ตัวชี้วัดที่นักการตลาดออนไลน์ให้ความสำคัญไม่แพ้กันกับค่าอื่น ๆ หนึ่งในนั้นก็คือยอด Reach ซึ่งนักการตลาดหลาย ๆ คนนำมาใช้วิเคราะห์ วางแผน นำไปใช้ในการปล่อยแคมเปญการตลาดให้กับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งตัวชี้วัดนี้ก็จะช่วยกำหนดทิศทางหรือเรียกว่าช่วยตัดริบบิ้นดูวันเวลาในการปล่อยแคมเปญหรือคอนเทนต์ต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ก็ว่าได้ เรียกได้ว่าค่า Reach เป็นตัวเลขที่นำมาประกอบรายงานการตลาดที่ขาดไม่ได้ เราจะพามาดูว่าค่านี้คืออะไร ทำงานอย่างไร และนำไปใช้กับแผนการตลาดได้อย่างไร มาดูไปพร้อมกันเลย
Reach คืออะไร
Reach คือ จำนวนผู้ที่เข้าถึงคอนเทนต์หรือแคมเปญที่ปล่อยออกมาหรือที่เข้าใจกันก็คือ จำนวนคนมองเห็นโพสต์นั้น ๆ กี่คน ตั้งแต่โพสต์หรือปล่อยแคมเปญออกมา ซึ่งจะใช้การวัดจากช่วงเวลาที่โพสต์ออกมาและตัวคอนเทนต์ที่โพสต์นั่นเอง จะเห็นได้ว่าเราสามารถนำตัวเลขที่สะท้อนการเข้าถึงของโพสต์หรือแคมเปญนั้นไปปรับปรุงและไปพัฒนาแผนการตลาดให้ดีขึ้นหรือปรับช่วงเวลาในการโพสต์หรือปล่อยแคมเปญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแผนการตลาดได้ดีขึ้นอีกด้วย
Reach สำคัญอย่างไรในการทำการตลาดออนไลน์
แน่นอนว่าค่า Reach นี้ สามารถนำไปใช้กับการตลาดออนไลน์ได้อย่างดี นั่นก็เพราะเมื่อเรารู้ว่าช่วงเวลาไหนมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงโพสต์หรือแคมเปญนั้น ๆ ของเรา ก็จะช่วยให้เลือกเวลา เลือกวิธีการไปจนถึงการใช้ครีเอทีฟในการสร้างสรรค์แคมเปญออกมาให้ตรงกับช่วงเวลานั้น ๆ ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งส่งผลไปถึงประสิทธิภาพของแคมเปญที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้นและตรงกับพฤติกรรมหรือกิจวัตรประจำวันของลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้แผนการตลาดออนไลน์ที่วางไว้มีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ตรงตามที่วางแผนไว้นั่นเอง
Reach มีกี่ประเภท
เชื่อว่าเมื่อเข้าใจความสำคัญของยอด Reach ว่าคืออะไรแล้ว ก็ชวนมาดูความแตกต่างของตัวชี้วัดนี้ว่ามีกี่ประเภท และแต่ละประเภทคืออะไร ทำงานอย่างไรและแตกต่างกันแค่ไหน มาดูกันเลย
- Organic Reach
- เรียกว่าเป็นตัวชี้วัดที่เป็นธรรมชาติ นั่นคือ การที่โพสต์หรือแคมเปญออนไลน์แสดงผลเข้าถึงผู้คนบนหน้าฟีดทั้งคนที่ติดตามหรือไม่ได้ติดตามแบรนด์นั้น ๆ โดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
- Paid Reach
- การกระตุ้นโพสต์หรือแคมเปญโดยการจ่ายค่าโฆษณาให้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อเพิ่มหรือขยายการเข้าถึงโพสต์หรือแคมเปญให้กับกลุ่มเป้าหมายที่วางเอาไว้นั่นเอง
วิธีคำนวณหาค่า Reach ในการวัดผล KPI
การวัดผลหรือประสิทธิภาพของตัวชี้วัดนี้จะบอกถึงจำนวนคนที่เห็นโพสต์หรือแคมเปญกี่คนตั้งแต่แรกเริ่มปล่อนแคมเปญหรือโพสต์นั้น สามารถคำนวณได้ดังนี้
