การทำสรุปรายงานทางการตลาดบนโซเชียลมีเดียหรือ Social media report นั้นถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำธุรกิจออนไลน์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในยุคที่จำนวนการเกิดของธุรกิจใหม่บนโซเชียลมีเดียนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากเข้าไปในแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram, TikTok, Twitter, YouTube ทุกวันนี้พื้นที่เหล่านี้ไม่ใช่แค่แหล่งความบันเทิงสำหรับผู้ชมแล้วอย่างแน่นอน ผู้ใช้งานต่างต้องเห็นโพสต์ หรือคอนเทนต์โฆษณาของธุรกิจบนหน้า Feed ของตัวเองอย่างน้อย 2 -3 โพสต์ นั่นหมายความว่าอัตราการเกิดคู่แข่งทางธุรกิจบนโลกโซเชียลนั้น มีเพิ่มเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน เพราะแบรนด์ไหน ๆ ต่างก็ทำธุรกิจออนไลน์
ในการตลาดโซเชียลมีเดีย (Social media marketing) การติดตามและวิเคราะห์ผลของแคมเปญเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เหล่านักการตลาดดิจิทัลรู้ได้ว่า แคมเปญนั้น ๆ กำลังทำประสบความสำเร็จหรือไม่ มีแนวโน้มในการเอาชนะคู่แข่งได้มากเพียงใด แม้กระทั่งชี้ให้เห็นได้ว่าขั้นตอนในกลยุทธ์ทางการตลาดใดที่เรากำลังด้อยกว่าคู่แข่งอยู่
บทความนี้จะชี้ให้เห็นว่าการทำรายงานการตลาด (Marketing report) นั้นสำคัญสำหรับเหล่านักธุรกิจออนไลน์อย่างไร พร้อมทั้งแนะนำเครื่องมือการทำ Report เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณวางแผนการตลาดได้อย่างตรงจุดและประสบความสำเร็จ
Social Media Report คือ ?
Social Media Report คือ การทำสรุปรายงานผลของแคมเปญบน social media เพื่อวัดประสิทธิภาพ และระบุข้อพกบร่องของกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์ การทำ Social media report สามารถทำได้โดยติดตามยอด Key Performance Indicator หรือ KPI บนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram, TikTok, Twitter, YouTube และอื่น ๆ ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งการรายงานตัวเลขที่เรียบง่าย หรือในรูปแบบการทำสไลด์นำเสนอข้อมูลพร้อมการวิเคราะห์แนวโน้มเพื่อนำไปปรับใช้ต่อในอนาคต
สถิติไหนที่สำคัญสำหรับทำ Social Media Report?

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าการทำ Social Media Report สามารถทำได้ด้วยการติดตามยอด KPI ของคอนเทนต์นั้น ๆ บนสื่อออนไลน์ วันนี้เรามาทำความเข้าใจของหน่วยวัดเหล่านั้นกันเบื้องต้นได้ดังนี้
- Followers: หน่วยวัดนี้สามารถบ่งชี้ได้ถึงจำนวนผู้ใช้ที่ต้องการทำความรู้จักกับแบรนด์ ยอด Follower ทำให้แบรนด์วิเคราะห์ได้ว่า สัดส่วนของผู้ชมที่พบเห็นโพสต์หรือคอนเทนต์ของแบรนด์อยู่ที่เท่าไหร่ ถือเป็นอีกสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าแบรนด์ของเรานั้นกำลังเป็นที่นิยมมากแค่ไหน
- Reach และ Impression: Reach คือ ‘จำนวนของผู้ใช้’ ที่เข้าถึงโฆษณาหรือคอนเทนต์ของแบรนด์ ส่วน Impression นั้นคือ ‘จำนวนครั้ง’ ที่ผู้ใช้พบเห็นโฆษณาหรือคอนเทนต์ของแบรนด์ ซึ่งโดยปกติแล้วจำนวน Reach จะมีจำนวนที่น้อยกว่า Impression เสมอ
- Click Through Rate (CTR): คือสัดส่วนของจำนวนคลิกต่อจำนวนการมองเห็นของผู้ใช้งานทั่วไป สามารถคำนวณได้จาก (Click/Impression) x 100 สำหรับ CTR นั้นถือเป็นตัวชี้วัดว่าคอนเทนต์ที่แบรนด์ได้ยิง Ads ไปนั้นมีประสิทธิภาพมากแค่ไหน
- Engagement Rate (ER): เป็นตัวชี้ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ใช้นั้นมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์มากขึ้นหรือลดลงแค่ไหน ER ถือเป็นการคำนวน Interaction ทุกรูปแบบที่เกิดขึ้นกับคอนเทนต์ของแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น Comment, Like, Share สามารถวัดได้จาก (Total Engagement/ Total Impression) x 100
- Clicks: คือยอด Traffic หรือจำนวนของผู้คนที่คลิกลิงค์จากโพสต์ต่าง ๆ เพื่อเข้าไปเยี่ยมชม Website ของแบรนด์ ทำให้แบรนด์รู้ได้ว่าจำนวนของผู้ชมที่สนใจคอนเทนต์ของแบรนด์นั้นมีมากน้อยเพียงใด
- Retweets, Reposts, Share: แม้เป็นหน่วยวัดที่มีชื่อเรียกต่างกัน ขึ้นอยู่กับแต่ละแพลตฟอร์ม แต่โดยเบื้องต้นแล้วการ Retweets, Reposts, Share คือการที่ผู้ใช้ส่งต่อโพสต์หนึ่ง ๆ ไปยังหน้า feed สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่บอกได้ว่าจำนวนผู้ใช้บน Social media มีความสนใจในของคอนเทนต์ของแบรนด์มากแค่ไหน นอกจากนี้การ Retweets, Reposts, Share ถือเป็นการเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่ Follower ของแบรนด์มีโอกาสพบเห็นคอนเทนต์ได้มากขึ้นและง่ายขึ้นอีกด้วย
- Likes: การกดถูกใจบนคอนเทนต์หนึ่ง ๆ นั้นโดยเบื้องต้นแล้วหมายถึง มีผู้คนรู้สึกชอบ ถูกใจ ประทับใจ คอนเทนต์ของแบรนด์มากแค่ไหน แต่ทั้งนี้บนแพลตฟอร์มอย่าง Twitter นั้น ในบางครั้งผู้ใช้จะกดถูกใจโพสต์เพื่อเป็นการ Bookmark ข้อมูลนั้นไว้ เพื่อง่ายต่อการค้นหาเมื่อต้องการใช้ข้อมูล

