กลยุทธ์ Product Marketing คือ? พร้อมวิธีนำเสนอให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย 

เมื่อตลาดเต็มไปด้วยคู่แข่งที่ต่างนำเสนอสินค้าและบริการที่คล้าย ๆ กันในอุตสาหกรรมเดียวกัน การทำการตลาดแบบดั้งเดิมอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ประกอบกับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภค การเจาะลึกไปที่สินค้าและบริการของแบรนด์โดยเฉพาะอย่าง Product Marketing จึงเป็นกลยุทธ์ที่น่าจับตามองในยุคนี้

Product Marketing คือ? 

Product Marketing คือ กลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นไปที่สินค้าและบริการของแบรนด์โดยเฉพาะ เป็นการนำเสนอสินค้าและบริการเหล่านั้นในแง่ของประโยชน์ คุณค่า และจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ทราบ เพื่อเพิ่มยอดขาย การรับรู้แบรนด์ และการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย

ทำไม Product Marketing ถึงสำคัญ?

อย่างที่รู้กันว่าการทำการตลาดยุคใหม่นั้นมีเทคนิคและกลยุทธ์ที่หลากหลาย ซึ่งการนำเสนอสินค้าและบริการเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าใจจุดเด่น ประโยชน์และคุณค่าโดยตรง อย่างกลุยุทธ์ Product Marketing จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อแบรนด์และธุรกิจยุคใหม่ ๆ โดยยังสร้างประโยชน์ให้กับแบรนด์ในหลากหลายด้าน ได้แก่

1. เข้าใจลูกค้ามากขึ้น

การทำ Product Marketing ช่วยให้สามารถเข้าใจลูกค้าได้มากขึ้น เนื่องจากก่อนที่จะคิดกลยุทธ์เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ แบรนด์จะต้องทำการสำรวจลูกค้าในเชิงลึกถึงความต้องการ พฤติกรรม และปัญหาของลูกค้า เพื่อสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้

2. เชื่อมโยงลูกค้าและสินค้า

เมื่อแบรนด์เข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้นในแง่ความต้องการและพฤติกรรมก็สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ว่าแบรนด์ต้องสื่อสารแบบใดถึงจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้ โดยการสื่อสารที่ตรงประเด็น ใช้ภาษาที่เหมาะสมจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างลูกค้าและแบรนด์ ช่วยเชื่อมโยงให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการที่แบรนด์นำเสนอได้มากยิ่งขึ้น

3. ช่วยในการตัดสินใจซื้อ

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าการทำ Product Marketing จะมีการเจาะจงไปที่ประโยชน์ จุดเด่น การใช้งาน และคุณค่าของสินค้าและบริการโดยเฉพาะทำให้ลูกค้าได้ทราบข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ซึ่งมีส่วนช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการนั้น ๆ

4. เพิ่มยอดขาย

การทำการตลาดโดยเน้นไปที่ตัวสินค้าและบริการโดยตรงเปรียบเสมือนการนำเสนอขายสินค้าและบริการชิ้นนั้นให้กับกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจโดยเฉพาะ บางแบรนด์อาจมีสินค้าและบริการที่หลากหลาย แต่การทำ Product Marketing จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงสินค้าที่ตรงกับความต้องการของตนมากที่สุด ส่งผลให้ปิดการขายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

6 ขั้นตอนการสร้าง Product Marketing ให้มีประสิทธิภาพ

1. กําหนดเป้าหมาย

ขั้นแรกคือต้องตั้งเป้าหมายของแบรนด์ว่าแบรนด์ต้องการทำ Product Marketing ไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อสร้างยอดขาย เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม หรือเพื่อสร้างการรับรู้ ซึ่งเป้าหมายแต่ละอย่างจะมีการใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้นแบรนด์จะต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนก่อนที่จะเริ่มลงมือนำเสนอขายสินค้าและบริการ