หากดูสมการที่ให้ใช้คำนวณแล้ว การวัดผลตัวชี้วัดนี้คือ การใช้จำนวนผู้ที่เห็นโพสต์หรือแคมเปญนั้น มาหารด้วยจำนวนผู้ที่ติดตามทั้งหมด แล้วนำมาคูณด้วย 100 จะได้เปอร์เซ็นต์ของโพสต์ที่เข้าถึงนั่นเอง ซึ่งจำเป็นต้องนำมาเปรียบเทียบกับโพสต์หรือแคมเปญอื่น ๆ เพื่อเลือกช่วงเวลาในการปล่อยแคมเปญหรือโพสต์นั้น ๆ นั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อเราจะต้องปล่อยแคมเปญที่เกี่ยวกับสินค้าที่ต้องใช้ในตอนกลางคืน ก็อาจจะต้องมาดูว่าแคมเปญหรือโพสต์ของเราจะใช้ใช้ครีเอทีฟแบบใดในการจูงใจให้โพสต์หรือแคมเปญมีความน่าสนใจและนำมาประกอบกับช่วงเวลาที่เข้าถึงมากที่สุด เพื่อเลือกช่วงเวลาในการปล่อยแคมเปญหรือโพสต์นั้น ๆ ให้มีประสิทธิภาพนั่นเอง
หรือจะใช้ช่วงเวลาที่เข้าถึงมากที่สุดนำมากำหนดครีเอทีฟเล่าเรื่องเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับกลุ่มเป้าหมายต้องการใช้สินค้าหรือเข้าร่วมแคมเปญการตลาดนั่นเอง เช่น หากจำนวนผู้เข้าถึงของแบรนด์ อยู่ในช่วงเย็นหลังเลิกงาน ก็อาจจะกำหนดโพสต์หรือสร้างแคมเปญที่เกี่ยวกับพฤติกรรมหรือกิจวัตรหลังเลิกงานที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายนั้น ๆ พร้อมกับใช้ครีเอทีฟเพิ่มความน่าสนใจให้กับโพสต์หรือแคมเปญดังกล่าวได้อีกด้วย
แน่นอนว่านักการตลาดสามารถประยุกต์หรือนำตัวชี้วัดนี้ไปประยุกต์ต่อยอดเพื่อสร้างแคมเปญการตลาดทั้งสเกลเล็กไปจนถึงสเกลใหญ่ ๆ ได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้นั่นเอง
Reach เเตกต่างกับ Impression อย่างไร
ถ้าจะแยกให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนของค่า Reach และ Impression นั่นก็คือ ค่า Reach คือ ‘จำนวนคน’ แต่ค่า Impression คือ ‘จำนวนครั้ง’ สามารถเปรียบเทียบและทำความเข้าใจได้ดังนี้
Reach คือ จำนวนคนที่เข้าถึงโพสต์นั้น ๆ
Impression คือ จำนวนครั้งที่โพสต์แสดงผล
โดยที่ค่า Reach จะนับแค่คนที่เห็นแค่ครั้งเดียว ส่วนค่า Impression จะนับจำนวนครั้งที่โพสต์แสดงผลอาจเกิดจากการที่เราเห็นเพื่อนไลค์ คอมเมนต์ แชร์โพสต์นั้น หรือโพสต์นั้นแสดงผลที่หน้าฟีดขึ้นมา ไปจนถึงเราเห็นโพสต์นี้แล้วไถนิ้วกลับมาที่โพสต์นี้ซ้ำก็จะนับเป็นค่า Impression ด้วยนั่นเอง
คุณเห็นความสำคัญของ Reach แล้วรึยัง
เรียกว่าค่า Reach เป็นอีกตัวชี้วัดที่สำคัญและไม่น้อยไปกว่าตัวชี้วัดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Impression หรือ Engagement นั่นเอง ซึ่งแต่ละตัวชี้วัดจะมีความเกี่ยวข้องกันจนบางครั้งอาจตั้งคำถามว่า ยอดอิมใช้ยังไง ยอดเอนเกจคืออะไร ยอดคลิกกี่บาทด้วย อย่างไรก็ตามนักการตลาดออนไลน์ก็ไม่ควรพลาดที่จะหยิบยกค่าต่าง ๆ ไปวิเคราะห์แผนการตลาดหรือแคมเปญนั้น ๆ ต่ออีกที เพื่อวัดผลแคมเปญอย่างมีประสิทธิภาพและตอบโจทย์แผนการตลาดที่วางเอาไว้ด้วยนั่นเอง