ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้เราต่างใช้เวลาหมดไปกับโลกออนไลน์และการเล่นโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าในแง่ของการตลาดเองก็มีการโฟกัสไปที่การทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้นจนบางครั้งก็หลงลืมการทำการตลาดผ่านทางออฟไลน์กันไปบ้าง แต่ทุกครั้งที่เราก้าวขาออกมาจากบ้านก็ยังคงเห็นสื่อต่าง ๆ มากมาย เช่น ป้ายโฆษณา ป้ายบิลบอร์ด แบนเบอร์ หรือสติกเกอร์ติดตามอาคาร ที่ยังเน้นการโฆษณาสินค้าและบริการแบบดั้งเดิมอยู่ แล้วสื่อเหล่านี้ยังมีความจำเป็นอยู่ไหมในยุคนี้? Out of Home Media คืออะไร? มาหาคำตอบกันในบทความนี้!
รู้จัก Out of Home Media คือ?
Out of Home Media คือ ช่องทางโฆษณาที่เราเห็นได้จากนอกบ้าน หรือพูดง่ายๆ ก็คือสื่อนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณา ป้ายบิลบอร์ด แบนเบอร์ หรือสติกเกอร์ติดตามอาคาร โดยกลุ่มเป้าหมายของ Out of Home Media (ooh) ก็คือผู้คนที่สัญจรไปมาข้างนอกบ้าน อย่างคนที่เดินทางด้วยรถสาธารณะ เช่น รถเมล์ BTS MRT ถ้าคุณเคยเห็นแคมเปญต่าง ๆ ที่ป้ายบิลบอร์ดของ BTS หรือ MRT อย่างการโฆษณาสินค้าและบริการต่าง ๆ คุณก็อาจจะเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายของ Out of Home Media เหล่านั้นเช่นเดียวกัน
ประโยชน์ของการใช้สื่อ Out of Home Media
การใช้ Out of Home Media (ooh) ก็ยังเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นในปัจจุบัน เนื่องจากมีประโยชน์ต่อแบรนด์และธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหม่หลายอย่าง ได้แก่
- สร้างการรับรู้แบรนด์: ooh ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักโดยเฉพาะเมื่อวางป้ายโฆษณาหรือสื่อต่าง ๆ ในจุดที่มีผู้คนพลุกพล่านเห็นได้ชัดเจน
- เพิ่มความน่าเชื่อถือ: จากการสำรวจพบว่าผู้คนทั่วไปมักจะไว้วางใจกับสื่อนอกบ้านเมื่อต้องตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการ พวกเขามักจะซื้อสินค้าและบริการที่เห็นได้ทั่วไปในชีวิตจริง
- กระตุ้นให้เกิดการจดจำ: ด้วยภาพและข้อความที่ใหญ่ ชัดเจนจึงสามารถกระตุ้นให้ผู้ที่มองเห็นเกิดความจดจำได้มากกว่าโฆษณาออนไลน์ เนื่องจากโฆษณาเหล่านี้ไม่ได้ถูกกรองโดยซอฟต์แวร์ AdBlock หรือถูกละเลยเหมือนโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้น: สื่อ ooh สามารถเข้าถึงผู้คนได้ทุกเพศทุกวัย ทุกระดับรายได้ และทุกไลฟ์สไตล์ ต่างจากสื่อดิจิทัลที่มักมีกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
- สามารถจัดวางรูปแบบได้อย่างยืดหยุ่น: ooh มีรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งป้ายโฆษณา บิลบอร์ด สื่อโฆษณาบนรถสาธารณะ หน้าจอ LED แบรนด์จึงสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและงบประมาณ
ตัวอย่างของ Out of Home Media ที่เห็นในปัจจุบัน
- สื่อหนังสือพิมพ์: หนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่เราเห็นมาตั้งแต่ยังจำความได้ แม้ปัจจุบันหนังสือพิมพ์จะกลายเป็นสื่อที่ไม่ได้ฮิตเท่ากับสื่ออื่น ๆ แล้วแต่ก็ยังมีหลายแบรนด์ที่ยังคงใช้หนังสือพิมพ์ในการโฆษณา เช่น ในปี พ.ศ. 2563 คอลเกตปล่อยแคมเปญการตลาด #ยิ้มสู้ ลงบนหนังสือพิมพ์ 3 หน้าซึ่งสร้างปรากฏการณ์ให้กับผู้อ่านหลายคน เนื่องจากแคมเปญนี้โดยนำเสนอมุมมองแห่งความหวังและการมองโลกในแง่บวก ผ่านเรื่องราวที่สร้างจากเรื่องจริงของคน 3 คน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยยิ้มสู้กับทุกอุปสรรคและความยากลำบาก

