- AI คืออะไร?
- AI Marketing คืออะไร?
- จุดประสงค์ของการใช้งาน AI คืออะไร?
- ทำไม AI ถึงเข้ามามีบทบาทกับ Marketing
- ตัวอย่างเครื่องมือ AI ที่ Marketer ใช้
- ข้อดี ข้อเสีย ในการใช้ AI
- ตัวอย่าง การใช้ AI ในการจัดการแคมเปญโฆษณา ของบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG)
- องค์กรของคุณได้ใช้งาน AI สำหรับ Marketing แล้วหรือยัง
การตลาด 5.0 หรือการตลาดในยุคปัจจุบัน คือการตลาดที่เน้นการทำความเข้าใจลูกค้าโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างกลยุทธ์ที่สามารถตอบโจทย์พวกเขาได้และกระตุ้นการซื้อขายกับแบรนด์ในท้ายที่สุดนั่นเอง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเม็ดเงินถือเป็นตัวชี้วัดว่าธุรกิจประสบความสำเร็จมากแค่ไหนและด้วยเหตุนี้หลาย ๆ แบรนด์จึงได้มีการใช้เครื่องมือเข้ามาเป็นตัวช่วยทางธุรกิจหลายอย่าง หนึ่งในตัวช่วยที่นิยมอย่างมากในยุคดิจิทัลนี้คือ Artificial Intelligence หรือ AI นั่นเอง ทุกวันนี้ มากกว่า 73% ของเหล่านักการตลาดได้ใช้ AI เป็นตัวช่วยในการทำงาน และสำหรับสัดส่วนที่เหลือก็มีเป้าหมายที่จะใช้ AI เข้ามาช่วยภายใน 1-2 ปีข้างหน้าอีกด้วย
วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจ AI marketing และเรียนรู้ถึงความสำคัญของ AI ในการทำความเข้าใจลูกค้า เพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ
AI คืออะไร?
AI (Artificial intelligence) คือ เทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง โดยใช้กระบวนการเรียนรู้จากข้อมูล (Machine Learning) เพื่อสร้างโมเดลที่สามารถทำนายผลลัพธ์จากข้อมูลต้นฉบับได้อย่างแม่นยำ โดยใช้วิธีการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ และสถิติเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล
AI Marketing คืออะไร?
การตลาด AI คือ รูปแบบการตลาดที่นำ AI เข้ามาช่วยในการสร้างกลยุทธ์การตลาดหรือแคมเปญต่าง ๆ สำหรับธุรกิจ และด้วยการใช้ประโยชน์จากพลังของ AI นักการตลาดจะได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค ช่วยให้แบรนด์สร้าง Customer Experience ได้อย่างดีและสามารถขับเคลื่อนแคมเปญการตลาดให้ได้ตรงเป้าหมายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
จุดประสงค์ของการใช้งาน AI คืออะไร?
จุดประสงค์ของการใช้ AI ในชีวิตประจำวันคือการเพิ่มความสะดวกในการใช้ชีวิตในหลาย ๆ ด้าน เพราะ AI นั้น ได้ถูกออกแบบมาให้มีสติปัญญา การรับรู้เทียบเท่ามนุษย์ นั่นหมายความว่า โทคโนโลยีตัวนี้สามารถเข้ามาเบาแรงและประหยัดเวลาในการทำกิจกรรมหรืองานขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทำได้ อย่างเช่นการจดจำเสียง, การจดจำรูปภาพและรูปแบบ, หรือแม้แต่การตัดสินใจ
การใช้ AI เข้ามาช่วยในชีวิตประจำวันของมนุษย์นั้นเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก อย่างทุกวันนี้หลาย ๆ บ้าน ได้มีระบบ Smart home ที่อาศัย AI เข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตที่บ้านมีความสะดวกและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อย่างเช่นการสั่งการด้วยเสียง ให้ AI เปิด ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้า, สั่งให้โทรหาคนในครอบครัวหรือเพื่อน, สั่งซื้อสินค้าออนไลน์, ตรวจสอบความปลอดภัยผ่านกล้องวงจรปิดของบ้าน, การตั้งค่าแจ้งเตือนนัดหมายสำคัญ หรือการตั้งปลุกในยามเช้าก่อนไปทำงาน เป็นต้น
ทำไม AI ถึงเข้ามามีบทบาทกับ Marketing
การตลาด AI ได้ถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถขับเคลื่อนของเศรษฐกิจโลกภายในปี 2573 ได้เพิ่มมากขึ้นถึง 45% ผ่านการช่วยเหลือธุรกิจในหลากหลายวิธี เช่น การปรับปรุงสินค้าของแบรนด์ให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค บริการจากแบรนด์แบบส่วนบุคคล (Personalized service) และนอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลต่อความต้องการของผู้บริโภคอีกด้วย
