Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

เข้าใจการทำการตลาด B2C Marketing ครบจบในที่เดียว

เข้าใจการทำการตลาด B2C Marketing ครบจบในที่เดียว

B2C Marketing  คืออะไร

B2C Marketing เป็นรูปแบบการทำการตลาดที่เจ้าของธุรกิจโปรโมทสินค้าบริการโดยตรงให้กับผู้บริโภครายย่อย (Business to Customer) ซึ่งจะแตกต่างกับ B2B Marketing ซึ่งจะอาศัยการตลาดแบบพันธมิตรกับธุรกิจคู่ค้า (Business to Business) มากกว่า

ทำไมธุรกิจ B2C ถึงต้องทำ Marketing 

เพราะธุรกิจ B2C มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคในวงกว้าง การทำการตลาดจึงสำคัญมาก ผู้บริโภคต้องรู้จักสินค้าของเราก่อน จึงจะมีความต้องการในการซื้อสินค้าหรือบริการของเราในภายหลัง เช่นหากเราขายกาแฟ แต่ผู้บริโภคไม่รู้ว่าร้านกาแฟของเราอยู่ที่ไหน มีจุดเด่นกว่าร้านอื่นๆ อย่างไร การทำธุรกิจของเราคงเจออุปสรรคมากมายในอนาคต

ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ธุรกิจแบบ B2C ต้องพึ่งพาการตลาดเป็นอย่างมาก ซึ่งจะแตกต่างกับธุรกิจแบบ B2B ที่จะเน้นการสร้างเครือข่ายและพันธมิตรเป็นหลักครับ

รูปแบบของการทำ B2C Marketing 

1. ธุรกิจที่เน้นขายสินค้า (Product Based)

ธุรกิจที่เน้นขายสินค้าเป็นธุรกิจแบบ B2C ที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคและบริโภคที่เราซื้อในห้างร้าน ไปจนถึงอาหาร เสื้อผ้า และสิ่งใช้สอยอื่นๆ

ตัวอย่างธุรกิจที่เน้นขายสินค้าเป็นหลักได้แก่บริษัท FMCG ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Unilever, Nestle, P&G หรือ Coca Cola

2. ธุรกิจที่เน้นขายบริการ (Service Based)

เป็นอีกหนึ่งธุรกิจ B2C ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านทำผม ร้านทำเล็บ สปา ร้านนวด หรือบริการอื่นๆ ซึ่งจะต่างกับการขายสินค้าที่จับต้องได้แบบกลุ่มแรก

ตัวอย่างของธุรกิจที่เน้นขายบริการในวงกว้างได้แก่ Marriot, Hilton, Kerry และ Flash Express

3. ธุรกิจที่เป็นตัวกลางในการขายสินค้าและบริการ (Retail Based)

ธุรกิจประเภทนี้จะต่างกับ Product Based และ Serviced Based ตรงที่บริษัทจะไม่ใช่เจ้าของสินค้าและบริการโดยตรง แต่เป็นตัวกลางในการรวบรวมสินค้าและบริการอื่นๆ มาจำหน่ายต่อ ได้แก่ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และเว็บไซต์ Commerce ต่างๆ

ตัวอย่างธุรกิจที่สำคัญได้แก่ Central, Tops, Shopee, Lazada และ Power Buy

4. ธุรกิจที่เน้นการ Subscribe (Subscription Based)

ถือเป็นธุรกิจแห่งยุคดิจิทัลเลยก็ว่าได้ สำหรับธุรกิจที่เน้น Subscription ไม่ใช่การซื้อมาขายไปที่ตรงไปตรงมา เมื่อไหร่ที่เลิก Subscribe ก็จะถูกจำกัดสิทธิ์ในการเข้าถึงสินค้าหรือบริการทันที

ตัวอย่างธุรกิจที่เน้นการ Subscribe ได้แก่สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มอย่าง Netflix, Spotify, Joox, Disney Hotstar และ Amazon Prime

