หากใครอยู่ในแวดวงการตลาดจะรู้กันว่า ‘Marketing Campaign‘ เป็นสิ่งจำเป็นในการทำตลาด สร้างแบรนด์ กระตุ้นยอดขายให้กับสินค้าหรือบริการ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่แข็งแกร่งมาก ๆ จนทำให้นักการตลาดหลาย ๆ คนจำเป็นต้องคิด ต้องค้นหาไอเดียในการสร้างสรรค์แคมเปญการตลาดใหม่ ๆ ออกมาให้ดีที่สุด วันนี้เราเลยรวบรวมรูปแบบตัวอย่างการทำแคมเปญการตลาดมาให้เหล่านักการตลาดมือใหม่และมือเก๋าได้ลองไปหยิบใช้และออกแบบแคมเปญให้ออกมาได้อย่างดีที่สุด จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
Marketing Campaign คืออะไร ?
Marketing Campaign คือ กิจกรรมทางการตลาดที่ทำให้สินค้าหรือบริการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ให้ได้ตามจุดประสงค์ที่วางเอาไว้ โดยตั้งเป้าและจุดประสงค์เพิ่มเข้าไปในแคมเปญ ซึ่งภายในแผนการตลาดจะไล่ไปตั้งแต่วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย แผนการสื่อสารแคมเปญ จุดประสงค์ของแคมเปญ การสื่อสารแคมเปญผ่านโซเชียลมีเดีย ครีเอทีฟที่ใช้ เป้าหมายในการวัดผล ไปจนถึงงบประมาณ จุดคุ้มทุนและกำไร หากแผนการตลาดใหญ่กว่านี้ก็จะมีพ่วงการทำ Risk Management หรือกลยุทธ์อื่น ๆ ที่จำเป็นเข้าไปด้วยในแผนเพื่อให้สอดรับและร้อยเรียงแคมเปญและกลยุทธ์เข้าด้วยกัน เพื่อให้มีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ในการทำแคมเปญตามที่ต้องการนั่นเอง
12 รูปแบบ Marketing Campaign
Campaign Marketing ที่เราได้รวบรวมมาทั้ง 12 รูปแบบนั้นสามารถใช้เป็นไอเดียในการออกแบบแคมเปญการตลาดให้กับแบรนด์ได้เลย พร้อมยกตัวอย่างแคมเปญที่โด่งดังมาให้เห็นภาพมากขึ้น ไปดูพร้อมกันเลย
1. Brand Awareness
แคมเปญสร้างการรับรู้เป็นประเภทแรกที่นักการตลาดนิยมใช้ในการวางแผนหรือเริ่มต้นทำการตลาดเลยก็ว่าได้ เพราะจุดประสงค์ของแคมเปญ คือ การทำให้แบรนด์หรือโลโก้เป็นที่รู้จัก ของกลุ่มเป้าหมายหรือเป็นที่รู้จักของตลาดนั้น ๆ โดยเป็นการสื่อสารถึงความแตกต่างระหว่างแบรนด์ของคุณและของคู่แข่ง หากแคมเปญประสบความสำเร็จผู้คนจะจดจำและรู้ว่าธุรกิจหรือแบรนด์ของคุณขายสินค้าหรือบริการเกี่ยวกับอะไรนั่นเอง สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์ Brand Awareness ที่หลาย ๆ Brand ทำกัน ต่อได้เลย
2. Rebranding Campaign
แคมเปญที่ปรับภาพลักษ์ณ์ของแบรนด์ให้ต่างไปจากเดิม เพื่อสื่อสารหรือส่งต่ออัตลักษณ์หรือตัวตนของแบรนด์ใหม่ ไม่ว่าจะปรับภาพลักษณ์ให้กับลูกค้ากลุ่มเดิม ปรับภาพลักษณ์เพื่อลูกค้ากลุ่มใหม่ ปรับภาพลักษณ์ตัวเองให้ไปสู่จุดที่ทันสมัยขึ้น หรือปรับไปสู่จุดที่ส่งต่อคุณค่าของแบรนด์ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งอาจทำในรูปแบบของแพ็คเกจใหม่ โลโก้ใหม่หรือส่งต่อคุณค่าให้ลูกค้าในแบบใหม่ ๆ ได้นั่นเอง
3. Search Engine Campaign
การทำแคมเปญการตลาดผ่านช่องทางการค้นหาเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของการตลาดสมัยนี้เช่นกัน เพราะการค้นหามาจากการที่กลุ่มเป้าหมายบอกออกมาว่าต้องการอะไรโดยตรง การที่เราจ่ายเงินให้สินค้าหรือบริการเพื่อโฆษณาให้กับลูกค้าเห็นทันทีที่ลูกค้าค้นหา จะช่วยรองรับและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้านั้น ๆ ได้ทันทีเช่นกัน
