เราอยู่ในยุคที่การซื้อขายออนไลน์นั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวอย่างมาก เรียกได้ว่า หลาย ๆ ธุรกิจก็หันมาขายของออนไลน์กันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบนแพลตฟอร์ม E-commerce หรือ Social media ก็ตาม และด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนามาอย่างเรื่อย ๆ ทำให้แอปพลิเคชันสำหรับแชทอย่าง Line เอง ก็เพิ่มฟีเจอร์ที่เอื้อประโยชน์แก่เหล่านักการตลาดในการทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างดี
การทำ Line marketing นั้นถือเป็น Social media trend ที่เจ้าของแบรนด์และนักการตลาดควรหันมาสนใจ เพราะแบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างสะดวก ทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญจำนวนผู้ใช้ Line ในประเทศไทยมีจำนวนมากถึง 51 ล้านบัญชี ถือว่ามากเป็นอันดับสองของโลกรองจากประเทศญี่ปุ่นที่เป็นประเทศผู้ผลิตแอปพลิเคชันนี้ ชี้ให้เห็นถึงช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ได้โดยง่าย
บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับแอปพลิเคชัน Line ว่ามีฟีเจอร์และประโยชน์อะไรบ้าง และจะสามารถตอบโจทย์เทรนด์การตลาดยุคนี้ได้อย่างไร
Line Marketing คือ
ความหมายของ Line marketing นั้นไม่ได้ซับซ้อนมากนัก เพราะสามารถแปลอย่างตรงตัวได้เลย ซึ่งนั่นก็คือการทำการตลาดบนแอปฯ Line นั่นเอง โดยแบรนด์จะต้องเปิดเป็นบัญชีทาง
การหรือที่หลายคนอาจคุ้นกับคำว่า Line OA (Line official account) ก่อนเริ่มทำการตลาดบนแพลตฟอร์มนี้
การทำ Line marketing นั้นเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจได้อย่างมาก เพราะแบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถามผ่านแชท การโปรโมทคอนเทนต์ของแบรนด์การทำโปรโมชั่นโดยการแจกคูปองส่วนลด เป็นต้น และนอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ ที่มาช่วยให้การทำการตลาดบนแพลตฟอร์มนี้มีประสิทธิภาพขึ้น
Line OA เหมาะสำหรับใคร
หากคุณเป็นเจ้าของแบรนด์ที่สนใจจะทำการตลาดบน Line OA ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจก่อนว่าบัญชีของ Line OA มีอะไรบ้าง และธุรกิจของคุณเหมาะกับบัญชีประเภทใด ซึ่งสามารถแบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. บัญชีทั่วไป (Unverified account)
เป็นบัญชีทั่วไปที่ยังไม่ได้รับรองจากทาง Line ชื่อไอดีจะเป็น Random ID เหมาะสำหรับร้านค้า SME ทั่วไป (มีไอคอนโล่สีเทากำกับบัญชี)
2. บัญชีรับรอง (Verified account)
เป็นบัญชีที่ได้รับการรับรองทางจาก Line ว่ามีตัวตนจริง สามารถใช้ฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้มากกว่าบัญชีทั่วไปเล็กน้อย มีค่าใช้จ่ายเดียวตลอดอายุการใช้งาน (มีไอคอนโล่สีน้ำเงินกำกับบัญชี)
3. บัญชีพรีเมี่ยม (Premium account)
เป็นบัญชีที่ได้รับการรับรองทางจาก Line มีค่าใช้จ่ายสูง สามารถใช้ฟีเจอร์พิเศษได้และเปลี่ยนชื่อไอดีได้ เหมาะสำหรับบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่ (มีไอคอนโล่สีเขียวกำกับบัญชี)
ฟีเจอร์ที่สำคัญของ Line Official Account ในการทำการตลาด
1. Greeting message
Greeting message คือ ข้อความทักทายเพื่อนใหม่ ซึ่งจะเป็นการส่งข้อความอัตโนมัติทันทีที่ผู้ใช้ได้กดเพิ่มเพื่อนกับ Line official account ของแบรนด์ แบรนด์สามารถกำหนดรูปแบบของ Greeting message ได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการใช้สติ๊กเกอร์ อีโมจิ การใช้รูปภาพ การส่งข้อความเสียงและอื่น ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับอัฒลักษณ์และเป้าหมายทางการตลาดของแบรนด์
