ปัจจุบันเราเดินทางเข้าสู่ Digital Era อย่างเต็มตัว ในส่วนของการตลาด หลายคนก็เริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อช่วยในการทำงานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Google Ads, Facebook Ads ในการทำโฆษณา หรือแม้แต่การใช้ Canva เพื่อสร้างสรรค์รูปภาพประกอบการโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ล้วนแต่เป็น Martech ทั้งนั้น แล้ว Martech มีกี่ประเภท มีประโยชน์อะไรบ้าง และทำไมธุรกิจต่างๆ ควรใช้ มาหาคำตอบกันที่บทความนี้เลย!
Martech (Marketing Technology) คืออะไร
Martech มาจากคำว่า Marketing และ Technology เรียกได้ว่าเป็น “เทคโนโลยีที่ใช้ในการตลาด” หรือการใช้เทคโนโลยีในการตลาดเพื่อสนับสนุนและปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตลาด เช่น รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล สร้างเนื้อหาที่เหมาะกับแต่ละคน และติดตามกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้นักการตลาดสามารถทำการตลาดได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทำไมธุรกิจในปัจจุบันถึงต้องใช้ MarTech Tools
Martech เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม เนื่องจากช่วยให้ธุรกิจของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง โดยสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ อย่างการพัฒนาระบบจากฟีดแบคของลูกค้าให้ตอบโจทย์ได้มากขึ้น และยังมีประโยชน์อื่นๆ อีก ดังนี้
1. เพิ่มการทำการตลาดได้อย่างเเม่นยำ
ข้อมูลที่ล้นหลามนับเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของทุกธุรกิจ แต่เมื่อธุรกิจมีเครื่องมือที่เหมาะสมกับการทำการตลาดอย่าง Martech ก็จะช่วยให้สามารถจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระเบียบ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ทำการตลาดได้อย่างแม่นยำ เนื่องจาก Martech สามารถรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น ความสนใจ ความชอบ พฤติกรรมการซื้อ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำข้อมูลมาใช้ปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดและผลลัพธ์ของแคมเปญ
2. สร้างเนื้อหาที่เหมาะกับเป้าหมายแต่ละคนได้มากขึ้น
เมื่อธุรกิจมีข้อมูลมากขึ้น การใช้ Martech นอกจากจะช่วยให้สามารถทำการตลาดได้อย่างแม่นยำแล้ว ยังช่วยให้สามารถนำข้อมูลที่มีมาวิเคราะห์เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายแต่ละประเภทมากยิ่งขึ้น โดยผู้บริโภค 75% รายงานว่าพวกเขามีความสนใจที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่นำเสนอประสบการณ์การตลาดที่มีลักษณะส่วนบุคคล ดังนั้นยิ่งธุรกิจสามารถเข้าใจลูกค้า และสร้างแคมเปญได้ตอบโจทย์กับแต่ละคนได้มากเท่าไหร่ก็จะมีผลต่อความสำเร็จและสามารถเปลี่ยนให้กลุ่มเป้าหมายกลายเป็นลูกค้าได้มากขึ้นเท่านั้น
3. ก้าวขึ้นสู่ผู้นำในตลาดเหนือคู่แข่ง
ปัจจุบันการใช้ Martech เป็นที่นิยมในการทำการตลาดแทบทุกธุรกิจ หลายธุรกิจก็มีการลงทุนในเรื่องของ Martech มากยิ่งขึ้นเพื่อเพิ่มกำลังในการแข่งขันกับคู่แข่ง เพราะแค่ความแตกต่างเล็กน้อยในเรื่องของการนำเสนอสินค้าและบริการก็ทำให้ธุรกิจสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้เลย โดยนักการตลาดส่วนใหญ่มักจะใช้ Martech ด้าน Data Analysis, Project Management และ Contact Management เพื่อช่วยในการทำงานของตน ปัจจุบันไม่ใช่แค่เพียงฝ่ายการตลาดเท่านั้นที่ใช้ Martech แต่ทั่วทั้งบริษัทกำลังเปลี่ยนระบบการทำงานโดยใช้ Martech มากยิ่งขึ้นด้วย
