Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

อัปเดตแผน 5A Marketing คือ? สร้างอิทธิพลให้กลุ่มเป้าหมายอย่างไร

อัปเดตแผน 5A Marketing คือ? สร้างอิทธิพลให้กลุ่มเป้าหมายอย่างไร

ในยุคดิจิทัลที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากมาย การทำการตลาดแบบเดิม ๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป ธุรกิจจะต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่ก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้ 5A Marketing จึงกลายเป็นกลยุทธ์ใหม่ ซึ่งเป็นการบูรณาการระหว่างความรู้ด้านการตลาดและการใช้เทคโนโลยีใหม่ เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น   

5A Marketing คืออะไร  

5A marketing model

5A Marketing เป็นโมเดลในการวางแผนการตลาดที่ถูกพัฒนาโดย Philip Kotler นักการตลาดชื่อดังผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดระดับโลก ซึ่งได้แนะนำไว้ในหนังสือการตลาด 4.0 โมเดลนี้แบ่งเป็น 5 ขั้นตอน โดยมุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงลูกค้า เป็นการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าระยะยาว ตั้งแต่การเป็นคนแปลกหน้าจนนำไปสู่การแนะนำสินค้าให้แก่ผู้อื่นด้วย

5A Marketing ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง? 

สำหรับ 5A Marketing หรือกลยุทธ์การตลาดรูปแบบใหม่นี้ จะมุ่งเน้นการเข้าถึงลูกค้าแบบครบวงจร โดยผ่าน 5 กลยุทธ์การตลาดที่มีขั้นตอนสำคัญ ดังนี้  

1. Aware (การรับรู้ว่ามีสินค้านี้อยู่)

การสร้าง Aware หรือ Awareness เป็นจุดเริ่มต้นของการตลาด คือ การสร้างการรับรู้ ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์ สินค้า หรือบริการของเรา ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น โฆษณาบนสื่อโซเชียลมีเดีย เว็บไซต์ การทำบทความ SEO การทำ Content Marketing การร่วมงานกับ Influencer เป็นต้น ซึ่งขั้นตอนนี้ Mandala AI สามารถช่วยเก็บข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย ของธุรกิจต่าง ๆ เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มลูกค้าทั้งในด้านเวลา สถานที่ ความสนใจ เพื่อการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

ยกตัวอย่าง: แบรนด์ PUMA ที่สร้าง Aware ได้อย่างน่าสนใจ ด้วยการโฆษณาบน Facebook เฉลิมฉลองให้กับนักฟุตบอลหญิง โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิง เพื่อแสดงถึงบุคลิกภาพและคุณค่าของแบรนด์ แทนที่จะโปรโมตผลิตภัณฑ์รองเท้ากีฬาสำหรับผู้หญิงเพียงอย่างเดียว 

2. Appeal (ดึงดูดใจ) 

เมื่อลูกค้าเริ่มรู้จักแบรนด์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การดึงดูดความสนใจจากลูกค้า กระตุ้นให้ลูกค้าอยากรู้จักสินค้าหรือบริการเพิ่มเติม ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ ที่ช่วยสร้างโอกาสทางการตลาด จนนำไปสู่ความสำเร็จในธุรกิจได้ ซึ่งการสร้าง Appeal สามารถทำได้หลายวิธี เช่น  

  • นำเสนอจุดเด่นของสินค้าหรือบริการว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์ สินค้า หรือบริการของเราแตกต่างจากคู่แข่ง โดยนำเสนอจุดเด่นเหล่านั้นออกมาให้ชัดเจน เน้นย้ำถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ ผ่านการสร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจ เข้าใจง่าย เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น บทความ วิดีโอ อินโฟกราฟิก 
  • เผยแพร่รีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ กระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อ
  • เล่นเกมหรือทำกิจกรรม มอบโปรโมชันพิเศษ เพื่อสร้างความสนุกสนาน ดึงดูดความสนใจ
  • ร่วมมือกับ Influencer ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการ

ยกตัวอย่าง: แบรนด์ Apple ที่สร้าง Appeal ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยการสร้างความลึกลับช่วงใกล้งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หรืออัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่แต่ละรุ่นในทุก ๆ ปี ผ่านการสร้างและปล่อยข่าวลือ เพื่อให้ผู้บริโภคได้จินตนาการและเกิดความสนใจอยากติดตามสินค้า นอกจากนี้ ยังนำเสนอจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์เรียบหรู พร้อมสะท้อนความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีล้ำสมัย จนทำให้กลายเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก

3. Ask (สอบถาม) 

เมื่อลูกค้าเกิดความสนใจสินค้าหรือบริการจากการสร้างแรงดึงดูดใจได้สำเร็จ ก็ย่อมมีคำถามเกิดขึ้นมากมายเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นหน้าที่สำคัญส่วนนี้ก็คือ การตอบคำถามให้กับลูกค้าอย่างรวดเร็ว ชัดเจน ครบถ้วน ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การทำ FAQ บนเว็บไซต์ด้วยการรวบรวมคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบที่ชัดเจน การตอบคำถามผ่าน Inbox หรือ Comment ของลูกค้าในสื่อโซเชียลมีเดีย การใช้ Chatbot เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับคำตอบได้ทันที การมีศูนย์ Call Center ฯลฯ  