- สื่อดิจิทัลในรถไฟฟ้า: รถไฟฟ้ากลายเป็นศูนย์รวมทั้งวัยเรียนและวัยทำงานซึ่งเป็นวัยที่มีกำลังซื้อมากพอสำหรับหลาย ๆ แบรนด์ โดยจำนวนผู้ใช้บริการ MRT มีเฉลี่ยเดือนละ 1.5 ล้านเที่ยว/วัน แบ่งเป็นกลุ่ม Gen Z สูงถึง 30% ซึ่งเป็นกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และ First Jobber เนื่องจากมีสถานีอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย แหล่งช้อปปิ้ง และย่านออฟฟิศ ถ้าใครที่เคยขึ้นรถไฟฟ้าคงเคยเห็นโฆษณาที่ปรากฏบนจอของรถไฟฟ้ากันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นดอยคำที่โฆษณา Ice Pop หวานเย็นรสผลไม้ Cornetto ไอศกรีมโคนหลายรสชาติ หรือแบรนด์แฟชั่นสปอร์ตอย่าง MLB ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็น Gen Z ต่างก็เคยทำแคมเปญโฆษณาบนรถไฟฟ้ามาแล้วทั้งนั้น

- สื่อโฆษณาในสถานีรถไฟฟ้า: นอกจากในรถไฟฟ้าแล้ว ในสถานีรถไฟฟ้าส่วนอื่น ๆ อย่างป้ายโฆษณา BTS หรือป้ายโฆษณา MRT ก็ยังเป็นแหล่งยอดฮิตของแบรนด์ในการโฆษณาเพื่อเข้าถึงผู้ใช้งานรถไฟฟ้า โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้สื่อ เช่น Dynamic Light Box, Wall Wrap, Floor Wrap หรือพื้นที่ต่าง ๆ มาจัดกิจกรรม เพื่อผสมผสานกลยุทธ์ทางการตลาดที่ทำให้เกิดการพูดถึงในวงกว้าง อีกทั้งยังเป็นที่จดจำของผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า MRT ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย อย่างสถานีรถไฟฟ้า MRT สถานีวัดมังกรที่ได้รับการสนับสนุนจาก“เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู” ที่สร้างสรรค์ทุกพื้นที่ของสถานีโดยใช้ “Interactive Art Station” ครั้งแรกของเมืองไทยภายใต้คอนเซปต์ “ดินแดนหอมหมื่นลี้” กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายได้รับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นผ่านงาน Storytelling และ Creativity ที่น่าสนใจ สร้าง Engagement ให้กับแบรนด์ โดย NESCAFÉ Blend & Brew Interactive Art Station นี้ก็ได้รับรางวัล แอดแมน อวอร์ดส จากสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยไปถึง 7 รางวัลเลยทีเดียว

- ป้ายบิลบอร์ด: ป้ายโฆษณาบิลบอร์ดมักจะสะดุดตาผู้ที่ขับรถผ่านโดยมักจะตั้งอยู่บนถนนสายหลักและทางหลวงเพื่อดึงดูดทั้งการจราจรที่สัญจรไปมาและคนเดินถนน เรียกได้ว่าเป็นสื่อที่ใครผ่านไปมาก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จึงเป็นสื่อใหญ่ที่สามารถสร้างผลกระทบต่อผู้ที่มองเห็นได้สูง โดยปกติมักจะมีขนาด 14 ฟุต x 48 ฟุต, 20 ฟุต x 60 ฟุต หรือบางครั้ง 12 ฟุต x 24 ฟุต มีหลากหลายแบรนด์ที่ใช้ป้ายบิลบอร์ดในการโฆษณาและโปรโมตสินค้าต่าง ๆ เช่น C-vitt ได้โฆษณาสินค้าของแบรนด์ที่เป็นวิตามินซีพร้อมดื่มหลากหลายรสผ่านป้ายบิลบอร์ด นอกจากสินค้าประเภทเครื่องดื่มแล้ว ก็ยังมีปั๊มน้ำมันอย่าง PT ที่ได้โปรโมตปั๊มของตนให้กับผู้ขับขี่บนท้องถนนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของ PT