4. Social Media Campaign
การที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่นักการตลาดนิยมใช้อีกเช่นกัน ไม่ว่าจะผ่านทั้ง Facebook, Twitter, Instagram, line @ หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมก็เพราะช่องทางโซเชียลมีเดียสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง เป็นช่องทางการขาย หรือสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ได้นั่นเอง
5. User-generated Content (UGC)
@bubiminty น่าร้ากกกก💖👀✨ ใจเจ้บบ🪐👽 #กล่องสุ่ม #กล่องสุ่มโมเดล #กล่องสุ่มของเล่น #blindbox #molly #mollyspace #popmart #popmartth #popmartunboxing #กล่องสุ่มpopmart ♬ Cute heartwarming children pet sports day – SOUND BANK
User-generated Content (UGC) คือ การทำให้กลุ่มเป้าหมายหรือคนทั่วไปมีส่วนร่วมกับแคมเปญทางใดทางหนึ่งโดยที่เข้าไปเล่นสนุก ไปคอมเมนต์ ไปมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์เพื่อสร้างคอนเทนต์ หรือแสดงความคิดสร้างสรรค์ในแบบของตัวเอง โดยที่ไม่มีข้อจำกัดหรือกฏเกณฑ์ใด ๆ จากแบรนด์คอยกำกับ ไม่ว่าจะเป็นการรีวิว การแนะนำ การบอกเล่าประสบการณ์โดยตรง หากกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าเข้าไปมีส่วนร่วมแล้ว ทำให้แคมเปญการตลาดของแบรนด์นั้น ๆ มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นกว่าเดิม นี่เลยเป็นเหตุผลที่หลายธุรกิจเลือกทำ User Generated Content (UGC) นั่นเอง
6. Email Marketing
การทำ Email Marketing เป็นเครื่องมือที่กำลังพุ่งแรงเข้ามาโดยเฉพาะเมื่อชาวเน็ตไทยให้ความสำคัญกับการใช้อีเมล์มากขึ้น การตลาดผ่านอีเมล์จึงเริ่มให้ความสำคัญกับการทำการตลาดผ่านอีเมล์ เพราะเป็นการสื่อสารและส่งต่อข้อมูลการตลาด ประชาสัมพันธ์โปรโมชัน หรือสื่อสารกับลูกค้าโดยตรงผ่านช่องทางอีเมล์ อีกทั้งยังเป็นการพูดคุยสื่อสารกันแบบ 1-1 ซึ่งสามารถเสนอเพิ่มการขายเข้าไปได้โดยตรงอีกด้วย
7. Public Relations Campaign
Public Relations Campaign คือ การประกาศแคมเปญออกไปสู่สาธารณชนให้ได้รับรู้โดยตรง ผ่านอีเวนต์และสินค้าต่าง ๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อความไปสู่การรับรู้ในวงกว้าง เพื่อให้ประชาชนสนใจและเข้ามาพูดคุยเรื่องราวต่าง ๆ ของแบรนด์นั้น ๆ ก็จะส่งผลต่อการรับรู้และมีส่วนร่วมในช่วงเวลานั้นได้เลย
8. Product Launch
ช่วงเปิดตัวสินค้าใหม่ เป็นรูปแบบที่นักการตลาดจำเป็นต้องทำเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าใหม่ให้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป อีกทั้งยังสามารถสื่อสาร เล่าข้อดี บอกคุณประโยชน์โดยตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ที่ตั้งตารอได้ทันที รวมถึงไขข้อสงสัย ตอบคำถามเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจสินค้า ได้โดยตรงอีกด้วย
9. Referral Marketing