Tips: เป้าหมายที่ชัดเจนจะนำไปสู่การสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับการนำเสนอสินค้าและบริการ

2. สำรวจกลุ่มเป้าหมาย

ก่อนที่จะลงลึกไปที่การสร้างกลยุทธ์ Product Marketing จะต้องทำการสำรวจกลุ่มเป้าหมายก่อนว่ามีความสนใจในด้านใด มีปัญหาอย่างไรที่สินค้าและบริการสามารถเข้าไปช่วยแก้ไขได้ และมีพฤติกรรมแบบใด นอกจากนี้ยังต้องเจาะลึกไปที่ข้อมูลอย่าง เพศ อายุ และอาชีพ เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายที่ใช่สำหรับสินค้าและบริการของแบรนด์

Tips: การสำรวจตลาดสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายโดยตรง การสังเกตพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย การใช้แบบสอบถามเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล

3. วิเคราะห์คู่แข่ง

หลังจากได้กำหนดเป้าหมาย สำรวจกลุ่มเป้าหมายแล้ว ต่อมาจะต้องศึกษาคู่แข่งในตลาดว่าสินค้าและบริการของเขามีจุดแข็ง จุดอ่อน และใช้กลยุทธ์อะไรในการทำการตลาด เพื่อนำมาหาจุดแตกต่างและเอกลักษณ์ในกับสินค้าและบริการของเรา

Tips: สามารถใช้เครื่องมืออย่าง Mandala AI เพื่อวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาดหลายแพลตฟอร์มได้ในเวลาเดียวกันโดยไม่ต้องเลือกว่าจะศึกษาคู่แข่งในแพลตฟอร์มไหนก่อน และสามารถดูยอดการมีส่วนร่วมของแต่ละโพสต์ได้

4. พัฒนาแผนการตลาด

เริ่มลงมือพัฒนาแผนการตลาดในแง่ต่าง ๆ เช่น 

• การกำหนด Unique Selling Proposition หรือจุดขายของสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากคู่แข่ง
• วางแผนการสื่อสาร: กำหนดแผนการโปรโมตและสื่อสารนำเสนอขายสินค้าหรือบริการ

โดยเลือกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสม

• สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่า: สร้างคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจเพื่อเชื่อมโยงกับลูกค้า
• ใช้ช่องทางที่หลากหลาย: ใช้สื่อต่าง ๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น โฆษณา โซเชียลมีเดีย หรือ PR เพื่อสร้างการรับรู้

Tips: แผนการตลาดจะต้องมีความเชื่อมโยงกับ Positioning หรือจุดยืนทางการตลาดของแบรนด์ เนื่องจากเป็นสิ่งที่สื่อถึงคุณค่าที่แบรนด์ให้ความสำคัญและภาพลักษณ์ของแบรนด์ในสายตาของกลุ่มเป้าหมาย

5. ดำเนินการตามแผนที่วางไว้

หลังจากได้พัฒนาแผนการตลาดที่เหมาะสมกับลักษณะของสินค้าและบริการและความต้องการของกลุ่มเป้าหมายแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการลงมือดำเนินการตามแผนที่วางไว้ เช่น ลงโฆษณา ประชาสัมพันธ์ จัดโปรโมชัน หรืออาจจะเป็นการสร้างแคมเปญลดราคาสินค้า การเปิดตัวพรีเซนเตอร์ใหม่ของสินค้าและบริการต่าง ๆ ตามแผนการตลาด

Tips: การดำเนินการตามแผนการตลาดอาจจะไม่ได้ผลตามที่หวัง 100% แบรนด์ควรเตรียมพร้อมวิธีการรับมือในกรณีที่เกิดปัญหา เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่อาจเกิดขึ้น