เครื่องมือ MarTech มีกี่ประเภท
ปัจจุบันเครื่องมือ Martech นั้นมีด้วยกันหลากหลายประเภท เพื่อให้เข้าใจการใช้งานของแต่ละประเภทมากยิ่งขึ้น ตามมาดู Martech ทั้ง 9 ประเภทได้เลย
1. Analytics (Mandala Analytics)
เครื่องมือ Analytics ช่วยนักการตลาดวิเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญต่อการทำการตลาด อย่าง Mandala Analytics ที่มีฟีเจอร์การใช้งานมากมายที่ตอบโจทย์ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์โซเชียลมีเดีย ดูเทรนด์ที่กำลังมาแรง ดูข้อมูลย้อนหลังได้ 1 ปี หา Keyword ที่เหมาะสมในการโพสต์ หา Influencer ที่เหมาะสมกับ Keyword ที่ลูกค้าใช้ในการหาข้อมูล และสรุปข้อมูลของแคมเปญให้เหลือเพียง 1,000 ข้อความ
มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างไร?
ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับธุรกิจได้อย่างง่ายดาย วิเคราะห์ธุรกิจของคู่แข่งได้อย่างสะดวก ได้ข้อมูลในการสร้างคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ตรงกับเทรนด์ปัจจุบัน อย่าง Keyword และ Hashtag ประกอบการโพสต์ และ Influencer ที่เข้ากับแคมเปญการตลาด นอกจากนี้ยังช่วยให้ประหยัดเวลาในการสรุปแคมเปญแถมยังได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2. Advertising & Promotion
อีกประเภทที่นักการตลาดอย่างเราใช้งานกันบ่อย แน่นอนว่าต้องเป็น Martech ด้าน Advertising & Promotion เพื่อช่วยการทำแคมเปญโฆษณาให้สามารถนำเสนอโปรโมชันตรงกลุ่มเป้าหมายได้ โดยเครื่องมือที่เราคุ้นเคยกันดี ได้แก่ Google Ads และ Facebook Ads
มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างไร?
การใช้เครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจที่เจาะจงได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ วัย ความสนใจ อาชีพ และรายได้ที่เชื่อมโยงกับสินค้าและบริการที่ธุรกิจต้องการนำเสนอโปรโมชัน นอกจากนี้ยังช่วยให้เสนอโปรโมชันได้อย่างเหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันได้มากขึ้น ช่วยประหยัดเวลาในการทำการตลาดไปกับกลุ่มที่ไม่ใช่
3. CRM
CRM ย่อมาจาก Customer Relationship Management หรือ การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า เครื่องมือนี้จะช่วยธุรกิจสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับลูกค้าปัจจุบันโดยการติดตามการสื่อสาร การชำระเงิน และคำสั่งซื้อในแอปพลิเคชันเดียว เรียกได้ว่าทั้งสะดวกและรวดเร็วมากๆ
ศึกษาเพิ่มเติม: การทำการตลาด CRM
มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างไร?
การใช้ CRM ช่วยให้บริษัทสามารถให้บริการก่อนการขายและหลังการขายที่ดีขึ้นเนื่องจากมีการติดตาม Customer Journey อย่างละเอียด ทำให้ลูกค้าไม่ตกหล่นในแต่ละจุด ไม่ว่าจะเป็นการสอบถามข้อมูล การสั่งซื้อสินค้า และการชำระเงิน ช่วยนำเสนอสินค้าที่เหมาะกับลูกค้ามากขึ้น และสามารถรักษาลูกค้าไว้ในระยะเวลาที่ยาวนาน
4. SEO
นอกจากเครื่องมี Martech ประเภทต่างๆ ที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมี SEO หรือ Search Engine Optimization ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในยุคนี้ เนื่องจากเป็นการนำข้อมูลอย่าง Keyword ที่ผู้คนใช้ในการค้นหาสินค้าและบริการมาวิเคราะห์ว่า Keyword ไหนที่เหมาะสมกับการใช้ในอุตสาหกรรมของคุณเพื่อเพิ่มยอดการเข้าชมบนเว็บไซต์ต่างๆ โดยการใช้ SEO ที่เห็นได้บ่อยอีกอันคือการใช้ในการหา Keyword เพื่อทำคอนเทนต์บทความลง WordPress
มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างไร?
