Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

การใช้ Data Visualization เป็นเครื่องมือสำคัญในการนำเสนอข้อมูล

การใช้ Data Visualization เป็นเครื่องมือสำคัญในการนำเสนอข้อมูล

ปัจจุบันเราหยิบยกข้อมูลและตัวเลข มาใช้ประกอบการตัดสินใจ ใช้วางแผน วางกลยุทธ์ ด้วยการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้อ้างอิง เรียกว่าโลกการตลาดก้าวเข้าสู่การช่วงชิงกันด้านข้อมูลเพื่อต้องการทำความเข้าใจและรู้จักพฤติกรรม Insight ของผู้บริโภคมากที่สุด ทำให้การนำเสนอข้อมูลออกมาก็มีความจำเป็นไม่แพ้กัน วันนี้เราเลยพามาทำความรู้จัก Data Visualization ว่าคืออะไร ทำงานอย่างไร และเหล่านักการตลาดมือใหม่จะหยิบเอาไปประยุกต์ใช้กับแคมเปญได้อย่างไร มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

Data Visualization คืออะไร

Data Visualization คือ การนำข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ นำมาประมวลผล วิเคราะห์ และนำเสนออกมาในรูปแบบที่มองเห็นและทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วยสายตา พูดง่าย ๆ ก็คือ การทำข้อมูลให้เป็นภาพ ไม่ว่าจะเป็นกราฟต่าง ๆ แผนภูมิ รูปภาพ แผนที่ ตาราง วีดีโอ ไปจนถึงอินโฟกราฟิก (Infographic) และแดชบอร์ด (Dashboard) 

แล้ว Data Visualizations มีหน้าที่อะไร? หน้าที่หลัก คือ การให้ผู้ใช้ข้อมูล ผู้มีอำนาจตัดสินใจ หรือคนวางแผนสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ได้ง่าย เข้าใจได้มากขึ้น ชัดเจนยิ่งขึ้น เห็นข้อเปรียบเทียบและมองเห็นจุดที่น่าสนใจของข้อมูลเหล่านี้ได้ลึกขึ้น เพื่อนำไปวางแผน ตัดสินใจ ให้ตรงกับ Insight ของข้อมูลนั้นมากที่สุด เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาจะได้ตรงจุด ตรงใจ ตรงปัญหามากที่สุดนั่นเอง

ทำไม Data Visualization ถึงสำคัญ

ในยุคที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญต่อทุกด้านของชีวิตและธุรกิจ การแสดงข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายผ่าน Data Visualization กลายเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยปลดล็อกความหมายและคุณค่าของข้อมูลที่ซับซ้อน ซึ่งการแสดงข้อมูลแบบนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำให้ข้อมูลดูดีเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการที่สร้างความเข้าใจที่ลึกซึ้งและชัดเจนขึ้นจากข้อมูลที่มีอยู่ ในโลกที่ข้อมูลมีอยู่รอบตัวเรา ความสามารถในเข้าใจและใช้ข้อมูลเหล่านั้นอย่างมีประสิทธิภาพ คือ หนึ่งในทักษะที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบันนั่นเอง

ประโยชน์ของ Data Visualization คืออะไร

การแสดงข้อมูลด้วยวิธีดังกล่าวได้กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการปฏิวัติวิธีการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน ตั้งแต่ธุรกิจค้าปลีกไปจนถึงอุตสาหกรรมการเงิน การใช้ประโยชน์จาก Data Visualization นี้ ไม่เพียงแต่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแต่ยังเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจที่มีข้อมูลเป็นฐานอีกด้วย

  1. ธุรกิจค้าปลีก: การมองเห็นโอกาสและความต้องการของลูกค้า

ในธุรกิจค้าปลีก เครื่องมือนี้ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการขาย พฤติกรรมของลูกค้า และสต็อกสินค้าได้อย่างละเอียด การใช้แผนภูมิและกราฟสามารถช่วยติดตามแนวโน้มการขายและการบริโภค ในขณะที่การใช้แผนที่ความร้อน (Heatmap) ช่วยให้เห็นถึงพฤติกรรมลูกค้าภายในร้าน ช่วยในการจัดวางสินค้าและการสร้างแคมเปญการตลาดที่ตอบโจทย์มากขึ้น

  1. การเงินและธนาคาร: การประเมินความเสี่ยงและผลลัพธ์

ในอุตสาหกรรมการเงิน การใช้เครื่องมือนี้เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยง ผลประกอบการและการจัดการสินทรัพย์เป็นสิ่งสำคัญ การใช้กราฟและแผนภูมิช่วยให้สามารถมองเห็นแนวโน้มการลงทุนและประเมินความเสี่ยงได้ชัดเจน ช่วยให้ผู้จัดการลงทุนและผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้ด้วยข้อมูลที่มั่นใจ