- สื่อป้ายโฆษณาตามรถบัส/รถตุ๊กตุ๊ก: โฆษณาบนรถประจำทางเป็นรูปแบบหนึ่งของสื่อนอกบ้านที่สังเกตเห็นได้มากที่สุด ปัจจุบันยังมีแฟนคลับหลากหลายกลุ่มที่ฉลองวันเกิดของศิลปินโดยการโฆษณาผ่านป้ายตามรถตุ๊กตุ๊กซึ่งสร้างปรากฏการณ์ให้กับผู้ที่มองเห็น นอกจากนี้ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ใช้ประโยชน์จากการโฆษณาผ่านบนทั้งรถเมล์และรถตุ๊กตุ๊ก เช่น McDonald’s แบรนด์ชั้นนำด้านอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือ Dairy Queen มีการโฆษณาไอติมรสใหม่บนรถตุ๊กตุ๊ก เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มองเห็น
องค์ประกอบที่ช่วยสร้าง Out of Home Media ให้คนสนใจ
- ต้องการสื่อสารกับใคร: ขั้นตอนแรกคือการทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายของคุณว่าคุณต้องสื่อสารกับคนกลุ่มไหน แล้วพวกเขามีความชื่นชอบเรื่องอะไรเป็นพิเศษ อาจทำการศึกษากลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ เพศ วัย รายได้ ไลฟ์สไตล์ ความสนใจ และพฤติกรรมเพื่อให้สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสารด้วยได้อย่างชัดเจน
- สถานที่ตั้ง: การเลือกสถานที่ตั้งของสื่อนอกบ้านควรพิจารณาปริมาณผู้คน พฤติกรรมการเดินทาง ความถี่ที่กลุ่มเป้าหมายจะเห็นโฆษณาและเลือกพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น ใกล้จุดขนส่งสาธารณะ หรือสถานที่ที่ผู้คนมักไปรวมตัวกัน โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าโฆษณามีขนาดใหญ่ ชัดเจน และมองเห็นได้ง่าย
- ความคิดสร้างสรรค์: ดึงดูดความสนใจด้วยภาพที่สะดุดตา สีสันสดใส หรือการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร ใช้ข้อความที่กระชับ ชัดเจน จดจำง่าย กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ หรือสร้างคำถาม ลองใช้รูปแบบ ooh ที่ไม่เหมือนใคร เช่น 3D โฮโลแกรม หรือสื่อต่าง ๆ
- กระตุ้นการมีส่วนร่วม: กระตุ้นให้ผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาอย่างเสนอส่วนลด รางวัล หรือของขวัญ เพื่อจูงใจให้ผู้ชมจดจำแบรนด์ หรือสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ โดยกระตุ้นให้ผู้ชมถ่ายรูป แชร์ หรือพูดคุยเกี่ยวกับโฆษณา
- ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี: ลองนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ในสื่อนอกบ้าน เช่น การเพิ่ม QR Code หรือแฮชแท็กบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและการมีส่วนร่วมให้กับผู้ที่สนใจ
- ใช้ข้อความในทิศทางเดียวกัน: แน่นอนว่ายุคนี้การใช้สื่อนอกบ้านเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป ควรสื่อสารไปในทางเดียวกันในทุกช่องทาง เช่น การใช้ข้อความเดียวกันทั้งสื่อนอกบ้านและโซเชียลมีเดีย เพื่อเน้นย้ำสิ่งที่แบรนด์ต้องการสื่อสาร
- คำนึงถึงเทรนด์และเทศกาล: เทรนด์นับเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผู้คนและเพิ่มการมีส่วนร่วมได้อย่างดี นอกจากนี้ฤดูกาล เทศกาลก็ยังเป็นอีกปัจจัยที่สามารถนำมาปรับใช้ในสื่อนอกบ้านได้ เช่น โปรโมตสินค้าราคาพิเศษสำหรับเทศกาลคริสต์มาส
- อัปเดตเนื้อหาแบบเรียลไทม์: อีกเทคนิคที่น่านำมาประยุกต์ใช้คือการสร้างเนื้อหาที่เป็นแบบไดนามิกที่สามารถอัปเดตเหตุการณ์ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ได้อย่างเรียลไทม์ เช่น สภาพอากาศ ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบเรียลไทม์ เพื่อโฆษณาเครื่องกรองอากาศ
- ประเมินผล: ติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญ ooh อย่างละเอียดผ่านการวัดผล KPI เช่น การจดจำแบรนด์ ยอดขาย หรือการเข้าชมเว็บไซต์ โดยวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเรียนรู้ว่าองค์ประกอบไหนมีประสิทธิภาพมากที่สุดและปรับปรุงกลยุทธ์ในอนาคต

ข้อดี vs ข้อจำกัดของการทำ Out of Home Media
ข้อดี | ข้อจำกัด |
โอกาสที่จะเห็นและอ่านโฆษณามีมาก | ผู้ชมอาจเห็นโฆษณาซ้ำหลายครั้งจนเกิดความรำคาญ |
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กว้าง ทุกเพศทุกวัย ทุกระดับรายได้ และทุกไลฟ์สไตล์ | ยากที่จะกำหนดเป้าหมายไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะเจาะจง |
แสดงโฆษณาตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน | มีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะในทำเลสำคัญอาจต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก |
ดึงดูดความสนใจผู้คนได้อย่างรวดเร็ว ด้วยภาพและข้อความที่ใหญ่ ชัดเจน และน่าจดจำ | วัดประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้ยาก |
สามารถสร้างสรรค์รูปแบบของการโฆษณาได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ต่างจากรูปแบบออนไลน์ที่มักจะมี Format เฉพาะ | มีพื้นที่จำกัดในการเขียนข้อความ และมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขยากเมื่อผลิตโฆษณาแล้ว |
จับตาเทรนด์สื่อ Out of Home ม้ามืดของยุคทำโฆษณา
สื่อนอกบ้านนับเป็นอีกช่องทางในการโฆษณาสินค้าและบริการให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย แม้ว่ายุคนี้เทคโนโลยีจะเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของเรามากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่องทางออฟไลน์อย่างการใช้สื่อนอกบ้านก็ยังคงเป็นช่องทางสำคัญในการสื่อสารและโปรโมตสินค้าและบริการ ดังนั้นแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งเล็กและใหญ่จึงควรพิจารณาในเรื่องของการใช้สื่อนอกบ้าน เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงการสร้างการจดจำและการมีส่วนร่วมมากขึ้น