6. วิเคราะห์และปรับปรุง

เมื่อได้ดำเนินการตามแผนการตลาดไปแล้วสักพักให้ลองวิเคราะห์ผลการดำเนินการว่ามียอดขายเพิ่มขึ้น การรับรู้แบรนด์มากขึ้น และฐานลูกค้ากว้างขึ้นตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในตอนแรกหรือไม่ หากผลลัพธ์ยังไม่ตรงตามเป้าหมายให้ลองพัฒนาปรับปรุงแผนเพื่อให้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ต่อไป

Tips: หากผลลัพธ์ที่ตั้งไว้ไม่ตรงตามเป้าหมายให้ลองวิเคราะห์ดูว่ามีปัจจัยอะไรที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในตอนแรกได้ 

เคล็ดลับการเจาะตลาดให้กับสินค้าของคุณ

• สร้างความเข้าใจที่ตรงกันกับทีม

ในการสร้างกลยุทธ์ Product Marketing เพื่อนำเสนอขายสินค้าและบริการจะต้องคำนึงถึงความเข้าใจของทีมต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทีม Content Marketing, Digital Marketing และ Campaign Marketing เนื่องจากบางทีมอาจจะไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแผนการ Product Marketing อย่างถ่องแท้ทำให้เกิดการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน อาจเกิดปัญหาการสื่อสารที่ไม่เหมาะสมกับลูกค้าเกิดขึ้น การแก้ไขคือการสร้าง Product Marketing Deck คู่มือที่เกี่ยวกับแผนการ Product Marketing ทั้งคีย์เวิร์ดที่ต้องใช้สื่อสาร กลุ่มเป้าหมายที่ใช่ วิธีการนำเสนอสินค้าและบริการให้กับกลุ่มเป้าหมาย

• แชร์คอนเทนต์ที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการ

เมื่อเราต้องการซื้อสินค้าหรือบริการชิ้นหนึ่ง การหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการนั้นเป็นสิ่งที่เรามักจะทำก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ดังนั้นการลงคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ โดยที่ไม่เป็นการขายตรงเกินไปเหมือนการทำการตลาดแบบเดิม ๆ อาจเป็นการพูดถึง Testimonial หลังใช้งานของลูกค้าที่มีปัญหาในด้านต่าง ๆ โดยเล่าว่าสินค้าและบริการของแบรนด์สามารถช่วยเข้าแก้ไขปัญหาได้อย่างไร หรือพูดถึงแรงบันดาลใจของการสร้างสินค้าและบริการขึ้นมา เบื้องหลังการสร้างสินค้าและบริการนั้น ๆ เพื่อดึงดูดความสนใจกลุ่มเป้าหมาย

• พูดถึงสินค้าและบริการแบบเนียน ๆ 

ถ้าแบรนด์ของคุณมี Blog, Website และสื่อออนไลน์อยู่แล้ว นี่เป็นโอกาสดีที่จะพูดถึงสินค้าและบริการของคุณในช่องทางเหล่านั้น อย่างที่ได้กล่าวไปว่าคนยุคใหม่ไม่ชอบการโดนขายแบบโจ่งแจ้งเกินไป การให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมายก่อนที่จะเริ่มพูดถึงสินค้าจึงเป็นสิ่งที่สามารถสร้างความสนใจให้กับคนยุคใหม่ได้ดีกว่าการที่อยู่ ๆ ก็โฆษณาสินค้าแบบโจ่งแจ้ง เช่น ถ้าแบรนด์ของคุณทำ Product เกี่ยวกับโปรตีนจากพืชหลากหลายรสชาติ คุณอาจเล่าถึงประโยชน์ของโปรตีนที่มีต่อร่างกายและปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับในแต่ละวัน ก่อนที่จะพูดถึงโปรตีนของคุณไปอย่างเนียน ๆ ว่าเป็นตัวช่วยสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มปริมาณโปรตีนในแต่ละวัน

