หากคุณคือเจ้าของธุรกิจที่กำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการเพิ่มยอดขาย และช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด Lead Generation คือกลยุทธ์การตลาดที่ไม่ควรมองข้าม เพราะกลยุทธ์นี้จะช่วยดึงดูดลูกค้าที่มีความสนใจในสินค้าและบริการของเรา ให้กลายมาเป็นผู้ซื้อ และช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย มาดูกันว่า Lead Generation คืออะไร และมีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง พร้อมแนะนำเครื่องมือ Mandala Cosmos จาก Mandala AI เครื่องมือที่จะช่วยรวบรวมความสนใจของลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาเป็นกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ
ยิงแอดได้ตรงจุดกว่าเดิม สมัครใช้ Mandala AI เลย
Lead Generation คืออะไร
เชื่อว่าเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ในยุคนี้ เข้าใจเป็นอย่างดีว่าพฤติกรรมของลูกค้าได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้กลยุทธ์การตลาดแบบเก่าที่เน้นการ Hard Sale หรือการตามติดลูกค้าแบบประชิดตัวเพื่อเสนอขายสินค้า กลายเป็นกลยุทธ์ที่ไม่ได้ผลอีกต่อไป ทั้งยังเป็นจุดที่ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกในแง่ลบต่อแบรนด์อีกด้วย
ลองนึกภาพง่าย ๆ ว่า เวลาที่เราเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้า แล้วต้องเจอกับบรรดาเซลส์จากร้านต่าง ๆ ที่เข้ามายัดเยียดโปรโมชันใส่มือ เจอแบบนี้ไม่ว่าใครก็คงจะรู้สึกอึดอัดใจ ด้วยเหตุนี้ เจ้าของธุรกิจยุคใหม่ จึงต้องมองหากลยุทธ์ที่จะตอบโจทย์ทั้งในด้านการสร้างยอดขาย และต้องเป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้โดยที่ไม่ทำให้ลูกค้าเกิดความไม่สบายใจ ซึ่ง Lead Generation ก็คือกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ทั้งสองข้อนี้ได้เป็นอย่างดี
Lead Generation คือ กระบวนการดึงดูดลูกค้าที่มีแนวโน้มจะสนใจในสินค้าและบริการของเราให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ซึ่งกลยุทธ์นี้จะไม่ใช่วิธี Hard Sale แต่เป็นการนำเสนอสินค้าและโปรโมชันให้ลูกค้าเกิดความสนใจ หากลูกค้าเหล่านั้นคือกลุ่มที่ใช่ ก็จะเป็นฝ่ายติดต่อเข้ามาหาเราด้วยตัวเอง ทำให้เราสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้น และยังทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจในตัวแบรนด์ จนเกิดการบอกต่อ เป็นโอกาสที่จะช่วยให้เราได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
ประโยชน์ของการทำ Lead Generation
- ช่วยให้ผู้คนเกิดความสนใจในสินค้าและบริการของเรา จนกลายมาเป็นลูกค้าที่เกิดการซื้อจริง
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงตามเป้า ไม่ต้องเสียเวลาติดต่อกับคนที่อาจไม่ได้สนใจในสินค้าและบริการของเรา
- ช่วยลดต้นทุนการทำโฆษณา เพราะได้รู้ว่าควรจะลงงบประมาณไปกับลูกค้ากลุ่มใด
- ช่วยให้ได้รับข้อมูลของลูกค้า เพื่อที่ฝ่ายขายจะได้นำเสนอโปรโมชันต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถสร้างความสัมพันธ์เพื่อกลายเป็นลูกค้าประจำในระยะยาว
- ช่วยเพิ่มยอดขาย และช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
ขั้นตอนการทำ Lead Generation ฉบับเข้าใจง่าย
- เริ่มต้นจากการดึงดูดลูกค้าด้วยคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ชูจุดขายของสินค้าและบริการอย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าหยุดดู และอยากจะเข้ามาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
- ทำหน้า Landing Page ที่มีข้อมูลชัดเจน ให้ลูกค้าที่สนใจในขั้นแรก สามารถอ่านแล้วเข้าใจถึงรายละเอียดสินค้าและโปรโมชันได้ครบถ้วน เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- ในหน้า Landing Page นั้น จะต้องมี Call to Action ที่ดึงดูดใจ เช่น คลิกเพื่อรับสิทธิ์, คลิกเพื่อทดลองใช้ฟรี โดยแลกกับการที่ลูกค้าจะต้องกรอกข้อมูลการติดต่ออย่างชื่อและเบอร์โทรศัพท์