หากกังวลว่าจะรับมือกับคำถามหรือฟีดแบคจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายไม่ทัน Mandala AI สามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดียแบบเจาะลึกได้ เช่น คำถามที่พบบ่อย การพูดถึงเกี่ยวกับแบรนด์ เพื่อสร้างแคมเปญและเก็บรายละเอียดจากลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ครบถ้วน พร้อมวัดผล และวิเคราะห์คู่แข่งอย่างละเอียด นำไปสู่การปรับปรุงแผนการตลาดอื่น ๆ ได้

ยกตัวอย่าง: Netflix ที่สร้าง Ask ได้ประสบความสำเร็จ ด้วยการตอบคำถามทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ให้กับผู้ที่สนใจสมัครสมาชิก รวมถึงผู้ที่เป็นสมาชิกปัจจุบัน ผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้งในเว็บไซต์ตนเอง รวมถึงผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของตนเอง การใช้ Influencer ทำคลิปใน YouTube เพื่อเผยแพร่ข้อมูลในวงกว้าง เป็นต้น

4. Act (การตัดสินใจซื้อ) 

หากลูกค้าเกิดความสนใจผ่านการกระทำที่เราสร้างมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นจากการสร้างการรับรู้ การดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้ และมอบข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอย่างเพียงพอ จนลูกค้าเกิดความพึงพอใจแล้ว ขั้นตอนนี้จะต้องทำให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการให้สำเร็จแบบรวดเร็วทันที 

โดยนักการตลาดจะต้องมอบความสะดวกในการสั่งซื้อให้กับลูกค้าให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น วิธีการสั่งซื้อที่ง่าย การมอบโปรโมชัน ส่วนลด ของแถม บริการผ่อนชำระ ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายนั่นเอง ทั้งนี้ การตลาดแบบ 5A Marketing จะต้องทำการกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำให้ได้ ผ่านกระบวนการถัดไป

Starbucks 5A marketing
facebook.com

ยกตัวอย่าง:  Starbucks เป็นตัวอย่างที่ดีของแบรนด์ที่สร้าง Act ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น

  • การสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน Food Delivery ที่สั่งง่าย สั่งล่วงหน้าได้ ชำระเงินผ่านมือถือได้ ทำให้ลูกค้าสามารถรับเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องไปรอต่อคิวหน้าร้าน
  • การนำเสนอบัตร Starbucks Rewards เพื่อสะสมคะแนนรับเครื่องดื่มฟรี และสิทธิพิเศษมากมาย
  • การนำเสนอเมนูใหม่ ๆ และเครื่องดื่มตามฤดูกาล 
  • การนำเสนอสินค้า Limited edition  
  • การจัดโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 ให้กับลูกค้าทุกท่าน 
  • การขยายสาขา Starbucks ไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อทำให้สามารถเข้าถึงหน้าร้านได้สะดวกมากขึ้น

5. Advocate (การแนะนำหรือบอกต่อสินค้า)

กระบวนการนี้เป็นกระบวนการสุดท้ายของกลยุทธ์ 5A Marketing มุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ แนะนำสินค้าหรือบริการของเราต่อคนอื่น เปรียบเสมือนการขยายฐานลูกค้าแบบปากต่อปาก เพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย ขยายฐานลูกค้า และสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งได้ โดยกลยุทธ์การสร้าง Advocate เช่น

  • สร้างประสบการณ์ที่ดีทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการขาย
  • สร้างความประทับใจให้เหนือความคาดหวังของลูกค้า
  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
  • สร้างพื้นที่ให้กับลูกค้าได้แบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ
  • จัดทำโปรแกรมสมาชิก มอบสิทธิพิเศษ คะแนนสะสม  
  • จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย มอบรางวัลแก่ลูกค้าที่บอกต่อ เพื่อกระตุ้นการบอกต่อ
  • เผยแพร่รีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ

ยกตัวอย่าง: GoPro เป็นแบรนด์ที่สร้าง Advocate ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากการสนับสนุนนักกีฬาเอ็กซ์สตรีมและผู้สร้างคอนเทนต์ที่ใช้กล้อง GoPro พร้อมสร้างชุมชนออนไลน์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬาเอ็กซ์สตรีมและกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ รวมถึงชอบการถ่ายภาพและวิดีโอ จนทำให้เกิดการตลาดแบบปากต่อปาก เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น จนปัจจุบัน GoPro กลายเป็นแบรนด์กล้อง Action Camera ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก

หลักการ 5A ล่าสุดแตกต่างจากการตลาดแบบเดิมอย่างไร? 

