Mega Influencer กับ Nano Influencer เลือกแบบไหนถึงจะเหมาะ

Mega Influencer คืออะไร

Mega Influencer คือ อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามบนช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งจำนวนมากกว่า 1 ล้านคนขึ้นไป มักจะเป็นกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงระดับดารานักแสดง นายแบบ/นางแบบ หรือนักกีฬาระดับประเทศ เรียกว่าถ้าเลือกจ้างอินฟลูเอนเซอร์ระดับ Mega แล้ว แทบไม่มีใครที่ไม่รู้จักครับ

Nano Influencer คืออะไร

Nano Influencer คือ อินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามบนช่องทางโซเชียลมีเดีย หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งประมาณ 1,000-5,000 คน ส่วนมากมักจะเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไปที่มีอิทธิพลกับผู้ติดตามของตัวเอง ซึ่งจะต่างกับ Mega Influencer โดยสิ้นเชิง

ปัจจุบัน Nano Influencer กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบนช่องทาง TikTok ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจ และไวรัลได้ด้วยตัวเองครับ

Mega Influencer แตกต่างกับ Nano Influencer อย่างไร

• จุดประสงค์ในการจ้างงาน

Mega Influencer จะทำงานได้ดีในส่วนของการสร้างการรับรู้ (Awareness) ในระดับสาธารณะ สามารถเข้าถึงคนได้ในวงกว้าง แต่อัตราการมีส่วนร่วม (Engagement rate) อาจจะไม่สูงมากเมื่อเทียบสัดส่วนกับจำนวนคนที่เข้าถึง

สำหรับ Nano Influencer จะเหมาะกับการสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) หรือการซื้อขาย (Purchase) มากกว่า เนื่องจากกลุ่มผู้ติดตามของ Nano Influencer มักจะเป็นกลุ่มคนรู้จัก หรือติดตามด้วยความสนใจในตัวอินฟลูเอนเซอร์จริงๆ แต่ด้วยความที่จำนวนผู้ติดตามมีไม่เยอะ จึงไม่เหมาะกับการทำ Brand Awareness นัก

• ลักษณะของคอนเทนต์

Mega Influencer เหมาะกับการสร้างคอนเทนต์ระดับ Mass คือไม่มีการเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยชัดเจน ส่วนมากจะเป็นการถ่ายวิดีโอ หรือโฆษณาร่วมกับสินค้านั้นๆ ตัวอย่างเช่น TVC โฆษณาจากแบรนด์ต่างๆ หรือ Content Partnership ตามโซเชียลมีเดียของดาราแต่ละท่าน

ส่วน Nano Influencer จะเหมาะกับโพสต์ที่มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า เพราะต้องสื่อสารกับกลุ่มผู้ติดตามของตัวเองเป็นหลัก โดยส่วนมากคอนเทนต์จาก Nano Influencer จะมีลักษณะเป็นรีวิวสินค้า โดยมี Mood & Tone ที่ใกล้เคียงกับโพสต์อื่นๆ ที่ลงบนช่องทางของอินฟลูเอนเซอร์แต่ละท่านเพื่อความสมจริง

ค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน

การจ้าง Mega Influencer โดยส่วนมากจะเป็นไปตาม Rate Card และต้องมีการตกลง Scope of Work อย่างละเอียด เช่น ระยะสัญญา ลงช่องทางไหนบ้าง มีงานอีเวนต์ที่ต้องเข้าร่วมกี่ครั้ง มีงาน Meet & Greet หรือไม่ ดีเทลเหล่านี้ บวกกกับจำนวนผู้ติดตามและความนิยม จะเป็นตัวกำหนดราคาค่าจ้างอินฟลูเอนเซอร์ระดับ Mega ซึ่งมีตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท 

สำหรับ Nano Influencer สโคปในการจ้างจะมีหลายรูปแบบ อาจจะเป็นเหมาจ่ายต่อโพสต์ (Pay per Post) จ่ายต่อเมื่อเกิดการขาย (Affiliate) หรือจะเป็นในรูปแบบของการให้สินค้าไปใช้ฟรีแทนการจ่ายเงิน (Gifting) ก็สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับการเจรจา ซึ่งค่าตัวของ Nano Influencer ก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนหลักหมื่นบาท

คุณภาพของคอนเทนต์

คอนเทนต์ที่มาจาก Mega Influencer มักจะมีคุณภาพสูง เนื่องจากอินฟลูเอนเซอร์ระดับ Mega มักมีค่ายหรือผู้จัดการคอยช่วยดูแล มีประสบการสูง และมีความเป็นมืออาชีพ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานโดยปกติอยู่แล้ว โดยคอนเทนต์จาก Mega Influencer มักผ่านการตรวจสอบคุณภาพหลายครั้ง ทั้งจากทางต้นสังกัด และฝั่งแบรนด์ที่ร่วมงาน เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของทั้งสองฝ่าย และเพื่อความเหมาะสมสำหรับการโปรโมทมนระดับสาธารณะ

ส่วนคอนเทนต์ที่มาจาก Nano Influencer มักจะมีคุณภาพสู้ Mega Influencer ไม่ได้ เนื่องจากนาโนอินฟลูเอนเซอร์เองก็เป็นคนธรรมดาที่อาจจะทำงานประจำอย่างอื่น และไม่ได้มีประสบการณ์เรื่องการถ่ายทำคอนเทนต์มากนัก หรือหากเป็นการจ้างแบบ Affiliate หรือให้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ฟรี แบรนด์อาจไม่สามารถควบคุมลักษณะหรือทิศทางของคอนเทนต์ได้มากนัก

ตัวอย่าง Mega Influencer ในประเทศไทย

สรุป

ทั้ง Mega Influencer และ Nano Influencer ล้วนเป็นส่วนสำคัญในการทำการตลาดโดยเฉพาะในยุคดิจิทัล โดยอินฟลูเอนเซอร์ทั้งสองประเภทก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ดังนั้นนักการตลาดจึงควรพิจารณางบประมาณ และจุดประสงค์ในการทำแคมเปญ ก่อนจะเลือกจ้างอินฟลูเอนเซอร์ที่เหมาะสมครับ