• ทำการตลาดร่วมกับแบรนด์ที่คล้ายกัน

การทำการตลาดร่วมกัน หรือ Co Marketing เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำ Product Marketing ของแบรนด์ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่น การถ่ายทำวิดีโอร่วมกัน เขียนบทความบนบล็อกร่วมกัน โพสต์ในช่องโซเชียลของกันและกัน หรือจัดกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มยอดขายจากลูกค้าของอีกแบรนด์ นอกจากนี้การทำการตลาดร่วมกับ Influencer ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเดียวกับสินค้าและบริการ เพื่อเปลี่ยนจากผู้ติดตาม Influencer มาเป็นลูกค้าให้กับแบรนด์

• โฆษณา PPC และใช้คีย์เวิร์ดที่ใช่

การจ่ายตามคลิก (PPC) เป็นวิธีทำการตลาดสินค้าและบริการที่สำคัญ อย่างที่รู้กันว่า Content Marketing และ Social Media Marketing สามารถดึงดูดยอด Lead จำนวนมากได้ PPC ช่วยให้คุณสามารถแสดงโฆษณาของคุณตรงต่อกลุ่มเป้าหมายที่มีความพร้อมที่จะซื้อหรือทำธุรกิจกับคุณ ทำให้คุณสามารถดึงดูดความสนใจทันที นอกจากนี้การใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมยังช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏอยู่เว็บแรก ๆ ในผลการค้นหา เมื่อกลุ่มเป้าหมายใช้คีย์เวิร์ดเสิร์ชหาข้อมูลจึงสามารถเพิ่มโอกาสในการคลิกได้อีกด้วย

• เน้นที่ประโยชน์ของสินค้าและบริการ

ไม่ว่าคุณจะโปรโมตสินค้าของคุณบนช่องทางหรือแพลตฟอร์มใด ให้เน้นไปที่ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการซื้อสินค้าและบริการ ไม่ใช่เน้นแค่เทคนิคการใช้สินค้าและบริการของคุณ เนื่องจากการใช้งานสินค้าบางประเภทมีความซับซ้อน การที่กลุ่มเป้าหมายที่ไม่มีความรู้ในด้านเทคนิคต้องมาอ่านโฆษณาที่เต็มไปด้วยคำศัพท์เทคนิคหรือการใช้งานที่ซับซ้อน อาจทำให้เขารู้สึกเหินห่างกับสินค้านั้น ๆ ในทางกลับกันหากแบรนด์โฆษณาสินค้าด้วยประโยชน์และคุณค่าของสินค้าจะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงสินค้าได้ดียิ่งขึ้น

ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์ Product Marketing 

กลยุทธ์ Product Marketing ถูกใช้งานไปทั่วทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทยเนื่องจากเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการนำเสนอสินค้าและบริการ ตัวอย่างของแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์ Product Marketing มีดังนี้

1. Apple

Apple เป็นหนึ่งในแบรนด์ระดับโลกในด้านเทคโนโลยี สินค้าของ Apple ไม่ใช่แค่ให้ภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย สวยงาม หรูหรา เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบในด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการใช้อุปกรณ์สักชิ้นที่คุ้มค่ากับราคาและมีประโยชน์อีกด้วย เห็นได้ว่า Apple เองไม่ได้มีการพูดถึงขั้นตอนการใช้งานของอุปกรณ์แต่ละชนิดมากนัก แต่เขาจะเน้นไปที่คุณค่าและประโยชน์ของผู้ใช้งานหลังจากที่ได้ใช้อุปกรณ์ของเขา ซึ่งนี่เป็นเทคนิคหนึ่งของกลยุทธ์ Product Marketing ที่ Apple ใช้ ส่งผลให้มีผู้ใช้งานที่หลากหลายต่างพากันใช้งาน Apple อย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบ iOS ที่แตกต่างจากโทรศัพท์มือถือแบรนด์อื่น ๆ ทำให้ผู้ใช้งานที่ใช้งาน iPhone ต่างก็กลายเป็นลูกค้าที่ซื่อสัตย์ต่อ Apple ไปโดยปริยาย

