การขายของออนไลน์นั้น แม้จะเป็นอาชีพอิสระที่สร้างรายได้แบบเป็นกอบเป็นกำ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความท้าทายหลากหลายที่เหล่าพ่อค้าแม่ขายบนโลกออนไลน์ต้องเผชิญ โดยเฉพาะในด้านการจัดการสต็อกสินค้า ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสต็อก และคำสั่งซื้อได้ก็คือ รหัส SKU นั่นเอง ในบทความนี้เราจะพาคุณมาหาคำตอบกันว่า รหัส SKU คืออะไร มีกี่ประเภท และมีประโยชน์อย่างไร ซึ่งหากคุณอยากให้ร้านค้าออนไลน์ของตัวเองขายดี มีกำไร และเติบโตอย่างมั่นคง นี่คือเคล็ดลับที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด !
SKU คืออะไร ?
รหัส SKU ย่อมาจาก Stock Keeping Unit เป็นรหัสเฉพาะที่ใช้ระบุชนิดของสินค้าแต่ละรายการในคลังสินค้า โดยเป็นการกำหนดรหัสสินค้านั้นขึ้นเองภายในองค์กร ทำให้สามารถแบ่งประเภทสินค้าได้ละเอียด แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดังนั้น นอกจากจะทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการสต็อกแล้ว ยังช่วยให้สามารถสื่อสารภายในองค์กรได้อย่างราบรื่น คล่องตัว จะติดตามสินค้าจากลูกค้าก็สามารถทำได้สะดวก โดยข้อควรระวังในการตั้งรหัส SKU คือต้องไม่ให้ซ้ำกัน ป้องกันการเกิดความผิดพลาดในการจัดส่งและเช็กจำนวนสินค้าคงคลังนั่นเอง
รหัส SKU มีกี่ประเภท ?
ในการแบ่งประเภทของรหัส SKU นั้น โดยทั่วไปจะแบ่งประเภทตามอักขระที่ใช้ระบุรายละเอียดของสินค้า ซึ่งที่ผู้ประกอบการนิยมใช้กันเป็นวงกว้าง มีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ ตัวเลข, ตัวอักษรภาษาไทย และตัวอักษรภาษาอังกฤษ
- กำหนด SKU เป็นตัวเลข สามารถระบุตัวเลขได้ตามต้องการ แต่ควรหลีกเลี่ยงการขึ้นต้นด้วยเลข 0 เนื่องจากไม่สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมอื่นได้ เช่น Microsoft Excel
- กำหนด SKU เป็นตัวอักษรภาษาไทย เช่น การใช้พยัญชนะตัวแรกของชื่อสินค้า ชื่อสี
- กำหนด SKU เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ อาจเป็นตัวย่อของชื่อสินค้า ชื่อสี หรือขนาดเช่นเดียวกับภาษาไทย
อยากตั้งรหัส SKU และชื่อสินค้าให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจง่าย เพิ่มความสะดวกในการสั่งซื้อและปิดการขาย ต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายให้ดีเสียก่อน โดยคุณสามารถใช้เครื่องมือ Social Listening ติดตามความสนใจของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นความสนใจในขณะนั้น แฮชแท็กที่เป็นที่นิยม รวมถึงความต้องการและข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ ที่ล้วนแต่เป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจทั้งสิ้น

ประโยชน์ของการใช้รหัส SKU
ในการตั้งรหัส SKU สำหรับใช้ในองค์กรหรือร้านค้าของตัวเองนั้น บอกเลยว่ามีประโยชน์ต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก โดยเราสามารถสรุปประโยชน์ในการใช้รหัส SKU ให้เห็นภาพได้ ดังนี้
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตามและจัดการสินค้าคงคลัง ทำให้รู้ว่ามีสินค้าแต่ละประเภทอยู่เท่าไหร่ แล้วควรสั่งซื้อหรือสั่งผลิตสินค้าใดเพิ่มเติมบ้าง
- ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขายสินค้าแต่ละรายการ รวมถึงพฤติกรรมของผู้ซื้อ เช่น ยอดขาย เทรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจจากลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำไปต่อยอดการพัฒนาสินค้าให้โดนใจยิ่งขึ้น
- ลดข้อผิดพลาดในการจัดการสินค้า เช่น สินค้าสูญหาย สินค้าไม่พอจำหน่าย
- เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหาสินค้าและจัดวางสินค้าได้ดียิ่งขึ้น สามารถหยิบจับสินค้าได้รวดเร็วในเวลาที่ต้องการ
- สร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ดีให้แก่ลูกค้า เพราะได้สินค้าที่ตรงใจและถูกต้องตามความต้องการ
วิธีตั้ง SKU ง่าย ๆ เพื่อผู้ขายยุคใหม่
เมื่อรู้แล้วว่ารหัส SKU คืออะไร มีกี่ประเภท และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง ต่อไปคือวิธีการตั้ง SKU ด้วยตัวเองกันบ้าง โดยการตั้ง SKU ของผู้ขายส่วนใหญ่ คือการใช้เทคนิคเหล่านี้
- กำหนดโครงสร้างรหัส SKU ว่า ตัวอักษรและตัวเลขแต่ละตัวในรหัสหมายถึงอะไร เช่น
- ตัวอักษรตัวแรก หมายถึงประเภทสินค้า
- ตัวเลขสองตัวถัดมา หมายถึงขนาด
- ตัวอักษรสองตัวสุดท้าย หมายถึงสี
- กำหนดจำนวนตัวอักษรและตัวเลขที่จะใช้ในรหัส SKU โดยควรมีความยาว 6-16 ตัวอักษร
- ตั้งชื่อ SKU ที่เข้าใจง่าย และสามารถจดจำได้ง่าย หลีกเลี่ยงการใช้ตัวอักษรที่อาจทำให้สับสนกับตัวเลข เช่น 1, I และ L และหลีกเลี่ยงการใช้สัญลักษณ์พิเศษ เช่น !@#$%^&*()
นอกจากรหัส SKU ที่ช่วยในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังแล้ว อีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการสต็อกสินค้าได้ดี นำไปสู่การสร้างความประทับใจให้ลูกค้าและกระตุ้นยอดขายให้เติบโตอย่างยั่งยืน คือการติดตามเทรนด์ที่กำลังมาแรงนั่นเอง ดังนั้น หากอยากรู้ว่าจะขายของออนไลน์อะไรดี ช่วงไหนควรสต็อกสินค้าอะไร เครื่องมือ Mandala Cosmos และ Mandala Analytics จาก Mandala AI สามารถตอบโจทย์คุณได้แน่นอน สามารถลงทะเบียนทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง:
- SKU คืออะไร หาคำตอบความหมายและความสำคัญ. สืบค้นวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 จาก https://packhai.com/what-is-sku
- ทำความรู้จักกับสินค้า SKU. สืบค้นวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 จาก https://pospos.co/article/detail/get-to-know-sku
