เริ่มศักราชใหม่ สุขภาพผิว สุขภาพหน้าก็ต้องปังต้องรับปังซักหน่อย ยิ่งเรื่องฝุ่น เรื่องอากาศ สภาพแดด แถมมลภาวะอีก หากปีที่แล้วขาดตกบกพร่องการดูแลผิว ปี 2024 นี้ ห้ามพลาดเลยทีเดียว เพราะวันนี้เราจะพามาดูเทรนด์ความงาม บุกตลาดเครื่องสำอาง 2567 กันหน่อยว่ามีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวไหนกำลังมา มีครีมยี่ห้อไหนกำลังเข้าตา หรือทรีตเมนต์ตัวไหนคาดว่าจะปังในปี 2024 นี้ ถ้าพร้อมดูแลผิว พร้อมบำรุงใบหน้าให้ปังแล้ว ตามมาดูไปพร้อมกันเลย
10 เทรนด์ความงาม ตลาดเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวในปี 2024
1. เทรนด์ฟื้นบำรุง ปกป้องผิว
นับเป็นเทรนด์ความงามที่เน้นการดูแลสภาพผิว ฟื้นบำรุงผิวเป็นพิเศษ มีคอนเซ็ปท์คือปกป้องผิวไว้ก่อน ก่อนจะฟื้นบำรุงผิว ด้วยคุณภาพที่สกินแคร์มีมากขึ้น เทรนด์นี้จึงเป็นการป้องกันก่อนจะเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ขึ้นมาในอนาคตนั่นเอง แถมยังคงฟื้นบำรุงเพื่อรองรับการแต่งหน้าอีกด้วย เพราะหากต้องการแต่งหน้าให้สวย ก็ต้องการผิวที่สุขภาพดีมาก่อน แน่นอนว่าย่อมเน้นการบำรุงสุขภาพผิวจากภายในด้วยนั่นเอง
2. คิ้วเป็นทรงเสริมความปัง
นับว่าเป็นเทรนด์ความงามที่น่าจับตามองในปี 2024 อาจจะด้วยเทคโนโลยีกล้อง Smart Phone และความนิยมในการเซลฟีไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือวีดีโอ ทำให้เครื่องหน้าโดยเฉพาะคิ้วนั้นเป็นที่นิยมที่หลายคนให้ความสนใจในปีนี้อีกด้วย แน่นอนว่าเครื่องสำอาง เมคอัพที่เสริมความงามโดยเฉพาะที่คิ้วนั้นจะกลับมาเป็นที่ฮอตฮิตน่าจับตามองอยู่ดี ไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์การตัดแต่งคิ้ว ไปจนถึงเจลปัดขนคิ้วเพื่อล็อคให้อยู่ทรง
3. เทรนด์เล็บแดงเชอร์รี่
จากเทรนด์ทาสีเล็บเพียงแค่ปลายเล็บสไตล์ ‘French Nail’ เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่แสดงถึงความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มความเก๋ด้วยลวดลาย และสีสันต่าง ๆ นั้น มาในปีนี้เทรนด์การทาเล็บจะกลับไปสู่เล็บสีแดงเชอร์รี ที่ให้ความรู้สึกเป็นสาวมั่นทันสมัย มีพลัง เรียกว่าเรียบหรู ดูแพงมากขึ้นด้วย หรือจะเพิ่มลวดลายผสมกับความวิ้งวับ หรือทำเป็นสีลูกแก้ว ก็ช่วยเพิ่มความปังให้กับเทรนด์ทาเล็บสีแดงลูกเชอร์รีได้เลยทีเดียว
4. การกลับมาของผิวแมตต์
แน่นอนว่าความฉ่ำวาว เป็นเทรนด์ที่เฉิดฉายมาในปีที่แล้ว เทรนด์ในปีนี้จึงยังคงความฉ่ำในบางจุด แต่ก็มาพร้อมกับการลดโทนลงมาแต่ยังคงคอนเซ็ปท์ความเป็นธรรมชาติซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเทรนด์หลักของปีนี้เลยทีเดียว การเลือกใช้ลิป เลือกโทนผิว จึงออกมาในแนวทางที่โชว์สุขภาพผิวดี เน้นความธรรมชาติ เทรนด์ผิวแมตต์จึงกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง แต่ยังสามารถสอดแทรกความฉ่ำวาวได้ในบางจุด ซึ่งพอดู ‘Finished Look’ แล้วจะให้ความเป็น ‘Soft-Matte Skin’ รับเทรนด์ผิวปีนี้ได้เลย
5. เพิ่มความเปรี้ยวปังกับการแต่งหน้ายุค 80’s
แน่นอนว่าเมื่อความธรรมชาติและการเผยผิวสุขภาพดี แต่งหน้ายังไงให้ดูเหมือนไม่แต่งจะได้รับความนิยมแล้วนั้น การแต่งหน้าที่ผสมความสดใส มีสีสัน เผยผิวสว่างอย่างในยุค 80’s จึงกลับมา ไม่ว่าจะเป็น การแต่งหน้าโทนสีสว่าง อายแชร์โดว์สีฟ้า ริมฝีปากสีชมพู ใช้สีคูลโทน ม่วง ฟ้า ชมพูบาร์บี้ นั่นเอง เพื่อให้เครื่องหน้าต่าง ๆ ชัดขึ้น ไม่ว่าจะผสมชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ที่เปลือกตา ก็ช่วยให้ใบหน้าดูโดดเด่นรับเทรนด์เมคอัพในปีนี้ได้ด้วย