ในยุคปัจจุบันที่ผู้คนมีการเชื่อมต่อกันผ่านสื่อโซเชียลและค้นหาข้อมูลผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งการตลาดแบบเดิมนั้นมักเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ กระตุ้นการขาย และสร้างยอดขาย ผ่านการโฆษณาทางทีวี วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา เป็นต้น แต่ 5A Marketing จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในยุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โดยกลยุทธ์ 5A Marketing แตกต่างจากการตลาดแบบเดิมตรงที่ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การขายเพียงอย่างเดียว แต่เน้นไปที่เน้นการสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) กับลูกค้า สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า กระตุ้นให้เกิดการบอกต่อ และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้าด้วย โดยช่องทางที่ใช้จะเน้นการใช้ช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย อีเมล เป็นต้น อีกทั้งสามารถวัดผลได้อย่างละเอียด ผ่านเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ  เช่น Google Analytics เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล สามารถปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  

เคล็ดลับการใช้ 5A Marketing ทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  

การใช้ 5A Marketing ในการวางกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพนั้น มีเคล็ดลับดังต่อไปนี้ 

  • ให้ความสำคัญกับแต่ละขั้นตอน

การให้ความสำคัญกับแต่ละขั้นตอนในการทำ 5A Marketing นั้น จะทำให้คุณเห็นสัดส่วนของลูกค้าปัจจุบันและผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าอย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถวิเคราะห์ความสำเร็จของพนักงานและกระบวนการขายในแต่ละขั้นตอนได้ เช่น คุณสามารถวัด Conversion Rate ระหว่างผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในขั้นตอนสอบถาม (Ask) และขั้นตอนการตัดสินใจซื้อ (Act) ได้ ซึ่งข้อมูลที่ได้มาจะบอกคุณได้ว่า ทีมขายปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด สามารถช่วยคุณค้นหาจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขในกระบวนการขายได้นั่นเอง

  • โฟกัสทีละขั้นตอน เพื่อวางแผนปรับปรุง

ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและการขายที่เป็นผู้ติดตามตัวชี้วัดสำหรับแต่ละขั้นตอนของเส้นทางลูกค้า อาจใช้ข้อมูลที่ได้มานำไปพัฒนาปรับปรุงแผนงาน โดยอาจเลือกขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งของเส้นทางลูกค้า เพื่อนำไปปรับปรุงแผนงาน ซึ่งการมุ่งเน้นที่ขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งอย่างเดียวนั้น จะช่วยให้กระบวนการปรับปรุงง่ายขึ้น สามารถวัดผลกระบวนการใหม่ได้อย่างแม่นยำ และระบุเทคนิคที่จะสร้างประสบการณ์ให้สำเร็จได้  

  • ปรับแต่งข้อความให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม

การตลาดผ่านอีเมลเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการพัฒนาการขายในหลายอุตสาหกรรม และคุณสามารถใช้กลยุทธ์ 5A Marketing ของ Philip Kotler เพื่อปรับแต่งข้อความอีเมลสำหรับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าและลูกค้าปัจจุบันตามแต่ละเส้นทางของการเป็นลูกค้า รวมถึงใช้ระบบ CRM ในการติดตามขั้นตอน และส่งอีเมลพร้อมข้อความที่ไม่ซ้ำกลุ่มได้ ซึ่งการปรับแต่งข้อความอีเมลสามารถทำให้แคมเปญการตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะสามารถกำหนดข้อความให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้นั่นเอง

  • ทำงานร่วมกับฝ่ายอื่น ๆ 

แม้ว่าฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และฝ่ายพัฒนาธุรกิจ อาจใช้กรอบการทำงานของ Philip Kotler แต่ฝ่ายอื่น ๆ อาจใช้กรอบการทำงานอื่นที่แตกต่างกันไป ดังนั้นแนะนำให้ทำงานร่วมกัน เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ในหน้า Landing Page ที่ทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทสร้างขึ้น อาจส่งผลอย่างมีนัยสำคัญต่อผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าในขั้นตอนสร้างการรับรู้ (Aware) ไปสู่ขั้นตอนการสร้างแรงดึงดูดใจ (Appeal) ดังนั้นฝ่ายการตลาดอาจทำงานร่วมกับทีมพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเก็บข้อมูลและสร้างการนำเสนอสินค้าหรือบริการของตนเองผ่านแคมเปญต่าง ๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมาย เพื่อช่วยให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า เกิดปฏิสัมพันธ์หรือการตอบโต้กับแบรนด์นั่นเอง

กลยุทธ์ 5A Marketing ช่วยบรรลุเป้าหมายของทุกธุรกิจ 

ในยุคที่การแข่งขันเพิ่มมากขึ้นและตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากต้องการประสบความสำเร็จและเติบโตในธุรกิจอย่างยั่งยืน กลยุทธ์ 5A Marketing เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นกลยุทธ์ที่สามารถนำปรับใช้ได้กับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจขนาดกลาง หรือธุรกิจขนาดใหญ่

เพราะมีส่วนช่วยให้สินค้าหรือบริการของคุณเป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมาย ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาศึกษาข้อมูลสินค้า กระตุ้นการตัดสินใจซื้อ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและแข็งแกร่งกับลูกค้า จนเกิดการซื้อซ้ำและบอกต่อได้

ทดลองใช้ Mandala AI
  • หมวดหมู่ :
สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.