ทำไมถึงไม่ควรพลาดการทำ Social Media Report
ความสำคัญของการทำ Social Media Report คือ ทีมการตลาดดิจิทัลสามารถวิเคราะห์และนำข้อมูลเหล่านั้นไปปรับใช้กับการวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ได้อย่างมีหลักการมากขึ้น เพราะการได้ข้อมูลที่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนจะช่วยให้เข้าใจกระบวนการทำงานในแคมเปญปัจจุบันได้ และสำหรับ Agency เองก็สามารถนำข้อมูลจากการทำ Social Media Report นี้ไปนำเสนอเป็นผลลัพธ์ของแคมเปญแก่ลูกค้า เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ลูกค้าในการเลือกสรรกลยุทธ์ ขั้นตอนแต่ละกระบวนการ อีกทั้งยังเป็นตัวแสดงผลกำไร (ROI) จากจำนวนเงินที่ลูกค้าลงทุนไปได้อีกด้วย
1. วัดผลการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน
การทำรายงานสรุปผลจากการทำ Social Media จะช่วยให้ธุรกิจสามารถเห็นภาพรวมของผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้เข้าถึง (Reach), การมีส่วนร่วม (Engagement), หรือผลการแปลง (Conversion) ที่เกิดจากการทำการตลาดออนไลน์บนแต่ละแพลตฟอร์ม ทำให้สามารถประเมินได้ว่ากลยุทธ์ที่ใช้ได้ผลหรือไม่
2. ช่วยในการวางแผนกลยุทธ์การตลาด
เมื่อมีข้อมูลที่ชัดเจนจากการวิเคราะห์ Social Media Report ธุรกิจสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับกลยุทธ์การตลาด เช่น การปรับเปลี่ยนเวลาที่โพสต์ เนื้อหาที่โพสต์ หรือการเลือกใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงและสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย
3. ปรับปรุงการตัดสินใจได้เร็วขึ้น
การมีรายงานที่แสดงผลการทำงานของแคมเปญต่าง ๆ ช่วยให้ทีมการตลาดสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เช่น การตัดสินใจเรื่องงบประมาณ หรือการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทันทีเมื่อพบว่าแคมเปญใดไม่ประสบผลสำเร็จ
4. สามารถติดตามแนวโน้มและพฤติกรรมของลูกค้า
รายงานสามารถแสดงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภค เช่น เวลาในการใช้งาน รูปแบบเนื้อหาที่ชอบ หรือการตอบสนองต่อแคมเปญต่าง ๆ ซึ่งสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
5. ประหยัดเวลาและทรัพยากร
การใช้ Social Media Report ที่มีข้อมูลการวิเคราะห์จากหลาย ๆ แพลตฟอร์มช่วยให้ธุรกิจไม่ต้องใช้เวลามากในการรวบรวมข้อมูลหรือประเมินผลเอง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและทรัพยากรในกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล
6. สามารถแสดงผลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
สำหรับ Agency หรือ ผู้จัดการโครงการ การทำ Social Media Report เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการนำเสนอผลลัพธ์ของแคมเปญให้กับลูกค้าหรือผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ทำให้สามารถแสดงถึงความสำเร็จหรือปัญหาที่ต้องปรับปรุง พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงการใช้ทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ
Social Media Report Tools มีอะไรบ้าง
หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจไปแล้วว่า Metric ไหนที่สามารถนำไปใช้ในการทำ Social Media Report ได้แล้วบ้าง ขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบและติดตาม Metric เหล่านั้น ซึ่งเราสามารถ Track ข้อมูลนั้นได้โดยการใช้เครื่องมือของแพลตฟอร์มนั้น ๆ เข้ามาช่วย
1. Meta Business Suite
หรืออีกชื่อเรียกคือ Facebook business manager คือเครื่องมือการทำ Social media report บน Facebook และ Instagram ที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึก (Insight) ของผู้ใช้งาน และแสดงผลได้ในหน้าต่างเดียวได้เลย

หากคุณคือเจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดที่ทำการตลาดบน Facebook และ Instagram คุณสามารถทำ Marketing report ด้วยเครื่องมือ Meta business suite ได้อย่างสะดวก เพียงแค่ไปที่ https://business.facebook.com/ และเลือกที่แถบเมนู Insights ด้านซ้ายมือ ระบบจะทำการประมวลผลให้อัตโนมัติ เพียงเท่านี้ก็ได้ข้อมูลการวัดผลแคมเปญของคุณแล้ว นอกจากนี้ยังสามารถ ส่งออกข้อมูลได้อย่าง่ายดายเพียงแค่คลิกที่ปุ่ม Export มุมขวาบนของ Chart และเลือกประเภทของไฟล์ที่ต้องการส่งออก ไม่ว่าจะเป็น .png, .csv, หรือ .pdf
และหากคุณต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องมือนี้เพิ่มเติมสามารถลองเข้าไปศึกษาได้ที่ วิธีใช้งาน Facebook business suite
2. Twitter Analytics
สำหรับแพลตฟอร์ม Twitter เองก็มีเครื่องมือในการทำ Marketing report ด้วยเช่นกัน คุณสามารถไปที่แถบเมนูที่ซ้ายมือของหน้า Home และเลือกที่เมนู Analytics

ระบบจะประมวลทั้งยอด Impression, Engagement, Link click, Retweet, Like, และ Reply ให้ตามภาพด้านล่าง นอกจากนี้ก็สามารถส่งออกข้อมูลได้โดยคลิก ‘Export data’ เพื่อส่งออกข้อมูลเป็นไฟล์ .csv

3. TikTok Analytics

สำหรับการใช้ TikTok Analytics นั้น คุณจำเป็นต้องสร้างบัญชี TikTok Business หรือ Creator เสียก่อน และเมื่อมีบัญชีข้างต้นแล้วก็สามารถเริ่มใช้เครื่องมือ TikTok Analytics ได้เลย โดยไปที่หน้าบัญชีของตัวเอง คลิกที่ไอคอน จุด 3 จุด จากนั้นเลือก Business profile หรือ Creator profile และขั้นตอนสุดท้ายคือคลิกที่ Analytics เพียงเท่านี้ TikTok จะแสดงข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ ตามภาพด้านล่าง
แต่สำหรับ TikTok นั้นมีข้อจำกัดคือ หากต้องการส่งออกข้อมูลเพื่อทำ Social media report จะต้องเข้าใช้งาน TikTok Analytics บนเดสก์ท็อป
4. Mandala Analytics

Mandala Analytics เป็น Social Listening Tools ที่สามารถวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวต่างๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube, Twitter, Instagram, TikTok และอื่น ๆ ซึ่งเครื่องมือนี้จะประมวลข้อมูลเชิงลึกของพฤติกรรมผู้ใช้ ทำให้คุณสามารถเช็กยอดการกด Like, Comment, Share, Emoji, และ Mention ได้ นอกจากนี้ยังสามารถบอกช่วงเวลาที่มี Engagement และ Mention มากที่สุดของแพลตฟอร์มได้อีกด้วย ถือว่าเป็นอีกเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับแบรนด์ที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกจากหลายแพลตฟอร์มที่ทำได้ในที่เดียว
Social Media Report ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีทิศทาง
การทำ Social Media Report นั้น ทำให้เราเห็นข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากการวิเคราะห์อย่างละเอียด แน่นอนว่าไม่เพียงแต่ทำให้สามารถวางแผนการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น แต่ยังช่วยให้สามารถติดตามผลและปรับกลยุทธ์ได้ทันเวลา การมี Social Media Report ที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยประเมินผลลัพธ์ แต่ยังเป็นการควบคุมทิศทางเกมได้อย่างมีทิศทาง ทำให้ตัดสินใจวางกลยุทธ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้น
นอกจากนี้การทำความเข้าใจเครื่องมือและแพลตฟอร์มต่าง ๆ นั้นก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน เพราะการใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยในการทำ Marketing Report ต้องเหมาะสมกับเป้าหมายทางธุรกิจและบริบททางการตลาด หากคุณยังไม่คุ้นเคยกับเครื่องมือเหล่านี้ Mandala AI. ก็มีทีมงานที่เชี่ยวชาญพร้อมกับเครื่องมือที่ชาญฉลาดมาช่วยทำ Social Media Report ให้คุณได้ด้วยเช่นกัน สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ Mandala Analytics