หรือในยุคนี้ที่นักการตลาดหลาย ๆ คนจะคุ้นเคยกับคำว่า Affiliate Link หรือการที่แนะนำสินค้าหรือบริการด้วยการรีวิวหรือแนะนำให้กับคนในครอบครัว เพื่อนหรือลูกค้าคนอื่น ๆ ได้ด้วย การทำการตลาดแบบแนะนำต่อ ๆ กันไปหรือการทำการตลาดแบบปากต่อปากพบว่ามีอัตราประสบความสำเร็จหากเพื่อนแนะนำให้กับเพื่อน ถึง 9 ใน 10 และพบอีกว่าประมาณ 83% หากคนในครอบครัวหรือเพื่อนแนะนำให้ซื้อก็จะซื้อสินค้าหรือบริการนั้นนั่นเอง
10. SEO Campaign
อีกกลยุทธ์ที่นิยมทำและปรับปรุงกันมาตลอดเวลาในช่วงหลัง ๆ ของการทำการตลาดในโลกออนไลน์ ก็คงไม่พ้นการทำให้ลูกค้าค้นหาความต้องการนั้น ๆ แล้วเจอสินค้าหรือบริการของเราด้วยคีย์เวิร์ดที่มีอัตราการค้นหาจำนวนมาก เมื่อลูกค้าค้นหาคีย์เวิร์ดที่ต้องการออกมา การที่แบรนด์เราแสดงผลในหน้าแรกของเครื่องมือค้นหา จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงสินค้าและการตัดสินใจของลูกค้าในการซื้อสินค้าและบริการของเราได้มากขึ้น
11. Partner Campaign
เป็นแคมเปญการตลาดที่ทำการร่วมมือกันระหว่าง 2 แบรนด์ขึ้นไป โดยการผสานสินค้าหรือบริการร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำสินค้าคอลเลคชันพิเศษ หรือการเสริมบริการร่วมกัน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับสินค้าหรือบริการแบบพิเศษที่สุดและส่วนตัวที่สุด อีกทั้งยังเพิ่มภาพลักษณ์ของทั้งสองแบรนด์ไปในตัวอีกด้วย
12. Conversational Campaign
เป็นการตลาดผ่านทางแชทหรือคอมเมนต์เพื่อพูดคุย อัปเซลหรือปิดการขาย โดยรูปแบบนี้กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตามศักยภาพของ AI ที่เพิ่มเข้ามาด้วยบทสนทนาที่เข้าใจความเป็นมนุษย์มากขึ้นนั่นเองทำให้การใช้แชทบอทหรือการผสมผสานการใช้ Social Listening Tools เข้ามาช่วยในการทำแคมเปญลักษณะนี้ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอีกด้วย
วิธีการทำ Marketing Campaign ให้ประสบความสำเร็จ
การทำมาเก็ตติ้งเเคมเปญให้ประสบผลสำเร็จจำเป็นต้องมีวิธีการและกระบวนการที่จำเป็นอยู่ ซึ่งสรุปมาให้นักการตลาดได้ไปลองประยุกต์ใช้อยู่ถึง 6 ข้อดังนี้
1. กำหนดจุดประสงค์ และงบปรมาณ
การที่ระบุจุดประสงค์และงบประมาณในการทำแคมเปญการตลาดจะเป็นหัวใจสำคัญในการกำหนดขนาดของแคมเปญ กลยุทธ์ วิธีการ ฯลฯ ในการออกแบบหรือผสมผสานแคมเปญการตลาดให้แสดงศักยภาพออกมาได้มากที่สุดหากจุดประสงค์ชัดเจน งบประมาณเพียงพอก็เสริมให้แผนการตลาดบรรลุจุดประสงค์ได้นั่นเอง
2. เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
การที่ตั้งกลุ่มเป้าหมายหรือรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดีนั้นจะช่วยให้การสื่อสารแคมเปญออกไปนั้นตอบโจทย์และตรงใจกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพในการซื้อสินค้าและบริการของเรามากที่สุด ซึ่งการทำความรู้จักลูกค้าจะรวมไปถึงการรู้จักลักษณะนิสัย บุคคลิก ไปจนถึงเบื้องหลังการตัดสินใจต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก อารมณ์ต่าง ๆ เมื่อค้นพบแล้วก็สามารถหาช่องทางไปสื่อสารพูดคุยกับลุกค้าได้ง่ายขึ้น หากรู้จักลูกค้ามากเท่าไหร่ก็จะช่วยให้แคมเปญการตลาดประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้นอีกด้วย