2. Rich message
Rich message เป็นฟังก์ชันของ Line OA ที่ให้แบรนด์สามารถส่งรูปภาพขนาด 1040 x 1040 พิกเซล หรือขนาดเต็มหน้าจอให้กับผู้ติดตามทั้งหมดได้ โดยปกติ Rich message จะถูกนำมาใช้ในการโปรโมทแบรนด์อย่างการแจ้ง ดีล ส่วนลด สินค้ามาใหม่ หรือสินค้าที่กำลังเป็นเทรนด์ของทางร้าน ซึ่งฟังก์ชันนี้แบรนด์สามารถแนบลิงก์ลงไปได้ด้วย ทำให้ผู้ใช้หรือลูกค้าสามารถกดที่ Rich message นั้น ๆ เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่ได้เลย ถือว่าเป็นฟังก์ชันที่สะดวกสำหรับแบรนด์อย่างมาก เพราะทำให้แบรนด์ไม่ต้องส่งรูปภาพและลิงก์แยกในการสื่อสารแบรนด์แต่ละครั้ง
3. Rich Video
Rich video เป็นอีกฟังก์ที่ช่วยสร้าง Awareness ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการทำงานนั้นก็คล้ายกับ Rich message เพียงแต่มาในรูปแบบของวิดีโอแบบเต็มจอ เมื่อลูกค้าหรือผู้ใช้กดเข้ามาอ่านข้อความที่แบรนด์ได้ส่งออกไป วิดีโอจะทำการเล่นเองโดยอัตโนมัติ และแบรนด์ก็ยังสามารถแนบลิงก์ได้เช่นเดียวกับ Rich message ฟังก์ชันนี้สามารถดึงดูดและเพิ่มน่าสนใจให้กลุ่มเป้าหมายได้และมักถูกนำมาใช้ในการเผยแพร่ Ads หรือโปรโมทสินค้าใหม่ของแบรนด์
4. Card message
Card message ถือเป็นฟีเจอร์ที่เหมาะกับการโปรโมทสินค้าและบริการเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการส่งข้อความในรูปแบบการ์ดหรือ Carousel ที่ให้ลูกค้าเลื่อนชมภาพได้มากถึง 9 ภาพ แถมยังมีรูปแบบการ์ดที่แตกต่างกันถึง 4 ประเภท คือสินค้า สถานที่ บุคคล และรูปภาพ แบรนด์สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของประเภทข้อความที่ต้องการส่งได้เลย เมื่อลูกค้าคลิกที่การ์ดนั้น ๆ ก็สามารถลิงก์ไปยังหน้าแสดงสินค้าหรือหน้าเว็บไซต์ที่แบรนด์ต้องการสื่อสารได้ทันที เรียกได้ว่า เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสื่อสารได้อย่างครบครัน ช่วยกระตุ้น Engagement และเพิ่มยอดขายได้ไปในตัวเลย
5. Rich menu
หากคุณเคยช้อปปิ้งใน Line OA คุณอาจเคยเห็นเมนูลัดในช่องแชทของแบรนด์ ซึ่งถือว่าสร้างความสะดวกให้ลูกค้าอย่างมาก เพราะพวกเขาสามารถได้ข้อมูลที่รวดเร็ว ทางแบรนด์สามารถตั้งค่าเมนูและใส่ลิงก์ได้ตามต้องการ ที่สำคัญคือทาง Line OA เองก็มีเทมเพลตให้เลือกใช้มากถึง 12 แบบ ดังนั้นแบรนด์ควรสร้างเมนูให้น่าดึงดูดมากที่สุด เพื่อเป็นการกระตุ้นการซื้อขายที่รวดเร็วนั่นเอง
ตัวอย่างการสร้าง Rich menu มีดังนี้
- ใส่ลิงก์เว็บไซต์ของแบรนด์
- หน้าสมัครสมาชิกของแบรนด์
- ใส่หน้าเพจของแบรนด์บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ
- ใส่หน้าโปรโมชั่นของแบรนด์
6. Vloom (Timeline)
ฟีเจอร์ Vloom ใน Line OA ถือเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์สำหรับแบรนด์เพราะเป็นการสร้างโพสต์สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้โดยง่าย ซึ่งหลักการการทำงานของ Timeline ก็คล้ายกับการโพสต์ Reel บน Facebook คือ แบรนด์สามารถโพสต์ข้อความ วีดีโอ แนบรูปและลิงก์ได้ตามต้องการ และหากมีจำนวนคนกดไลค์หรือแชร์โพสต์ของแบรนด์ต่อมากเท่าไหร่ เพื่อน ๆ ใน Line ของกลุ่มเป้าหมายก็มีโอกาสเห็นโพสต์ของแบรนด์มากขึ้น ถือว่าเป็นการสื่อสารแบรนด์ เพิ่ม Awareness และ โอกาสในการสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกวิธีหนึ่ง
