Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

CPM คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการโฆษณา

CPM คืออะไร สำคัญอย่างไรกับการโฆษณา

CPM คืออะไร

CPM (Cost per 1000 Impressions) หมายถึง ต้นทุนราคาที่เราต้องจ่าย ต่อการแสดงผลโฆษณา 1,000 ครั้ง จัดเป็นโมเดลขั้นพื้นฐานในการซื้อโฆษณาเมื่อทำการตลาดออนไลน์ และเหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภทที่ต้องการเข้าถึงฐานผู้บริโภคจำนวนกว้าง เพื่อสร้างความตระหนักรู้ (Awareness) ให้กับแบรนด์ของตัวเอง

CPM เป็นหนึ่งใน Buying Model ที่ทุกแพลตฟอร์มระดับโลกใช้ในการคิดค่าโฆษณา ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, YouTube, TikTok หรือ LINE ดังนั้น CPM จึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่นักการตลาดในยุคดิจิทัลควรรู้จักเป็นอย่างยิ่งครับ

CPM สำคัญอย่างไรกับโฆษณา

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า CPM คือ ต้นทุนราคาต่อการแสดงผลโฆษณา 1,000 ครั้ง นั่นหมายความว่า CPM คือตัวกำหนดความคุ้มค่าของการทำโฆษณา 

หากเราจ่าย CPM ในราคาที่สูง เท่ากับว่าเราต้องใช้เงินจำนวนมากกว่าเพื่อให้โฆษณาของเราถูกส่งออกไปหาผู้บริโภค ดังนั้นนักการตลาดส่วนใหญ่จึงพยายามคุมราคา CPM ให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อส่งโฆษณาออกไปให้ได้มากที่สุด ด้วยงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด

mandala banner

ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา CPM

3 ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อราคาของ CPM มีดังนี้

1. ความเฉพาะเจาะจงของกลุ่มเป้าหมายในการโฆษณา

ยิ่งเราจำกัดเพศ อายุ พื้นที่อยู่อาศัย และความสนใจของกลุ่มเป้าหมายมากเท่าไร ราคา CPM ที่จะต้องจ่ายก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ดังนั้นจึงแนะนำให้หาสมดุลระหว่างราคา CPM กับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าถึง ที่สำคัญต้องมีความสอดกับสินค้าหรือบริการที่ต้องการโปรโมท

2. เป้าหมายในการทำโฆษณา

CPM เหมาะกับการซื้อโฆษณาเพื่อ Brand Awareness หรือเน้นการเข้าถึง หากเป้าหมายของการทำโฆษณาเป็นจำนวนการดูวิดีโอ (Video views), การเข้าชม Website (Traffic) หรือการขาย (Purchase) ราคาของ CPM ก็อาจสูงกว่าการซื้อ Brand Awareness หลายเท่า

3. ระยะเวลา

ระยะเวลาในการทำแคมเปญโฆษณาที่สั้นจะส่งผลให้ CPM สูงขึ้น ดังนั้นนักการตลาดควรวางแผนการทำแคมเปญให้นานขึ้น เพื่อให้ระบบมีเวลาในการส่งโฆษณาออกไปมากขึ้น

สูตรการหาค่า CPM

หากงบประมาณในการทำโฆษณาคือ 1,000,000 บาท และจำนวน Impression หรือการแสดงผลของโฆษณาอยู่ที่ 50,000,000 ครั้ง CPM จะเท่ากับ (1,000*1,000,000)/50,000,000 หรือ 20 บาท 

ในทางกลับกัน หากเรามีตัวเลข CPM และจำนวน Impression ที่ต้องการในใจ และต้องการหางบประมาณในการทำโฆษณาที่เหมาะสม ก็สามารถทำได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น

Target CPM = 25 บาท

Target Impressions = 65,000,000 
วิธีการคำนวณคือ 25*(65,000,000/1000) เท่ากับ 1,625,000 บาท

CPM แตกต่างกับ CPA และ CPC อย่างไร

  • CPM หรือ Cost per 1,000 Impressions เป็นวิธีการคิดค่าโฆษณาต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง จึงเหมาะกับการทำโฆษณาที่มีเป้าหมายในการสร้างความตระหนักรู้ (Awareness) และการเข้าถึง (Reach) เพราะเป็นการซื้อที่เน้นควบคุม จำนวนการแสดงผล เป็นหลัก 
  • CPC หรือ Cost per Click เป็นวิธีการคิดค่าโฆษณาต่อคลิก จึงเหมาะกับการทำโฆษณาที่มีเป้าหมายเป็นการเข้าชม Website (Traffic) เพราะเป็นการซื้อที่เน้นควบคุม จำนวนคลิก เป็นหลัก
  • CPA หรือ Cost per Action เป็นวิธีการคิดค่าโฆษณาต่อ 1 Action ซึ่ง Action นั้นจะเป็นอะไรก็แล้วแต่กำหนด เช่น การลงทะเบียน (Registration) การดาวน์โหลดแอป (App Installation) หรือการติดตาม (Subscription) จึงเหมาะกับการทำโฆษณาที่มีเป้าหมายเป็น Conversion เพราะเป็นการซื้อที่เน้นควบคุม จำนวน Action เป็นหลัก
mandala banner

สรุป

CPM ยังคงเป็น Buying Model ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในการทำแคมเปญเพื่อ Brand Awareness ในบทความเราได้รวบรวมทั้งประโยชน์ต่อการโฆษณา ปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้ CPM มีราคาแพง รวมถึงการคำนวณ CPM และความแตกต่างระหว่างโมเดล CPM กับ CPC และ CPA มาให้แล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับนักการตลาดออนไลน์ทุกคนนะครับ

  • หมวดหมู่ :
สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.