3. การสร้างคำพูดในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ
เป็นอีกส่วนสำคัญในการสร้างกิจกรรมทางการตลาด เพราะจำเป็นต้องใช้ภาษาหรือคำพูดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด ยิ่งสื่อสารได้ตรงมากเท่าไหร่ก็จะตอบสนองต่อกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นเท่านั้น ข้อความที่จะสื่อสารนั้นมีส่วนสำคัญอยู่ 3 จุด คือ
1. เร้าอารมณ์หรือดึงดูดอารมณ์ให้กลุ่มเป้าหมายตอบสนอง อาจจะเริ่มจากปัญหาที่กวนใจหรือแสดงถึงความเข้าใจในสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายรู้สึกอยู่ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อใจและมีส่วนร่วมจากกลุ่มเป้าหมายได้
2. แสดงให้เห็นว่าปัญหาของลูกค้าสามารถแก้ได้ด้วยสินค้า หรือบริการของแบรนด์นั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยายผ่านตัวอักษร แสดงรูปภาพหรือวีดีโอให้กับกลุ่มลูกค้าเข้าใจและรู้ว่าสินค้าหรือบริการนั้น ๆ สามารถช่วยให้ชีวิตเค้าดีขึ้นได้ยังไงบ้าง
3. เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยรางวัลหรือประสบการณ์ที่ผ่านมา จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเชื่อถือข้อความมากขึ้น ไม่ว่าจะนำเสนอผ่านเรื่องราวที่ประสบความสำเร็จหรือสถานการณ์ตัวอย่าง เป็นต้น
4. การพัฒนากลยุทธ์
พัฒนากลยุทธ์การสื่อสารอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารช่องทางการสื่อสารให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย เลือกช่องทางการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพที่สุดอย่างการส่งอีเมล์ที่ใช้ต้นทุนน้อยที่สุดแต่ได้ผลตอบแทนดี หรือการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายโดยตรงก็ช่วยเพิ่มการปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายได้นั่นเอง
5. การนำไปปรับใช้งาน
การนำแผนไปปรับใช้งานจริงควรเป็นข้อที่ง่ายที่สุดหากแผนที่วางเอาไว้ดีตั้งแต่ต้น เพียงแค่ต้องใช้ทีมงานที่มีศักยภาพ รวมไปถึงแผนกอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับแผนการตลาดมาช่วยดูในส่วนอื่น ๆ เข้ามาช่วยผสานงานและติดตามดูแลแคมเปญการตลาดที่วางเอาไว้อีกด้วย
6. การวิเคราะห์ และประเมินผล
การวัดผลประเมินและวิเคราะห์ที่ดีจะช่วยให้สามารถปรับปรุงแผนการตลาดให้ดีขึ้นตั้งแต่ระหว่างออกแบบ ขณะปล่อยแคมเปญ ไปจนถึงปรับปรุงแคมเปญในอนาคต เพื่อที่สามารถปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ให้บรรลุจุดประสงค์มากที่สุด
สร้างแคมเปญการตลาดเจ๋ง ๆ พร้อมวัดผลได้จริง
ทั้งหมดนี้เป็นรูปแบบแคมเปญการตลาด และความสำคัญในกระบวนการต่าง ๆ ในการวางแผนแคมเปญการตลาดสักหนึ่งแคมเปญโดยมีทั้ง Digital Marketing และ Offline Marketing โดยเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้ โดยที่สามารถใช้ Mandala Cosmos ในการดูเทรนด์ใหม่ ๆ พร้อมใช้ Mandala Analytics ประเมินผลกิจกรรมทางการตลาด เพื่อปรับปรุงและต่อยอดแคมเปญให้เกิดประโยชน์ได้ในอนาคตได้ดีกว่าเดิม