7. Reward card & Coupon
Reward card เป็นฟังก์ชันที่ช่วยให้แบรนด์สามารถรักษาฐานลูกค้าและกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี โดยแบรนด์สามารถให้กลุ่มเป้าหมายสะสมแต้มในบัตรสะสมแต้ม (Reward card) ตามยอดการซื้อสินค้า ซึ่งแบรนด์สามารถกำหนดเองได้เลยว่า หากมีการซื้อสินค้าราคาเท่าไหร่ จะได้แต้มกี่แต้ม และเมื่อสะสมครบจำนวนที่เท่าไหร่ จะได้สิทธิพิเศษอะไรเป็นการตอบแทน
และสำหรับคูปอง (Coupon) ก็เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันที่ช่วยกระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำได้ แบรนด์สามารถสร้างคูปองได้หลากหลายแบบเช่น ส่วนลด แจกของขวัญ Cashback และอื่น ๆ ให้สอดคล้องกับตามกลยุทธ์และเป้าหมายทางการตลาดของแบรนด์ ทั้งนี้แบรนด์สามารถแจกคูปองให้แกกลุ่มเป้าหมายได้ 3 แบบ คือ
- สาธารณะ: สามารถแชร์และโพสต์บน Timeline ได้
- เฉพาะเพื่อนเท่านั้น: สามารถแชร์ต่อให้เพื่อนได้แต่ไม่สามารถโพสต์บน Timeline ได้
- เฉพาะเพื่อนเท่านั้นและไม่อนุญาตให้แชร์: ลูกค้าไม่สามารถแชร์และโพสต์บน Timeline ได้
8. Broadcast
Broadcast หรือการเผยแพร่ เป็นการที่แบรนด์สื่อสารข้อมูลออกไปหาผู้ติดตามหรือผู้ใช้ที่เพิ่มบัญชีของแบรนด์เป็นเพื่อนหลาย ๆ คน การ Broadcast ทำให้แบรนด์เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายและตรงกลุ่มมากขึ้นผ่านการเลือกระบุเพศและอายุ แบรนด์สามารถ Broadcast ข้อความทางแชทได้ฟรี 1,000 ข้อความ และสามารถโพสต์บน Timeline ได้แบบไม่จำกัด
สิ่งที่แบรนด์สามารถ Broadcast ได้:
- ข้อความ
- สติ๊กเกอร์
- รูปภาพ
- วิดีโอ
- ข้อความเสียง
- Rich Message
- Rich Video Message
- Card message
- Coupon
ตัวอย่างการใช้งาน Line Marketing
1. แนะนำแบรนด์
ถือเป็นกลยุทธ์เบื้องต้นสำหรับการทำการตลาด การที่กลุ่มเป้าหมายเพิ่มแบรนด์ของคุณเป็นเพื่อนบน Line นั้น ก็อาจเป็นได้ทั้งลูกค้าใหม่และคนที่อาจเคยเห็นแบรนด์มาบ้างแล้ว ดังนั้นการสร้างตัวตนของแบรนด์ในครั้งแรกก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญอยู่ โดยแบรนด์ควรสร้าง Brand voice ที่มีความดึงดูด คำนึงถึงการใช้ภาษา โทนการสื่อสาร รูปภาพ สติ๊กเกอร์ และยังต้องสื่อสารและแนะนำแบรนด์ให้ลูกค้าเข้าใจว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่บ้างบนแพลตฟอร์มนี้
ทริคการใช้ฟีเจอร์ใน Line OA เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย
- ใช้ Greeting message เพื่อสร้างความประทับใจแรกที่ดี
- ใช้ Card message เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจแบรนด์มากขึ้น
- ใช้ Rich menu ในการสร้างเมนูลัด แนะนำสิ่งที่แบรนด์อย่างครบถ้วน
- ใช้ Rich video เพื่อช่วยให้ลูกค้าเข้าใจแบรนด์มากขึ้น (เหมาะอย่างยิ่งกับสินค้าที่มีขั้นตอนการใช้งานที่ซับซ้อน)
2. กระตุ้นการซื้อตั้งแต่ครั้งแรก
หากทำความเข้าใจกลยุทธ์การแนะนำแบรนด์ไปเรียบร้อยแล้ว อีกวิธีที่สำคัญคือการกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อสินค้าของแบรนด์ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เพราะในการซื้อครั้งแรกนั้นลูกค้าเองก็ต้องใช้อาศัยความกล้าในการตัดสินใจซื้อ แบรนด์จึงควรมีกลยุทธ์ที่สามารถดึงดูดพวกเขาได้
ทริคการใช้ฟีเจอร์ใน Line OA เพื่อสื่อสารไปยังลูกค้าใหม่
- ใช้ Coupon หรือแจกส่วนลดสำหรับผู้ใช้ที่ทำการซื้อครั้งแรก