5. ธุรกิจที่เน้นการสร้างเครือข่ายและสังคม (Community Based)

อีกหนึ่งธุรกิจในยุคของโลกออนไลน์ ธุรกิจประเภทนี้มักเป็นที่รู้จักในนามของ แพลตฟอร์ม

(Platform) ที่เชื่อมทุกคนเข้าไว้ด้วยกัน ตัวอย่างธุรกิจได้แก่ Facebook, Instagram, Twitter, LINE, และ TikTok

ขั้นตอนการทำ B2C Marketing

1. กำหนด Marketing Funnel

Marketing Funnel เป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยให้นักการตลาด B2C บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ผ่านการทำความเข้าใจผู้บริโภคในแต่ละช่วงเวลา ตั้งแต่เริ่มรู้จักสินค้าและบริการของเรา ไปจนถึงเลือกซื้อและบอกต่อในที่สุด โดย Marketing Funnel จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่

รูปภาพจาก: A 4 Minute Intro To Marketing 101 – Venn Marketing
  • Top of Funnel (Awareness) จุดเริ่มต้นของการทำการตลาดคือการที่บริโภคเริ่มรู้จัก (Aware) สินค้าและบริการของเรา ยิ่งคนรู้จักเราเยอะเท่าไหร่ ก็ยิ่งดี
  • Middle of Funnel (Consideration) หลักจากที่คนรู้จักสินค้าและบริการของเราแล้ว ก็จะเข้าสู่ช่วงการพิจารณา (Consider) สินค้าเรากับแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ ทั้งในแง่ของราคา จุดเด่น และจุดด้อย 
  • Bottom of Funnel (Conversion) หลักจากที่คนพิจารณาสินค้าและบริการของเรามาสักพัก ก็ถึงเวลาที่จะตัดสินใจซื้อ (Convert) ซึ่งผู้บริโภคจะเลือกซื้อเราหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผลงานในช่วง Top และ ​Middle Funnel บวกกับคู่แข่งอื่นๆ ในตลาดเวลานั้น

2. ทำความเข้าใจผู้บริโภค

หลังจากสร้างกลยุทธ์ Funnel Marketing ของแบรนด์ตัวเองแล้ว นักการตลาด B2C Marketing ควรทำความเข้าใจผู้บริโภคในแง่มุมต่างๆ เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคในแต่ละช่วง Funnel อย่างเหมาะสม 

  • เข้าใจตัวตนของผู้บริโภค

ผู้บริโภคของเราคือใคร เป็นชายหรือหญิง อายุเท่าไร และอาศัยอยู่ส่วนไหนของประเทศไทย มีความสนใจอะไรบ้าง และควรสื่อสารกับพวกเขาด้วยข้อความแบบไหน

  • เข้าใจ Customer Journey

กลุ่มเป้าหมายของเรามีวิธีการเลือกซื้อสินค้าอย่างไร ช่องทางไหนที่ควรใช้เพื่อให้พวกเขารู้จัก พิจารณา และซื้อสินค้าของเรา เช่นหากกลุ่มเป้าหมายของเราใช้ Facebook และ TikTok ค่อนข้างมาก เราก็ควรสร้างตัวตนของเราบนช่องทางเหล่านั้นเพื่อสื่อสารกับพวกเขา หากพวกเขามีแนวโน้มจะซื้อของผ่านออนไลน์มากกว่า ก็ควรมีหน้าร้านของตัวเองบน Marketplace ด้วย

  • เข้าใจความต้องการของผู้บริโภค

กลุ่มเป้าหมายของเราให้ความสำคัญกับอะไร เช่น ราคา คุณภาพ หรือมี Pain point อะไรที่เราจะสามารถนำมาใช้ทำ Commercial strategy ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนซื้อสินค้าของเรามากขึ้น

สร้างตัวตนบน Social Media Platform

จากข้อมูลของ We Are Social ในปี 2023 คนไทยมีการใช้งาน Social Media Platform สูงถึง 72.8% เฉลี่ยวันละเกือบ 3 ชั่วโมง โดย Social Media Platform ที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้แก่ Facebook, LINE, TikTok และ Instagram