  1. ธุรกิจสุขภาพ: การติดตามผลลัพธ์และการจัดการทรัพยากร

ในธุรกิจสุขภาพ ช่วยให้สามารถติดตามผลลัพธ์การรักษาและการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการใช้แผนภูมิและกราฟที่ช่วยให้เข้าใจการพัฒนาของผู้ป่วยได้ดีขึ้น ในขณะที่แผนภูมิการไหล (Flow Process Chart) ช่วยในการจัดการทรัพยากรภายในโรงพยาบาล เช่น การจัดสรรเตียงผู้ป่วยและอุปกรณ์ทางการแพทย์

  1. ธุรกิจการผลิต: การตรวจสอบคุณภาพและประสิทธิภาพ

สำหรับธุรกิจการผลิตเครื่องมือนี้มีบทบาทสำคัญในการติดตามกระบวนการผลิต คุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการสินค้าคงคลังการใช้แผนภูมิการผลิตและกราฟคุณภาพช่วยให้ติดตามและปรับปรุงกระบวนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง นำไปสู่การผลิตที่มีคุณภาพและความสอดคล้องมากขึ้น

  1. เทคโนโลยีและ IT: การเข้าใจข้อมูลใหญ่และประสิทธิภาพระบบ

ในธุรกิจเทคโนโลยีและ IT จะใช้วิธีนี้เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลใหญ่และติดตามประสิทธิภาพของระบบ เพราะการใช้แผนภูมิและกราฟช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลใหญ่ จะทำให้สามารถตรวจจับประเด็นและแนวโน้มที่สำคัญ รวมถึงการประเมินประสิทธิภาพระบบ IT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้วิธีการนี้ในธุรกิจต้องพิจารณาถึงลักษณะของข้อมูล วัตถุประสงค์ของการใช้ข้อมูลและผู้รับสารประกอบกันไปด้วย การเลือกใช้เครื่องมือและรูปแบบการแสดงข้อมูลที่เหมาะสม ไม่เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพและความเข้าใจในข้อมูล แต่ยังช่วยให้ธุรกิจตัดสินใจอย่างมีข้อมูลเป็นฐานได้ดีขึ้น เครื่องมือนี้จึงเป็นเครื่องมือที่มีคุณค่าอย่างยิ่งในการนำพาธุรกิจเข้าสู่ยุคข้อมูลและการตัดสินใจที่มีข้อมูลเป็นพื้นฐาน

ประเภทของ Data Visualization มีอะไรบ้าง

ประเภทของ visualization

ในยุคที่ข้อมูลมีบทบาทสำคัญในทุก ๆ ด้าน การสื่อสารข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นสิ่งจำเป็น การใช้ Data Visualization Tools ก็คือวิธีหนึ่งที่ทำให้เราเข้าใจข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายผ่านการใช้ภาพหรือกราฟิกในแต่ละประเภทรวมไปถึงวิธีอื่น ๆ ที่มีลักษณะและการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง เพื่ออธิบายข้อมูลให้กับผู้ใช้งานได้เข้าใจและนำไปใช้ได้มีประสิทธิภาพนั่นเอง ซึ่งประเภทการใช้งานที่นิยมใช้ พร้อม Data Visualization ตัวอย่างจะมีแบบไหนบ้าง? เรารวบรวมเอาไว้ให้แล้ว ไปดูกัน

  • Bar Chart (แผนภูมิแท่ง)
bar chart mandala
  • ใช้แสดงการเปรียบเทียบค่าหรือปริมาณของข้อมูลในหมวดหมู่ต่าง ๆ ผ่านแท่งที่แตกต่างกัน
  • ตัวอย่างการใช้งาน: ใช้แผนภูมิแท่งเพื่อแสดงการเปรียบเทียบยอดขายรายเดือนของสินค้าต่าง ๆ

Pie Chart (แผนภูมิวงกลม)

pie chart mandala
  • แสดงสัดส่วนหรือเปอร์เซ็นต์ของแต่ละหมวดหมู่จากข้อมูลทั้งหมดในรูปแบบของวงกลม
  • ตัวอย่างการใช้งาน: ใช้แผนภูมิวงกลมเพื่อแสดงสัดส่วนของยอดขายที่มาจากแต่ละช่องทางการตลาด

Line Chart (แผนภูมิเส้น)

line chart mandala
  • ความหมาย: ใช้สำหรับแสดงการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลตามช่วงเวลา โดยเชื่อมต่อจุดข้อมูลต่าง ๆ ด้วยเส้น
  • ตัวอย่างการใช้งาน: แสดงเทรนด์การเติบโตของจำนวนผู้ใช้งานเว็บไซต์ในแต่ละเดือนผ่านแผนภูมิเส้น