2. Coca-Cola

กลยุทธ์ Product Marketing ของ Coca-Cola มุ่งเน้นที่การสร้างความทรงจำและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า Coca-Cola ไม่ได้เน้นเฉพาะรูปแบบหรือส่วนผสมของสินค้า แต่เน้นไปที่ความรื่นเริง ความสดชื่น และความสนุกสนาน คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้สินค้านี้เหมาะสมสำหรับทุก ๆ โอกาสและเทศกาลที่ต้องการเพิ่มสีสัน ความสนุกสนานและความสดชื่น แบรนด์นี้ได้ใช้โฆษณาที่เน้นที่ความสดชื่นของการดื่ม Coca-Cola ในทุก ๆ โอกาส และสร้างแคมเปญต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกับความสุขและเพลิดเพลินของชีวิต เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำสำหรับลูกค้า

3. MailChimp

MailChimp มีกลยุทธ์ Product Marketing ที่มีความเน้นที่การสื่อสารประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้ MailChimp โดยเน้นที่ผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะเห็น เช่น การสร้างแคมเปญการตลาดที่มีประสิทธิภาพ การเพิ่มยอดขาย และการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ผ่านการใช้ภาษาที่เข้าใจได้ง่ายและไม่ซับซ้อน เพื่อสื่อสารถึงคุณค่าของ MailChimp ในการสร้างแคมเปญการตลาด นอกจากนี้ MailChimp ยังคำนึงถึงความคิดเห็นของลูกค้าและการปรับปรุงบริการของพวกเขาตามความต้องการของตลาด อีกทั้งยังมีการกล่าวถึงบริการแบบเนียน ๆ ใน Blog และสื่อสังคมออนไลน์ที่บอกเล่าประโยชน์ของผู้ใช้งานที่จะได้รับหลังจากใช้งานไปแล้ว

4. Hale’s Blue Boy

Hale’s Blue Boy สื่อสารและบอกเล่าความสำคัญของสินค้าที่มีส่วนสำคัญต่อสุขภาพ การโฆษณามักเน้นที่สารอาหารที่มีประโยชน์ ส่วนผสมที่ได้รับการคัดเลือกอย่างดี และสมดุลของการบริโภค เน้นคุณสมบัติที่ทำให้ Hale’s Blue Boy แตกต่างจากผลิตภัณฑ์อื่น เช่น ไม่มีแคลอรี ไม่มีน้ำตาล และไม่มีคาเฟอีน นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อย่างการวิ่ง หรือการออกกำลังกาย เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนมีสุขภาพที่ดีตรงกับคุณค่าที่แบรนด์ให้ความสำคัญอีกด้วย

5. Lay’s

Lay’s เป็นแบรนด์ขนมกรุบกรอบที่มีการใส่ใจถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ได้สำรวจความชอบและความต้องการของลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาเป็นสินค้าที่มีรสชาติหลากหลาย เพื่อตอบสนองต่อความชอบของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มเป้าหมายและแบรนด์ผ่านการเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจเสนอรสชาติใหม่ของ Lay’s เข้ามา อีกทั้งมีการจับคู่รสชาติต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกับแบรนด์ขนมกรุบกรอบอื่น ๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ Lay’s ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เหนือคู่แข่ง

ใช้ Mandala AI สร้างโอกาสที่มากกว่าให้กับธุรกิจของคุณ

กลยุทธ์ Product Marketing นับเป็นอีกเทคนิคการทำการตลาดที่น่าสนใจและแบรนด์ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้สามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายยุคใหม่และอยู่เหนือคู่แข่งทางการตลาด สามารถใช้ตัวช่วยอย่าง Mandala AI เพื่อวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาด หาคีย์เวิร์ดที่ใช่ในการโฆษณานำเสนอสินค้า ติดตามเทรนด์การตลาดทั่วโลก และหา Influencer หรือแบรนด์ที่กำลังเป็นที่นิยมเพื่อทำการร่วมมือกันได้อีกด้วย