- ใช้ Rich Video และ Rich message สร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดและสื่อสารแบรนด์ออกไปว่าสินค้าของคุณจะเพิ่มคุณค่าให้กลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร
3. กระตุ้นการซื้อซ้ำ
เมื่อเกิดการซื้อครั้งที่ 1 แล้ว แบรนด์ก็ควรเพิ่มโอกาสในการซื้อซ้ำ เพื่อเป็นการสร้าง Brand loyalty ซึ่งทั้งนี้แบรนด์อาจทำได้โดยการทำ Social listening เพื่อคอยตรวจสอบผลตอบรับของลูกค้าและนำมาปรับปรุงแบรนด์ให้ตรงกับความต้องการของพวกเขา นอกจากนี้อาจใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์และฟังก์ชั่นอื่น ๆ ในไลน์เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้าได้อีกด้วย
ทริคการใช้ฟีเจอร์ใน Line OA เพื่อสื่อสารไปยังลูกค้าเก่า
- ใช้ Broadcast เพื่อเป็นการสื่อสารแบรนด์ แจ้งโปรโมชั่น หรือสินค้าใหม่
- ใช้ Rich message ให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการตลาด
- ใช้ Reward card สำหรับลูกค้าที่ได้ทำการซื้อสินค้าไปแล้ว เพื่อเป็นการสะส้มแต้ม รับของรางวัล หรือส่วนลดเป็นต้น
4. กระตุ้นการบอกต่อ เพราะ 90% ของผู้คนนั้นมีแนวโน้มจะเชื่อใจในแบรนด์ที่ได้รับการบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word-of-Mouth) แม้จะเป็นคนที่ไม่รู้จักมากก็ตาม แต่ทั้งนี้แบรนด์เองก็ไม่สามารถบังคับให้พวกเขาไปบอกต่อกับเพื่อนได้ ดังนั้นอาจต้องใช้กลยุทธ์เข้ามาช่วยกระตุ้น เช่นการจัดโปรโมชันซื้อคู่กับเพื่อน ลด 15% เป็นต้น นี่ถือเป็นการสร้างฐานลูกค้าที่แน่นแฟ้นและยังเพิ่มโอกาสในการสร้าง Brand awareness ให้กับเพื่อนของลูกค้าขาประจำได้อีกด้วย
ทริคการใช้ฟีเจอร์ใน Line OA เพื่อสื่อสารไปยังลูกค้าประจำ
- ใช้ Card message ในการนำเสนอสินค้าที่หลากหลาย
- ใช้ Broadcast ในการแจ้งโปรโมชันสำหรับลูกค้าประจำเท่านั้น
ประโยชน์ของการทำการตลาดผ่าน Line
- Line OA ถือเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ครบวงจร ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มาพร้อมฟีเจอร์ที่เป็นประโยชน์
- สะดวกสำหรับแบรนด์และลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการสนทนา สอบถามรายละเอียดสินค้า หรือแม้กระทั่งการขาย
- เมื่อกลุ่มเป้าหมายเพิ่มแบรนด์เป็นเพื่อนแล้ว พวกเขาสามารถชมสินค้าของแบรนด์ได้เลย ทำให้แบรนด์ไม่จำเป็นต้องแนะนำสินค้าหรือเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่
- กลุ่มเป้าหมายสามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น เนื่องจาก Line เป็นแอปพลิเคชันแชท ทำให้พวกเขารู้สึกสะดวกใจในการสอบถามข้อมูล และยังสามารถศึกษาข้อมูลสินค้าด้วยตัวเองได้ด้วยเช่นกัน
Line Marketing ตอบโจทย์การตลาดแบบครบวงจร
จากที่ได้ทำความเข้าใจในฟีเจอร์ที่หลากหลายและประโยชน์ของ Line Marketing กันไปแล้วนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำการตลาดของแบรนด์ด้วยแพลตฟอร์ม Line สามารถตอบโจทย์การตลาดในยุคนี้ได้อย่างครบวงจร เพราะทำได้ตั้งแต่การแนะนำแบรนด์สำหรับลูกค้าใหม่ กระตุ้นการซื้อซ้ำสำหรับลูกค้าเก่า แถมยังสามารถใช้สื่อสารแบรนด์ แจ้งโปรโมชั่น สร้าง Brand loyalty กับลูกค้าได้ในที่เดียวอีกด้วย
หากคุณเป็นแบรนด์ที่กำลังต้องการเพิ่มช่องทางการสื่อสารแบรนด์ Line ก็ถือเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์พฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคในปัจจุบันได้ดีอีกช่องทางหนึ่งเลย
