ่ม Engagement อีกด้วย

2. Offline Content

2.1 Nivea กับสื่อ In-store

nivea offline media

Nivea เป็นแบรนด์ขายครีมที่มีจุดจำหน่ายในห้างร้านปลีกอยู่มาก จึงมักมีป้ายโฆษณาโปรโมทสินค้า ณ จุดซื้อขาย เพื่อกระตุ้นความต้องการในการซื้อของผู้บริโภค

รีวิวจาก KOL/KOC

วงการความงามต้องเพิ่งพา Content รีวิวจากเหล่า Influencer เป็นจำนวนมาก เพราะผู้ใช้ต้องการเห็นผลลัพธ์จริง เลยต้องใช้คนจริงๆ เข้ามาช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและโน้มน้าวลูกค้าไปด้วย โดย Influencer สามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือ

KOL (Key Opinion Leader)

เป็นกลุ่ม Influencer ที่เป็นที่รู้จัก มีผู้ติดตามมากกว่า สามารถสร้างความตระหนักรู้ของแบรนด์ (Awareness) ได้ดีกว่า และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่ข้อเสียคือจะเห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการว่าจ้าง

อ่านเพิ่มเติม: Kol คืออะไร

KOC (Key Opinion Customer)

เป็นกลุ่ม Influencer ที่เป็นคนธรรมดาทั่วไปมารีวิวครีมในลักษณะลูกค้าที่ใช้เอง แม้คนเหล่านี้จะไม่มีผู้ติดตามจำนวนมากเท่า KOL แต่เนื้อหาก็มีความสมจริงมากกว่า และเหมาะกับโซเชียลแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ TikTok เป็นอย่างมาก

หมั่นตอบ Inbox ลูกค้าเวลาลูกค้ามีปัญหาการใช้งานหรือการจัดส่ง

การดูแลลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อเวลามีปัญหา เราควรสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาและจัดการให้เรียบร้อย อย่าลืมว่าโซเชียลมีเดียเป็นเสมือนดาบสองคม หากเราทำให้ลูกค้าไม่พอใจ ย่อมมีการบอกต่อในแง่ลบ ซึ่งอาจกระจายเป็นวงกว้างจนส่งผลต่อภาพลักษณ์แบรนด์ได้ ในทางกลับกัน หากเราจัดการปัญหาอย่างมืออาชีพ ก็จะได้รับการบอกต่อในทางที่ดีเช่นกัน

mandala banner

สรุป

การขายครีมออนไลน์แม้จะมีคู่แข่งมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่หากเรารู้จักวางกลยุทธ์ทางการตลาดให้ดี และมีความสม่ำเสมอในแง่ของ Branding และการดูแลลูกค้า ก็จะช่วยส่งเสริมยอดขายให้ดีขึ้นได้ ยิ่งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงผู้คนมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งช่วยให้แบรนด์เราแข็งแรงมากขึ้น และมีขัดความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นครับ

  • หมวดหมู่ :
  • Usecase
สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.