SEO สามารถช่วยให้เว็บไซต์ของธุรกิจขึ้นบนหน้าแรกของการค้นหา ซึ่งแน่นอนว่าเว็บไซต์ที่ขึ้นเป็นเว็บแรกๆ มักจะมีผู้เข้าชมมากกว่าเว็บไซต์ในหน้าอื่นๆ เพราะฉะนั้นเมื่อมีผู้เข้าชมเว็บไซต์มากก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการ อีกทั้งยังสามารถเพิ่ม awareness, engagement และ conversion ในเว็บไซต์ได้อีกเช่นกัน
5. Online Design (Canva)
รูปภาพและวิดีโอนับเป็นสื่อสำคัญที่จะช่วยให้แคมเปญทางการตลาดประสบความสำเร็จ เชื่อว่านักออกแบบหลายคนก็เคยใช้ Martech ประเภทนี้อยู่แล้ว แต่บางคนอาจไม่รู้ว่าเครื่องมือเหล่านี้นับเป็น Martech เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Canva, CapCut และแอปอื่นๆ ที่ช่วยให้สามารถสร้างสรรค์รูปภาพและวิดีโอที่มีประสิทธิภาพต่อการทำแคมเปญ
มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างไร?
เคยไหม? มีหลายครั้งที่ต้องทำงานออกแบบแต่ไม่มีไอเดีย ปัญหานี้อาจจะหมดไปถ้าลองใช้ Martech ด้าน Online Design อย่าง Canva และ CapCut เพราะเครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้เทมแพลตที่เหมาะสมกับการทำแคมเปญบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการทำรูปภาพโฆษณาโปรโมชันต่างๆ หรือการเปิดตัวสินค้าและบริการใหม่ๆ นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลาในการสร้างสรรค์ได้ด้วย
6. Email Marketing
อย่างที่ทราบกันว่าประโยชน์หนึ่งของ Martech คือสามารถสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานรายบุคคลได้ Email Marketing ก็เป็นการตลาดอย่างหนึ่งที่นักการตลาดมักจะใช้เพื่อนำเสนอโปรโมชันที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่มผ่านทางอีเมล
มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างไร?
การใช้อีเมลในการทำการตลาดอาจมีประโยชน์กว่าที่หลายคนคิด เนื่องจากนักการตลาดสามารถตั้งค่าเวลาในการส่งอีเมล จัดกลุ่มอีเมลของกลุ่มเป้าหมายประเภทเดียวกันได้อย่างงง่ายดาย และสามารถนำเสนอเนื้อหาที่แตกต่างกันตามความเหมาะสมของผู้นับ อีกทั้งยังสามารถทำ A/B Testing ได้ว่าเนื้อหาหรือรูปภาพแบบไหนที่มีประสิทธิภาพในการทำการตลาดทางอีเมลมากกว่ากันโดยวัดจากยอดเปิดอ่าน คลิกลิงก์ หรือสมัครลงทะเบียนของผู้รับอีเมล
7. Content Management
นอกจากจะช่วยสร้างรูปภาพและวิดีโอเพื่อประกอบคอนเทนต์ทางช่องทางออนไลน์แล้ว Martech ยังมีประเภทที่ช่วยจัดการคอนเทนต์โดยเฉพาะอีกด้วย ซึ่งเครื่องมือนี้จะช่วยนักการตลาดหรือ Content Manager จัดการคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นบน Own Media หรือเว็บไซต์
มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างไร?