เรามาดูกันว่า AI นั้นมีบทบาทใน Marketing และจะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกได้อย่างไร
1. วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า
AI และ Machine learning สามารถจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น นี่จึงทำให้สามารถได้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับลูกค้าในด้านต่างๆ เพื่อช่วยนักการตลาดตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในแต่ละแคมเปญ ไม่ว่าจะเป็น Social sentiment ของแบรนด์, ยอด Engagement ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้แบรนด์สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันตามเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคได้ทันท่วงที และยังเป็นการรักษาความพึงพอใจได้อย่างต่อเนื่องแม้สถานการณ์การตลาดจะเปลี่ยนไป
2. จำแนก Target Audience และ Personalization
การตลาด AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กลยุทธ์ Omnichannel ของธุรกิจคุณได้อย่างดีโดยการจำแนกกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าของแบรนด์ให้สอดคล้องกับแคมเปญของแบรนด์ตามช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ
นอกจากนี้ธุรกิจยังสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ในการยิง Ads อย่างการเลือกประเภทของคอนเทนต์ที่เหมาะสมไปยังกลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ AI marketing ช่วยให้การสื่อสารแบรนด์กับลูกค้ามีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น ช่วยให้ธุรกิจสร้าง Brand loyalty กับลูกค้าได้ในระยะยาว
3. Social Media Listening
AI มีความสามารถในการจัดการและแจกแจงรายละเอียดข้อมูลที่สำคัญจากการทำ Social media listening ได้อย่างดี เพราะการทำ Social listening อย่างการคอยแทรคว่ามีคน Mention ถึงแบรนด์ไปในทิศทางไหน กล่าวถึงว่าอย่างไรบ้าง ถือเป็นข้อมูลที่มีจำนวนข้อมูลมหาศาลแถมยังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยความชาญฉลาดของ AI จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น แถมยังสามารถคาดการณ์แนวโน้ม ความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ ทำให้แบรนด์สามารถสร้างกลยุทธ์มาตั้งรับได้ทัน
4. ระบบ Automation
AI Marketing ถือว่ามีประโยชน์อย่างมากสำหรับงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ อย่างเช่นการส่ง Email หาลูกค้า หรือ การโพสต์คอนเทนต์ลงบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ธุรกิจสามารถให้ AI เข้ามาช่วยในการจัดตารางการส่งอีเมลหรือลงโพสต์ได้อัตโนมัติได้ ทำให้เหล่านักการตลาดมีเวลาไปทุ่มเทและให้ความสำคัญภาพเปญในส่วนอื่น ๆ และยังทำให้พวกเขาวิเคราะห์ภาพรวมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
5. ช่วยสร้างคอนเทนต์
AI สามารถช่วยแบรนด์สร้างคอนเทนต์ขั้นพื้นฐานได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นแคปชันกำกับโพสต์ของสินค้า, คำอธิบายตัวสินค้า, หรือแม้แต่บล็อกโพสต์ เพราะ AI สามารถจดจำคำและยังสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเป้าหมายได้อีกว่าพวกเขามีพฤติกรรมอย่างไรต่อคำนั้น ๆ เช่นตรวจจับว่าการจั่วหัวเมลล์แบบไหนถึงจะมีลูกค้าเปิดอ่านเมลล์นั้น ๆ
นั่นหมายความว่า AI ช่วยให้การสื่อสารแบรนด์เป็นเรื่องที่สะดวกและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ถือเป็นการช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมระหว่างลูกค้าและแบรนด์ได้มากขึ้น แถมยังเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้อีกด้วย
