สำหรับผู้ประกอบการที่มีธุรกิจขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร หรือว่าบริการต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้มีงบประมาณในการทำการตลาดออนไลน์มากมาย แต่ก็ต้องการให้ธุรกิจของตนสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบตรงจุด การทำ Local SEO คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้นได้อย่างลงตัว ทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ใกล้กับผู้ประกอบการอีกด้วย
เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่ไม่เคยทำ Local SEO มาก่อน และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เราจะมาบอกวิธีทำ Local SEO แบบเข้าใจง่าย และทำตามได้ให้รู้กัน
รู้จัก Local SEO คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร
Local SEO คือกลยุทธ์ทางการตลาดที่เน้นพัฒนาประสิทธิภาพของเว็บไซต์เพื่อสร้างตัวตนให้แก่ธุรกิจ โดยตั้งเป้าหมายให้คนในพื้นที่ใกล้เคียงกับธุรกิจสามารถค้นเจอได้ง่าย และสามารถซื้อสินค้าหรือรับบริการได้อย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีการทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาใน Keyword เฉพาะพื้นที่ เช่น ร้านตัดผม รามอินทรา, คลินิกหมอฟัน รามคำแหง หรือร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำ บางกะปิ เป็นต้น
ความสำคัญของการทำ Local SEO คือช่วยให้เว็บไซต์ของแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แบบแม่นยำ และเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสเป็นลูกค้าได้อย่างแท้จริง เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับธุรกิจ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO ควบคุมงบประมาณทำการตลาดได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่าง Local SEO Keyword
สำหรับ Keyword ที่ใช้ในการทำ Local SEO เป็น Longtail Keyword ซึ่งไม่ได้มีการจำกัดความยาว แต่ควรมีโครงสร้าง คือ “ประเภทธุรกิจ + พื้นที่” โดยมีตัวอย่าง Local SEO Keyword ดังนี้
- ร้านอาหาร เช่น ร้านอาหารทะเล รัชดา, ร้านชาบู ชิดลม, ร้านอาหาร ใกล้ฉัน ฯลฯ
- โรงแรม เช่น โรงแรมติดทะเล ชายหาดบางแสน, โรงแรมติดทะเล ใกล้ฉัน ฯลฯ
- คลินิก เช่น คลินิกทำฟัน ลาดพร้าว, คลินิกทำฟัน ใกล้ฉัน ฯลฯ
วิธีทำ Local SEO ฉบับเข้าใจง่าย
สมัคร Google My Business
ขั้นตอนแรกซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการทำ Local SEO คือการสมัคร Google My Business ผ่านทาง
https://www.google.com/business/
แล้วดำเนินการดังต่อไปนี้
- ใส่ข้อมูลของธุรกิจโดยละเอียด ไม่ว่าจะเป็นชื่อบริษัท คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง เว็บไซต์ ช่วงเวลาเปิด-ปิด วันหยุด เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ อีเมล ให้ครบถ้วน เพื่อเป็นการยืนยันตัวตน และเป็นฐานข้อมูลเพื่อเพิ่มโอกาสที่ธุรกิจจะได้รับการค้นเจอจาก Google Search หรือ Google Maps ได้
- อธิบายรายละเอียดของธุรกิจสั้น ๆ เช่น “ร้านชาบูน้ำดำ ย่านชิดลม เนื้อวัวคุณภาพ นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น…” ใส่ลงไปใน Description โดยต้องไม่ลืมแทรกคีย์เวิร์ดลงไปด้วย
- ระบบจะพาไปยังหน้า Google Maps เพื่อปักหมุดพื้นที่ธุรกิจ Local Business ลงไป
- เพิ่มภาพสินค้าหรือบริการที่สวยงามและดึงดูดใจ เพื่อสร้างความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยควรใช้รูปภาพที่มีขนาดมาตรฐาน เพื่อความคมชัดและน่าเชื่อถือ
- เปิดพื้นที่ให้ลูกค้าได้รีวิวบน Google My Business โดยอาศัยกลยุทธ์จูงใจให้มารีวิว เช่น ลงรีวิวแลกส่วนลดสินค้า หรือของที่ระลึก เป็นต้น