Infographic (อินโฟกราฟิก)

music infographic mandala
  • ความหมาย: การนำเสนอข้อมูลและสถิติผ่านการออกแบบกราฟิกที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย
  • ตัวอย่างการใช้งาน: สร้างอินโฟกราฟิกที่แสดงสถิติการใช้โซเชียลมีเดียในแต่ละปี

Dashboard (แดชบอร์ด)

dashboard mandala
  • Dashboard คือ การแสดงข้อมูลและเมตริกสำคัญในรูปแบบที่เข้าใจง่าย มักใช้ในการติดตามและจัดการข้อมูลในเวลาจริง
  • ตัวอย่างการใช้งาน: แดชบอร์ดสำหรับติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด แสดงยอดขาย การเข้าชมเว็บไซต์ และเมตริกสำคัญอื่น ๆ

แนะนำ 5 เครื่องมือทำ Data Visualization Tools

1. Mandala AI

Mandala AI สามารถนำข้อมูลทางการตลาดมาวิเคราะห์ และนำเสนอผลลัพธ์ออกมาในรูปแบบของแดชบอร์ด ซึ่งเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่ายและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลูกค้าเห็นภาพรวมของข้อมูลได้อย่างชัดเจน และนำไปสู่การตัดสินใจที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจได้ ด้วยฟังก์ชันการวิเคราะห์ที่หลากหลายของ Mandala AI ยังช่วยให้เราค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่ซ่อนอยู่ และนำเสนอผ่านกราฟิกที่สวยงามอีกด้วย

2. Google Data Studio

ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลของ Google ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น Google Analytics, Google Search Console หรือแม้แต่แพลตฟอร์มการตลาดดิจิทัลอื่น ๆ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายช่องทางมาแสดงผลในรูปแบบของแดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย เพียงแค่ลากและวาง (drag-and-drop) โดยไม่ต้องเขียนโค้ดใด ๆ 

3. Power BI

Power BI เป็น Data Visualization Tools ยอดนิยม เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมอื่น ๆ ในชุด Microsoft Office ได้อย่างราบรื่น โดยเฉพาะ Excel ซึ่งเป็นโปรแกรมที่หลายองค์กรใช้ในการจัดเก็บข้อมูล อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดหนึ่งของ Power BI คือยังไม่รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบัติการ macOS ทำให้ผู้ใช้ Mac ไม่สามารถใช้งานเครื่องมือนี้ได้โดยตรง

4. Tableau

Tableau เป็นเครื่องมือ Data Visualization ที่มีจุดเด่นในการสร้างภาพให้ข้อมูลออกมาได้อย่างสวยงามและเข้าใจง่าย ใช้งานได้ทั้งบน macOS และ Windows และที่สำคัญ Tableau ยังสามารถนำเสนอผลลัพธ์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้ ทำให้การแชร์ข้อมูลและความรู้ภายในองค์กรเป็นไปได้อย่างสะดวก

5. Endlessloop

Endlessloop นำเสนอมุมมองใหม่ในการทำ Data Visualization โดยขยายแนวคิดของ Sales Funnel ที่คุ้นเคยให้มีความต่อเนื่องมากขึ้น แทนที่จะสิ้นสุดเพียงแค่การตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ Endlessloop มุ่งเน้นไปที่การสร้างวงจรลูกค้าที่หมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา ทำให้ธุรกิจสามารถติดตามและวัดผลการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า และต้องการเพิ่มอัตราการกลับมาซื้อซ้ำ

ทำ Data Visualization ให้ง่ายขึ้นด้วย Mandala AI

จะเห็นว่าการมีข้อมูลที่ลึกซับซ้อนและละเอียด ฉะนั้น การหยิบข้อมูลเหล่านั้นมาแสดงผลลัพธ์ มาตรวัด ค่าต่าง ๆ เอาไว้ประกอบการตัดสินใจ วางแผน ประเมินกลยุทธ์ ปรับปรุง เพื่อแก้ไขให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและตอบโจทย์การใช้งานให้มากที่สุด อีกทั้งเพื่อให้ดำเนินงานสอดคล้องกับพฤติกรรมที่ซับซ้อนซ่อนเร้น หรือเรียกว่า Insight ที่พยายามตามหากัน อาจจะได้มาจากการปรับปรุงกระบวนการ หรือได้มาจากการทำ Data Visualization ก็เป็นได้

ใช้ฟรี mandala
  • หมวดหมู่ :
สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.