ตัวอย่างเครื่องมือ AI ที่ Marketer ใช้
1. Chat GPT
แพลตฟอร์ม Chatbot AI ที่สามารถโต้ตอบกับสิ่งที่ผู้ใช้ป้อนได้อย่างได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถาม หรือการสั่งคำสั่ง เช่น
2. Bing AI
Bing AI มีการทำงานคล้ายกับ Chat GPT ที่สามารถถามคำถามและโต้ตอบบทสนทนากับผู้ใชได้ แต่ Bing AI มีฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือ สามารถสั่งให้สร้างรูปภาพตามคีย์เวิร์ดหรือคำสั่งนั้น ๆ ได้ เช่น
3. Mandala AI
แพลตฟอร์ม Social listening tools ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามและตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเป้าหมายบน Social media จำนวนหลายแพลตฟอร์มได้ในที่เดียวไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, YouTube และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีการสรุปข้อมูลเชิงลึกให้ภายในเวลาอันสั้น เพื่อความง่ายและสะดวกในการนำข้อมูลไปใช้ต่ออีกด้วย
4. Social Media Marketing
ทุกวันนี้มีเครื่องมือสำหรับการทำ Social Media Marketing มากมายที่อาศัย AI เข้ามาช่วยให้การทำการตลาดง่ายขึ้น อย่างเช่น Fanpage Karma ที่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากหลากหลายแพลตฟอร์ม ช่วยให้ธุรกิจประเมินแคมเปญของตัวเองและคอยสอดส่องคู่แข่งได้ด้วยเช่นกัน
5. Translate
สำหรับแวดวงภาษาและการเขียนก็มีเครื่องมือที่ใช้ AI เข้ามาช่วยอำนวยคตวามสะดวกให้ผู้ใช้งาน QuillBot ที่สามารถแปลภาษาได้หลากหลายภาษา นอกจากนี้แพลตฟอร์มนี้ก็ยังมีการ ตรวจจับความถูกต้องของไวยากรณ์และการลอกลียนแบบชิ้นงานอีกด้วย
ข้อดี ข้อเสีย ในการใช้ AI
ข้อดี
1. ประมวลผลข้อมูล Big Data ได้อย่างราบรื่น: AI สามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ แถมยังสามารถเข้าใจและดึงข้อมูลที่จําเป็นสําหรับการวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว
2. ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน: AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของธุรกิจได้ดี ทั้งในเชิงผลผลิตและรายได้ เพราะ AI สามารถทำให้กระบวนการที่ยุ่งยาก อย่างเช่นการทำ Social Listening ที่เราได้ทำความเข้าใจกันไป มีความรวดเร็ว ไม่ต้องคอยมานั่งตรวจสอบเอง
3. พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา: ระบบ AI สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลาตามต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งโปรแกรมให้ทำงานเป็นเวลาได้อีกด้วย
4. ลดความผิดพลาดของมนุษย์: หากตั้งโปรแกรมถูกต้อง AI จะทำงานไม่ผิดพลาด เพราะโมเดล AI ถูกสร้างขึ้นจากการวิเคราะห์และการคาดการณ์ ดังนั้นข้อมูลที่ได้จาก AI จึงไม่ทิ้งข้อผิดพลาดใด ๆ ไว้ ช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรและได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
5. สร้าง Brand Reputation: จากที่เราได้ทำความเข้าใจเรื่องบทบาทของ AI ในการตลาดกันไปแล้วนั้น ความสามารถของ AI ส่งผลให้ธุรกิจสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าในหลาย ๆ ด้าน และนั่นก็หมายความว่าช่วยให้ธุรกิจถูกมองไปในเชิงบวก สร้างชื่อเสียงที่ดีให้กับแบรนด์ในท้ายที่สุดนั่นเอง
ข้อเสีย
1. ความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า: เพราะ AI อาศัยการเก็บข้อมูลของลูกค้าก่อนจะทำการวิเคราะห์ออกมาเป็นข้อมูลเชิงลึก สำหรับนักการตลาดแล้ว ควรต้องคอยระวังในเรื่องการนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้อย่างเหมาะสม และไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พวกเขาและรักษาชื่อเสียงของแบรนด์ด้วย