- ในส่วนท้ายของ Landing Page ควรระบุช่องทางการติดต่อของแบรนด์ให้ครบถ้วน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าไปติดตาม และติดต่อไปสอบถามหรือปรึกษาเพิ่มเติมได้
- หลังจากที่ได้ Leads มาแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายขายที่ต้องติดต่อกลับไป เพื่อปิดการขายให้เร็วที่สุด ซึ่งในจุดนี้แนะนำว่าไม่ควรทิ้งเวลาไว้นาน ยิ่งติดต่อกลับไปเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสที่จะปิดการขายได้มากขึ้นเท่านั้น
พิจารณาอย่างไรว่าคนไหนคือ Leads ที่ใช่สำหรับเรา
- ลักษณะของ Leads ที่กรอกข้อมูลเข้ามา
ในเบื้องต้น หากเราอยากรู้ว่า จาก Leads ทั้งหมดที่กรอกข้อมูลเข้ามานั้น มีใครบ้างที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่เรากำลังมองหา ให้เราพิจารณาจากข้อมูลที่ได้รับ
เช่น หากสินค้าของเราเป็นรถยนต์ คนที่มีแนวโน้มว่าจะมาเป็นลูกค้าของเรา ก็ควรจะเป็นพนักงานบริษัท ที่มีเงินเดือนประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป เพราะเราสามารถคาดเดาได้ว่า เป็นผู้ที่มีความจำเป็นในการใช้รถ และมีรายได้ในระดับที่สามารถผ่อนชำระรายเดือนได้
- การมีส่วนร่วมกับแบรนด์
นอกจากการพิจารณาข้อมูลในเบื้องต้นแล้ว เรายังสามารถหา Leads ที่ใช่ได้ด้วยการดูว่าคนเหล่านั้นเคยมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของเราหรือไม่ เช่น รู้จักแบรนด์อยู่แล้ว, เคยใช้สินค้าและบริการ หรือ มีการติดตาม Social Media ของแบรนด์อยู่ในปัจจุบัน หากเป็น Leads ในกลุ่มนี้ ก็มีแนวโน้มที่เซลส์จะปิดการขายได้สูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เรารู้ได้ว่า ลูกค้าคนไหนที่มีแนวโน้มจะสนใจในแบรนด์ของเรา นั่นก็คือการใช้เครื่องมือ Mandala Cosmos จาก Mandala AI เพื่อดูว่าลูกค้าพูดถึงเราอย่างไร แถมยังสามารถใช้เพื่อตามติดความเคลื่อนไหวของคู่แข่งได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ยิงแอดได้ตรงจุดกว่าเดิม สมัครใช้ Mandala AI เลย
3 ตัวอย่างการทำ Lead Generation
จากขั้นตอนการทำ Lead Generation ที่เราได้แนะนำไปข้างต้นนี้ น่าจะช่วยให้หลาย ๆ คนเริ่มมองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น แต่ใครที่ยังนึกไม่ออก มาดูสรุปการทำ Lead Generation พร้อมตัวอย่างกันได้เลย
- มอบคูปองส่วนลด
การมอบคูปองส่วนลด ถือเป็นวิธีที่ง่ายและสามารถดึงดูดลูกค้าได้อย่างดีที่สุด โดยแบรนด์อาจใช้วิธีมอบคูปองส่วนลดสำหรับการสั่งซื้อสินค้าครั้งแรก แลกกับการสมัครสมาชิกบนเว็บไซต์ วิธีนี้จะช่วยให้แบรนด์ได้ทั้งยอดขาย และได้ข้อมูลลูกค้าไปพร้อมกัน!
- แจกสินค้าทดลองใช้
อีกหนึ่งวิธีที่สามารถดึงความสนใจจากลูกค้าได้ดีไม่แพ้กัน นั่นก็คือการแจกสินค้าทดลองใช้ โดยสามารถทำได้ทั้งการให้ลูกค้ากรอกข้อมูลบนเว็บไซต์ แล้วทางแบรนด์จัดส่งสินค้าไปให้ที่บ้าน หรือเป็นการที่แบรนด์ไปออกบูทโปรโมตสินค้าใหม่ และแจกสินค้าตัวอย่างฟรี แลกกับการลงทะเบียนเล็ก ๆ น้อย ๆ
- รับบริการฟรีในครั้งแรก
นอกจากคูปองส่วนลดและสินค้าฟรี การมอบบริการฟรีในครั้งแรก ก็เป็นวิธีที่เรียกความสนใจจากลูกค้าได้ดีเสมอ โดยอาจแลกกับการสมัครสมาชิก หรือกรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้กับทางแบรนด์ นอกจากแบรนด์จะได้ข้อมูล Leads แล้ว หากลูกค้าเกิดความประทับใจในบริการ ก็อาจเกิดการแนะนำต่อ หรือกลายมาเป็นลูกค้าประจำได้เลยทีเดียว
สำหรับเจ้าของธุรกิจใดที่อ่านมาถึงตรงนี้ และเริ่มมองเห็นโอกาสในการปั้นธุรกิจให้เติบโตด้วยกลยุทธ์ Lead Generation สามารถเริ่มต้นการทำ Lead Generation อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย Mandala AI เครื่องมือการตลาดอัจฉริยะที่จะช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย เพื่อนำมาวิเคราะห์และพัฒนาเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุด ด้วยการทำ Content Marketing เพื่อดึงดูดใจเพื่อส่ง Traffic ไปยังหน้า Landing Page ที่ลูกค้าจะทำการซื้อสินค้าของเรา ทดลองใช้ฟรีได้แล้ววันนี้ ปรึกษาเราได้เลย
ยิงแอดได้ตรงจุดกว่าเดิม สมัครใช้ Mandala AI เลย