ปรับปรุงเว็บไซต์ให้เข้าถึงง่าย
เมื่อปรับปรุง Google My Business เรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ของตนเองให้มีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน โดยมีวิธีทำ Local SEO ดังต่อไปนี้
- ปรับปรุงคอนเทนต์บนหน้าเว็บไซต์ ด้วยการแทรก Longtail Keyword เพื่อบ่งบอกสถานที่ตั้งหรือย่านลงไปในเนื้อหาทุกหน้า เช่น แก้จาก ร้านชาบู เป็น ร้านชาบู ลาดปลาเค้า, คลินิกทำฟัน รามอินทรา ฯลฯ
- สร้างหน้า Local Location Page บนเว็บไซต์ เพื่อบอกสถานที่ตั้งของธุรกิจ โดยต้องเขียนอย่างละเอียด ทั้งถนน ซอย เขต แขวง หรือตำบล อำเภอ และควรใส่เบอร์โทรศัพท์ รวมถึงเวลาทำการให้ครบถ้วน
- ฝัง Google Map ลงไปที่ On Page โดยเลือกเป็นหน้า “Local Location Page” และไม่ควรฝังที่ Footer เพราะจะส่งผลให้การโหลดหน้าเว็บไซต์ช้าลง สร้างความรู้สึกไม่ดีต่อผู้ใช้งานได้
- สร้าง Personalize Content ด้วยการปรับปรุงเนื้อหาในเว็บไซต์ให้ตรงกับ Search Intent ของ Keyword นั้น ๆ เช่น หากทำธุรกิจร้านทำผม ก็ควรมีคอนเทนต์ที่แนะนำการเลือกทรงผมให้เหมาะกับรูปหน้า หรือเทรนด์ทรงผมหรือสีผมมาแรง เป็นต้น
- ทำ Internal Link ในบทความไปยังหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ Google มีความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจมากขึ้น รวมถึงรู้ว่าเนื้อหาในแต่ละหน้ามีความสัมพันธ์กันอย่างไร
- ทำการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความ Mobile Friendly เนื่องจากในปัจจุบันลูกค้านิยมการเซิร์ชหาข้อมูล Local Business ผ่านทางมือถือ จึงควรทำให้ลูกค้าเข้าใช้งานได้อย่างสะดวกมากที่สุด ยิ่งถ้าลิงก์กับ Map ให้ลูกค้าสามารถกดดูและเดินทางมาได้เลย ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้มากขึ้น
เพิ่มประสิทธิภาพด้วยการทำ Off-Page ให้กับเว็บไซต์
- หาเว็บ Listing ที่ให้บริการเกี่ยวกับการรีวิวธุรกิจ เช่น ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ Wongnai, Tripadvisor, Yellowpages เป็นต้น มาช่วยรีวิวธุรกิจ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO อีกด้วย
- สร้างคอนเทนต์ไปลงยังเว็บไซต์อื่น ๆ แล้วทำ Backlink เพื่อส่ง Traffic กลับมายังเว็บไซต์ และเป็นการช่วยให้ Search Engine อย่าง Google มีความเชื่อถือในเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น
ทั้งหมดนี้คือวิธีทำ Local SEO ที่เรานำมาบอกกัน และสำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด และติดตามเทรนด์ซึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงในปัจจุบัน เพื่อนำมาใช้ในการปรับปรุงเว็บไซต์ของตนเอง เราขอแนะนำ Mandala Analytics จาก Mandala AI ซึ่งเป็นเครื่องมือในการทำ Social Monitoring พร้อมเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ข้อมูล ที่คุณสามารถศึกษาเทรนด์ในการทำการตลาดได้หลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น Keyword Trend, Hashtag Trend, Emoji Trend ไปจนถึงเทรนด์จาก X (Twitter) และ Google ด้วยเช่นกัน คุณสามารถเริ่มใช้โปรแกรมหา Keyword นี้ได้ฟรี! สนใจทดลองใช้บริการ หรือหากมีข้อสงสัย ส่งข้อความมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.mandalasystem.com/contact_us
ข้อมูลอ้างอิง:
- แบรนด์เล็กต้องรู้! อยากสู้เว็บไซต์ใหญ่ๆ ต้องใช้ Local SEO. สืบค้นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567
- A Comprehensive Guide to Local SEO in 2023. สืบค้นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567
- Local SEO In 2024: The Ultimate Guide. สืบค้นวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567
