ไม่ว่าใครก็เป็นเจ้าของกิจการได้ ! โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายกว่าที่เคย แต่สำหรับใครที่ยังกังวลใจ ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นขายของออนไลน์อย่างไร บทความนี้จะช่วยคุณนำทางสู่โลกของการขายของออนไลน์ โดยการแนะวิธีขายของออนไลน์ตั้งแต่เริ่ม พร้อมแนะนำ Mandala Analytics จาก Mandala AI เครื่องมือค้นหาเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภค ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของลูกค้า และนำข้อมูลเชิงลึกที่ได้ มาเริ่มต้นขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. สร้างตัวตนของร้านค้า
สิ่งแรกที่ลูกค้าจะพบเจอก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ หรือทดลองสินค้า คือชื่อร้านและโลโก้ ซึ่งเปรียบเสมือนหน้าตาที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของร้าน โดยสามารถดึงดูดความสนใจ สร้างการจดจำ และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง การออกแบบชื่อร้านและโลโก้จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเริ่มวิธีการขายของออนไลน์ ซึ่งควรเลือกชื่อที่กระชับ เข้าใจง่าย หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อที่ยาวเกินไปจนยากต่อการจดจำ เพื่อให้ชื่ออยู่ในใจจนลูกค้าสามารถกลับมาซื้อซ้ำได้ หากเป็นไปได้ชื่อร้านควรสื่อถึงสินค้า หรือบริการที่ต้องการขาย เช่น ร้านขนมหวานที่มักจะมีคำว่า Bakery, Sweets, Cake, Bake ที่สื่อถึงการทำขนม หรือของหวาน อยู่ด้วยเสมอ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเซิร์ชเจอร้านค้ามากยิ่งขึ้น
หลังจากตัดสินใจเลือกชื่อร้านได้แล้ว การออกแบบโลโก้ก็เป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ต้องใช้ความใส่ใจ เนื่องจากโลโก้ของร้านค้าจะสามารถบ่งบอกรสนิยมและตัวตนของร้านได้เป็นอย่างดี โดยควรดีไซน์ให้สอดคล้องกับชื่อร้านและสินค้า พร้อมกับการเลือกใช้สีสัน รูปทรง รวมถึงตัวอักษรที่สื่อถึงเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายและสร้างการจดจำตั้งแต่แรกเห็น
2. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน
ก่อนวางแผนเริ่มต้นขายของออนไลน์ ต้องกำหนดและตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนเสียก่อนว่าต้องการอะไรจากการขายของออนไลน์ โดยอาจเป็นการหารายได้เสริมเพิ่มเติมจากงานประจำ หรือแม้แต่กำหนดเป้าหมายระยะสั้น หรือระยะยาว เพื่อเป็นจุดตั้งต้นให้สามารถวางแผนการตลาดเพื่อขายของออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้
- เป้าหมายระยะสั้น ที่วัดผลได้ชัดเจนภายในระยะเวลาไม่นาน เช่น เพิ่มยอดขาย 10% ภายใน 3 เดือนแรก มีลูกค้าใหม่ 50 คน ภายใน 1 เดือน เพิ่มผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดีย 1,000 คน ภายใน 2 เดือน
- เป้าหมายระยะยาว โดยตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย ภายในระยะเวลาที่ยาวกว่า เช่น มีรายได้ 1 ล้านบาท ภายใน 1 ปี เป็นร้านค้าออนไลน์อันดับต้นในกลุ่มสินค้าประเภทเดียวกัน หรือการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระยะยาว
3. กำหนดกลุ่มลูกค้า
การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ถือเป็นหัวใจสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์ ที่จะช่วยนำทางให้สามารถตัดสินใจเลือกสินค้า กำหนดกลยุทธ์การตลาด วิธีการโปรโมต และรูปแบบการบริการ ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจกลุ่มลูกค้าก่อนว่าเป็นใคร เพื่อศึกษาไปถึงความสนใจและความต้องการ เพื่อนำมาใช้สำหรับการออกแบบสินค้า ตั้งราคา ออกแบบเว็บไซต์ วางแผนการตลาดให้เหมาะสม เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุด โดยดูจากข้อมูลเหล่านี้
- ข้อมูลประชากร เช่น เพศ อายุ ที่อยู่อาศัย ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้
- พฤติกรรม เช่น การใช้จ่าย ไลฟ์สไตล์ ความสนใจ ช่องทางการติดต่อ
- ความต้องการ เช่น ปัญหาที่อยากแก้ไข จนนำไปสู่รูปแบบสินค้า หรือบริการที่ต้องการ

4. พิจารณาแพลตฟอร์ม
ในปัจจุบันมีตัวเลือกในการขายและโปรโมตสินค้าออนไลน์อย่างหลากหลาย ซึ่งแต่ละช่องทางก็ล้วนมีข้อดี ข้อเสีย และกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ โดยมีปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น
- สินค้า โดยหากเป็นสินค้าแฟชั่น ก็อาจเหมาะกับการโปรโมตบน Instagram เพื่อให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์และรูปภาพที่สวยงาม แต่อาจต้องเชื่อมลิงก์ไปยังการสั่งซื้อที่แพลตฟอร์มอื่น เช่น Lazada หรือ Shopee
- กลุ่มเป้าหมาย โดยพิจารณาว่ากลุ่มลูกค้าสนใจและใช้แพลตฟอร์มอะไร เช่น กลุ่มวัยรุ่นอาจใช้เวลาบน Instagram มากกว่า แต่วัยทำงานอาจเลือกใช้งาน Facebook จึงควรเลือกแพลตฟอร์มในการโปรโมตให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย
5. วางแผนการโปรโมต
หลังจากที่ได้ทำตามขั้นตอนทั้งหมด จนมีข้อมูลครบถ้วนพร้อมสำหรับการทำการตลาดแล้ว สเต็ปวิธีการขายของออนไลน์ต่อมาที่สำคัญต่อการดึงดูดลูกค้าใหม่เพื่อนำไปสู่การเพิ่มยอดขายคือ การเริ่มวางแผนโปรโมต ซึ่งแต่ละธุรกิจ หรือแต่ละแบรนด์ล้วนมีวิธีที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับงบประมาณและกลุ่มเป้าหมาย โดยกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับธุรกิจ จะช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ รักษาฐานลูกค้าเก่า รวมถึงสามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้เป็นอย่างดี โดยอาจต้องพิจารณาควบคู่ไปกับการศึกษาและวิเคราะห์คู่แข่งว่า กำลังทำอะไร ใช้วิธีไหนบ้าง เพื่อให้เรากำหนดกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างและโดดเด่นจากคู่แข่งออกมาได้
6. เตรียมเครื่องมือวัดผลทางการตลาด
การจะรู้ได้ว่าสิ่งที่ทำไปมีผลลัพธ์อย่างไร ส่งผลต่อยอดขายมากแค่ไหน โดยเฉพาะในยุคสมัยที่ตลาดออนไลน์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จำเป็นต้องมีการติดตามและวัดผลเป็นประจำ เพื่อให้เข้าใจว่ากลยุทธ์ใดที่ประสบความสำเร็จและกลยุทธ์ใดที่ต้องปรับปรุง พร้อมไปกับการติดตามเทรนด์ล่าสุด วิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาอัปเดตเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ส่งเสริมการขายที่เหมาะสมและบรรลุเป้าหมาย
นี่คือทั้งหมดของสรุปรวมในวิธีการขายของออนไลน์ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถเริ่มต้นทำตามได้ แต่หากยังไม่รู้ว่าควรขายออนไลน์อะไรดี ขอแนะนำเครื่องมือ Mandala Analytics และโซลูชันที่จะช่วยวิเคราะห์ภาพรวมของตลาด จาก Mandala AI เพื่อหาสินค้าออนไลน์มาขายได้อย่างตรงจุด ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการธุรกิจในยุคดิจิทัล
ข้อมูลอ้างอิง:
- How to Sell Online. สืบค้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567
