การทำการตลาดในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีความมุ่งเน้นไปที่ช่องทางดิจิทัล เนื่องจากผู้คนใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับโซเชียลมีเดียและอินเทอร์เน็ต โดยการทำการตลาดแบบดิจิทัลนั้นมีทั้ง SEO และ SEM หากอยากรู้ว่า SEO กับ SEM คืออะไร ต่างกันอย่างไร และควรทำควบคู่กันหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
การทำ SEO คืออะไร
“SEO” หรือ Search Engine Optimization หมายถึง กระบวนการปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีคุณภาพสอดคล้องกับเกณฑ์ของ Search Engine อย่าง Google, Bing, หรือ Yahoo! เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ ในผลการค้นหา โดยไม่ต้องทำการโฆษณาแบบมีค่าใช้จ่าย
การทำ SEM คืออะไร
“SEM” หรือ Search Engine Marketing หมายถึงกระบวนการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Search Engine เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ปรากฏในผลการค้นหาตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น คำค้นหา ตำแหน่งของโฆษณา งบประมาณที่ใช้ และอื่น ๆ โดยโฆษณา SEM นั้นมีหลากหลายรูปแบบ เช่น Search Ads, Text Ads, Display Ads, และ Video Ads เป็นต้น
เปรียบเทียบ SEO vs SEM
SEO กับ SEM ต่างกันอย่างไร? เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ ซึ่งแม้ว่าทั้ง SEO และ SEM นั้นจะเป็นกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย และการเป็นที่รู้จัก รวมถึงช่วยให้ธุรกิจปรากฏในผลการค้นหาบนอินเทอร์เน็ตเหมือนกัน แต่ทั้งสองกลยุทธ์ก็มีความแตกต่างกันอยู่ ในด้านเป้าหมาย ผลลัพธ์ ระยะเวลาที่ใช้ ค่าใช้จ่าย รวมถึงความยั่งยืนของผลลัพธ์ที่มีต่อแบรนด์ด้วยเช่นกัน
SEO | SEM |
เป็นการเพิ่มอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาตามธรรมชาติโดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา | เป็นการโฆษณาเพื่อดึงดูดผู้เข้าชมเว็บไซต์โดยตรง |
เป็นการตลาดแบบ Organic ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม | เป็นการซื้อโฆษณารูปแบบหนึ่ง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม |
ใช้เวลานานกว่าในการเห็นผลลัพธ์ | เห็นผลลัพธ์ชัดเจนในเวลาไม่นาน |
วัดผลความสำเร็จได้ยากกว่า | วัดผลความสำเร็จได้ง่ายกว่าด้วยจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์จากโฆษณาแต่ละตัว |
ผลลัพธ์ที่ได้ยั่งยืนมากกว่า | ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ยั่งยืน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการทำโฆษณาเท่านั้น |
การทำ SEO ควบคู่กับ SEM ดีอย่างไร
- ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
ข้อดีของการทำ SEO ควบคู่กับ SEM คือการช่วยให้คุณครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ทั้งผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจ และกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจเฉพาะเจาะจง
- เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
เนื่องจากการทำ SEO ใช้เวลานานกว่า SEM แต่ผลลัพธ์จะยั่งยืนกว่า ดังนั้นการทำทั้ง 2 อย่างควบคู่กันจะช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่องมากกว่า
- ประหยัดกว่าการทำ SEM เพียงอย่างเดียว
การทำ SEO ไปพร้อม ๆ กับการทำ SEM จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดได้ เนื่องจากการทำ SEO มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการทำ SEM ในระยะยาว
เทคนิคที่ควรรู้ในการทำ SEO ควบคู่กับ SEM
1. กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน
ธุรกิจควรกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการทำ SEO และ SEM ให้ชัดเจน เช่น ต้องการเพิ่มยอดขาย ต้องการเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์ ต้องการเพิ่มยอดเข้าชมเว็บไซต์ หรือต้องการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า เพื่อให้สามารถวางแผนการทำ SEO และ SEM ได้อย่างเหมาะสม
2. ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเทรนด์ และคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาเยอะ
การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และช่วยให้เลือกคำค้นหาที่กลุ่มเป้าหมายใช้ค้นหาข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการทำ SEO และ SEM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. เลือกคีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาให้เข้ากับธุรกิจและสินค้าสำหรับการทำ SEO และ SEM
การเลือกคีย์เวิร์ดถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่มีผลต่อความสำเร็จของการทำ SEO และ SEM มากที่สุด โดยธุรกิจควรเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ ธุรกิจของคุณ รวมถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจ และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณด้วย
4. สร้างเนื้อหาและลิงก์ที่มีคุณภาพ
เนื้อหาและลิงก์ที่มีคุณภาพ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำ SEO และ SEM โดยธุรกิจควรสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ มีประโยชน์ และสอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เนื้อหาของธุรกิจปรากฏในผลการค้นหา พร้อมกับการสร้างลิงก์คุณภาพจากเว็บไซต์อื่น ๆ มายังเว็บไซต์ของคุณเพื่อให้มีคะแนน SEO ที่ดีขึ้น
5. ยิงโฆษณาหลากหลายรูปแบบให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
เนื่องจากการทำ SEM นั้นมีรูปแบบโฆษณาให้เลือกหลายประเภท ธุรกิจจึงควรยิงโฆษณาหลากหลายรูปแบบเพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้ได้มากขึ้น โดยควรเลือกรูปแบบโฆษณาให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ด้วย
6. ติดตามผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจควรติดตามผลการทำ SEO และ SEM อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการเรียนรู้กลยุทธ์ที่ได้ผลดี และไม่ดี เพื่อนำมาปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
จะเห็นได้ว่าคีย์เวิร์ดคือปัจจัยที่สำคัญในการทำ SEO และ SEM ให้สำเร็จ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดและคำค้นหาที่กำลังมาแรงสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ ลองเลือกใช้เครื่องมือดี ๆ จาก Mandala AI อย่าง Mandala Analytics เลย ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเราได้เลย ที่
https://www.mandalasystem.com/contact_us
ข้อมูลอ้างอิง:
- SEO vs SEM: What’s the Difference?. สืบค้นวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567
- SEO Vs. SEM: How The Two Work Together To Optimize Brand Visibility. สืบค้นวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567