2. ต้องลงทุนสูง: การใช้ AI เข้ามาช่วยในการทำธุรกิจต้องอาศัยเงินลงทุน ทรัพยากร และต้องมีการคอยพัฒนาโปรแกรมอยู่เสมอ นั่นจึงทำให้แบรนด์ที่มีความสนใจในการใช้ AI ในการทำธุรกิจต้องมีการวางแผนและคำนวณงบประมาณให้ดีเพื่อไม่ให้ไปกระทบกับการทำธุรกิจในสัดส่วนอื่น
3. การสื่อสารอาจยังไม่สมจริง: แม้ว่า AI จะถูกพัฒนามาให้มีความฉลาด สามารถเข้าใจภาษามนุษย์ และตอบโต้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ก็อาจจะมีข้อจำกัดอยู่ที่ลูกค้าบางรายอาจยังคงต้องการการสื่อสารกับมนุษย์จริง ๆ อยู่
4. ยังมีความซับซ้อน: สำหรับธุรกิจที่ต้องการนำ AI เข้ามาช่วยงาน อาจต้องมีการเทรนให้พนักงานคุ้นเคยกับระบบ และการใช้เทคโนโลยี และอาจต้องใช้เวลาให้เกิดความคุ้นชิน ในการใช้ AI ให้มีประสิทภาพ
5. ความน่าเชื่อถือของข้อมูล: เพราะว่า AI เป็นเทคโนโลยีที่ถูกวางโปรแกรมไว้ ดังนั้นการให้ข้อมูลอาจไม่ได้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือตามทันยุคสมัยทั้งหมดหากไม่ได้มีการอัปเดตโปรแกรม ดังนั้นอาจยังต้องคอยใช้แรงคนในการตรวจสอบอีกขั้น
ตัวอย่าง การใช้ AI ในการจัดการแคมเปญโฆษณา ของบริษัทสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG)
สถานการณ์:
บริษัท FMCG ใหญ่ (เช่น Unilever, P&G) ใช้ AI ในการจัดการแคมเปญการตลาดและโฆษณาผ่านช่องทางดิจิทัลโดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดีย AI จะช่วยในการเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด (Targeting) และปรับแต่งเนื้อหาของโฆษณาให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคแต่ละคนในเวลานั้น เช่น การค้นหาออนไลน์ พฤติกรรมการซื้อ การดูเนื้อหาในโซเชียลมีเดีย เพื่อคัดเลือกกลุ่มลูกค้าเฉพาะเจาะจงที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าของแบรนด์นั้น ๆ
ผลลัพธ์:
การใช้ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาและช่วยให้บริษัทสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด ส่งผลให้การลงทุนในโฆษณามี ROI (Return on Investment) ที่สูงขึ้น และสามารถเพิ่มการรับรู้แบรนด์และยอดขายได้มากขึ้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องให้ความสำคัญและระมัดระวังอย่างสูงในการใช้ AI เนื่องจากต้องพิจารณาเรื่องลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาอย่างรอบคอบ พร้อมทั้งต้องปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้า รวมถึงการคำนึงถึงความปลอดภัยในการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลที่ผิดกฎหมายหรือขัดต่อมาตรฐานจริยธรรม นอกจากนี้ ยังต้องมีระบบตรวจสอบและควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้ AI สร้างเนื้อหาที่มีอคติ เช่น การเหยียดเชื้อชาติหรือเพศ ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ การดำเนินงานจึงต้องมั่นใจว่า AI ที่นำมาใช้ไม่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลหรือสร้างผลกระทบในทางลบต่อสังคม
องค์กรของคุณได้ใช้งาน AI สำหรับ Marketing แล้วหรือยัง
เห็นได้ชัดแล้วว่า AI Marketing หรือการตลาดที่อาศัยความฉลาดของ AI เข้ามาช่วย ทำให้แบรนด์สามารถทำธุรกิจได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังส่งผลดีต่อกลุ่มเป้าหมายในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้พวกเขา และส่งผลดีต่อตัวแบรนด์ในหลาย ๆ ด้านด้วยเช่นกัน ในยุคที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอยู่เสมอ ๆ ในอนาคตอาจมีการพัฒนา AI ให้มีความฉลาดมากยิ่งขึ้นไปอีก หากคุณเป็นแบรนด์ที่ยังไม่ได้นำ AI เข้ามาใช้ นั่นก็อาจทำให้คุณเดินตามคู่แข่งไม่ทัน สำหรับการตลาดในยุคดิจิทัลนี้