ผู้ใช้งานสามารถจัดการคอนเทนต์ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการค้นหา อัปเดต แท็ก สร้าง ตรวจสอบ หรือแก้ไขคอนเทนต์ โดยสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม
8. Social Media
ทางด้านของโซเชียลมีเดีย การมีเครื่องมือนี้ช่วยการทำการตลาดทำให้สามารถโพสต์เนื้อหาเดียวกันลงในไซต์ต่างๆ ได้ กำหนดเวลาโพสต์ได้ และปรับขนาดรูปภาพที่เหมาะสมกับแต่ละช่องทางได้อย่างอัตโนมัติ โดยบางเครื่องมืออาจเจาะลึกไปถึงการเข้าใจลูกค้าของธุรกิจว่าเป็นใคร และมีพฤติกรรมอย่างไร
มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างไร?
เมื่อมีผู้ช่วยแน่นอนว่านักการตลาดย่อมประหยัดแรงในการทำงานบนโซเชียลมีเดียมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเครื่องมือนี้สามารถจัดการข้อมูลได้ในทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียผ่านช่องทางเดียว นอกจากนี้ยังช่วยวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาในการสำรวจเอง
9. Customer Experience Software
MarTech นี้สามารถช่วยบริษัททดสอบประสิทธิภาพของเว็บไซต์,Interface, และแอปพลิเคชันของบริษัทโดยเน้นไปที่ประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าผ่านการทดสอบ A/B Testing และปรับแต่งให้เหมาะสมกับผู้ชมเว็บไซต์แต่ละกลุ่ม
มีประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างไร?
เครื่องมือนี้ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าเนื่องจากมีการทดสอบระบบก่อนที่จะใช้จริงผ่านการทำ A/B Testing ทั้งในเว็บไซต์ แอป และ Interface เพื่อให้ลูกค้าประทับใจในทุกๆ touch point
รู้จัก Mandala AI พร้อมวิธีใช้
Mandala Analytics เป็น Social Listening Tools ที่จัดอยู่ในกลุ่ม Martech ด้าน Analytics, Social Media, SEO และ Content Management โดยมีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลายและเหมาะสมกับธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมที่ต้องการหา Insight ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรม ความสนใจ ช่วงอายุ วัย เพศ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการทำการตลาด นอกจากนี้ยังสามารถวิเคราะห์เทรนด์บนโลกออนไลน์ที่กำลังเป็นกระแส Influencer ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย Keyword และ Hashtag ที่เหมาะกับการทำ SEO เวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์ โดยสามารถสมัครใช้งาน Mandala Analytics ได้ทั้งแบบ Free Trial ฟรี 15 วัน และ สมัครบัญชีตาม Plan และอ่านวิธีใช้งานเพิ่มเติมได้ที่นี่
สรุป
เครื่องมือ Martech เป็นเครื่องมือสมัยใหม่ที่นักการตลาดควรศึกษาและเรียนรู้เนื่องจากช่วยให้ธุรกิจสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ช่วยสร้างเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละประเภท และยังใช้ข้อมูลที่มีได้อย่างมีประสิทธิภาพในการพัฒนาการตลาดให้ดีขึ้น โดยนักการตลาดที่ต้องการทดลองใช้เครื่องมือดังกล่าวที่รวบรวมฟีเจอร์การใช้งานมากมายที่ตอบโจทย์การทำการตลาด สามารถใช้เครื่องมือ Mandala Analytics เพื่อหาเวลาที่ดีที่สุดในการโพสต์โซเชียลมีเดีย ดูเทรนด์ที่กำลังมาแรงย้อนหลัง 7 วัน หา Keyword ที่เหมาะสมในการโพสต์ หา Influencer ที่เหมาะสมกับ Keyword ที่ลูกค้าใช้ในการหาข้อมูล และสรุปข้อมูลของแคมเปญให้เหลือเพียง 1,000 ข้อความ เรียกได้ว่าช่วยประหยัดเวลาในการทำตลาดแถมยังช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพได้อีกด้วย