การสร้างแบรนด์ในช่องทาง Social Media Platform เหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ในวงกว้าง และสามารถติดต่อสื่อสารกับพวกเขาได้โดยตรงผ่าน Comment ในโพสต์และข้อความส่วนตัว ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการสร้าง Connection สำหรับ B2C Marketing

4. สร้าง Branding ให้โดดเด่น

สำหรับ B2C Marketing ในปัจจุบัน การสร้าง Branding นั้นมีความสำคัญไม่แพ้ตัวสินค้าและบริการ เช่นหลายคนเลือกซื้อ iPhone ไม่ใช่เพียงแค่ Function เท่านั้น แต่เพราะมีความเป็น Apple อยู่ด้วย 

การสร้าง Branding จะทำให้เรามีจุดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง และทำให้ผู้บริโภครู้สึว่าเราได้ให้คุณค่าบางอย่างกับพวกเขาที่ยิ่งไปกว่าตัวสินค้าและบริการครับ

5. ใช้ Social Marketing Tools เพื่อความเเม่นยำ

การใช้ Social Marketing Tools จะช่วยให้เราเข้าใจผู้บริโภค ความคิดเห็นของคนที่มีต่อแบรนด์ของเรา และเทรนด์ของตลาดแบบ Real-time ซึ่งจะช่วยให้เราพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดและการสื่อสารได้แม่นยำมากขึ้น ปัจจุบันมี Social Marketing Tools ฟรีในตลาดให้เลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mandala AI, FanpageKarma และ Hootsuite

mandala analytics

ตัวอย่างธุรกิจที่ทำการตลาด B2C Marketing ในไทย

1. MK Restaurant

ร้านสุกี้ดังขวัญใจหลายคนอย่าง MK Restaurant ใช้ Facebook ในการสื่อสารกับผู้บริโภค มีทั้งการโปรโมทสินค้าใหม่ มีกิจกรรมร่วมกับผู้บริโภคเพื่อสร้าง Engagement รวมถึงใช้น้องเป็ดขาว Mascot ของ MK ในการเล่าเรื่องราวต่างๆ เพื่อเสริมสร้าง Branding ให้แข็งแรง 

อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ MK Restaurant แม้จะเป็นแบรนด์ดังติดตลาดแล้ว แต่ก็ยังผลิต Content ออกมาเพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทำให้เห็นว่าความสม่ำเสมอเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ทำให้ B2C Marketing ประสบความสำเร็จครับ

mk

2. Samsung

Samsung เป็นอีกหนึ่ง B2C Brand ที่มีแคมเปญการตลาดอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทาง มีทั้งการโปรโมทสินค้าใหม่ ใช้ KOL และเน้นการสื่อสารใน Social Media Platform ทั้ง Facebook, TikTok, Instagram และ YouTube 

จุดแข็งของ Samsung คือมี Marketing Funnel ที่แข็งแรง สามารเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุก Touchpoint ตั้งแต่ Upper จนถึง Lower Funnel ทุกคนเห็นแคมเปญการตลาดของ Samsung อยู่ตลอดเวลา และเมื่อไรที่อยากซื้อก็แค่เดินเข้าห้างร้านหรือสั่งผ่านเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกสบาย

samsung

สรุป

การทำ B2C Marketing เป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบัน ทั้งแบรนด์ระดับใหญ่และ Startup ด้วยการแข่งขันที่สูง ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน การตลาดที่แข็งแรงและการเข้าถึงผู้บริโภคในช่องทางที่เหมาะสมจะช่วยให้เรามีโอกาสบรรลุเป้าหมายทางุรกิจได้ง่ายขึ้น หวังว่าบทความในวันนี้ของเราจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจการทำ B2C Marketing และสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจนะครับ

mandala banner
สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.