6. ‘Niacinamide’ ยังคงนิยมในปี 2024
ที่มา: olayskincare.com
ส่วนผสมยอดฮิตที่ครองใจสาว ๆ ในปี 2023 ต่อเนื่องมาถึงปี 2024 ทำให้เครื่องสำอางหลาย ๆ แบรนด์ก็ยังใช้เจ้าตัวนี้เป็นส่วนผสมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม ครีม หรือบอดี้สกินแคร์อื่น ๆ ด้วยเพราะเป็นสารสกัดบำรุงผิว B3 ที่มีคุณสมบัติฟื้นฟูบำรุงผิว และปรับสภาพผิวให้ดูดีขึ้น และเห็นผลไวในไม่กี่สัปดาห์ จึงทำให้สารตัวนี้ไปอยู่ในแบรนด์เครื่องสำอางสกินแคร์อย่าง Olay, The Ordinary, AESOP, Paula Choice เป็นต้น
7. สาหร่าย ‘Algae’ ยังอินเทรนด์
ที่มา: Estée Lauder Malaysia Market
สาหร่ายประเภทนี้ยังคงได้รับความนิยมจากเทรนด์ความงามของปีนี้อยู่ นั่นก็เพราะการที่สาว ๆ อย่างเรานิยมการบำรุงดูแลผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์เสริมความงามไปจนถึงเครื่องสำอาง ที่มีส่วนผสมของสาหร่าย Algae ยังได้รับความนิยม ด้วยประสิทธิภาพที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นผิว ลดสิว เสริมความแข็งแรงของผิวให้ดีขึ้น มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยรักษาคอลลาเจนในชั้นผิว แถมยังลดเลือนริ้วรอย มีวิตามินซีสูงอีกด้วย แน่นอนว่าเครื่องสำอางแบรนด์ดัง ๆ อย่าง Biotherm, VE:LA, LA MER ยังเลือกใช้ Algae เป็นส่วนประกอบ
8. AI เช็กสุขภาพผิว
หลีกไม่พ้นกับเทรนด์ AI ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น แน่นอนว่ายังคงลามไปอยู่ในวงการสกินแคร์ เครื่องสำอางได้ด้วย การที่แบรนด์ดัง ๆ หลาย ๆ แบรนด์ได้พัฒนาระบบ AI เพื่อเข้ามาดูแลปัญหาผิว วิเคราะห์สุขภาพผิว เฉพาะบุคคลแบบส่วนตัวหรือหาคำตอบของปัญหาผิว ไปจนถึงเป็นตัวช่วยในการเลือกสกินแคร์ แนะนำลิปสติก โชว์ ‘Finished Look’ เมื่อแต่งหน้าเรียบร้อย ย่อมเป็นอีกจุดที่แต่ละแบรนด์จะนำมาแข่งขันกันนอกจากตัวสินค้าและการบริการนั่นเอง การที่เครื่องสำอางเข้ามาลงทุนในระบบ AI ต่าง ๆ แบบนี้จะช่วยยกระดับและเพิ่มความเข้มข้นในการแข่งขันในอุตสาหกรรมความงามให้มากขึ้นไปอีก
9. บูสต์วิตามินด้วย NAD+Booster
ที่มา: nutricity.com
การชะลอวัยด้วยวิตามินจะเพิ่มความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ NAD+ หรือการใช้ นิโคตินาไมด์ อะดีนีน ไดนิวคลีโอไตด์ (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่อยู่ในเซลล์ที่ส่งเสริมการเกิดใหม่และเป็นสารสำคัญที่ช่วยซ่อมแซมและชะลอวัยในร่างกาย ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ NAD+ จะช่วยกระตุ้นการทำงานลงลึกถึงระดับเซลล์ ด้วยวิธีการให้วิตามินผ่านทางหลอดเลือดดำ หรือเรียกว่า ‘Vitamin Drip’ หรือ NAD+ Theraphy เพื่อเร่งการซ่อมแซมโดยไม่ต้องผ่านการดูดซึมจากทางเดินอาหารนั่นเอง วิธีชะลอวัยแบบนี้ จึงกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันและพัฒนาให้ดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
10. Exosome นวัตกรรม ฟื้นฟูเซลล์ผิวถึงระดับนาโน
ที่มา: vsqclinic.com
นอกจากวิตามินบูสต์ที่น่าสนใจแล้ว การใช้เทคโนโลยีฟื้นฟูเซลล์ผิวให้ล้ำลึก เพื่อดูแลผิวให้อ่อนเยาว์ถึงระดับนาโนด้วยเทคโนโลยี Exosome ก็เป็นอีกวิธีที่กำลังได้รับความนิยม เพราะไม่ใช่แค่ช่วยฟื้นฟูผิวเท่านั้น ยังช่วยรักษาปัญหากวนใจอย่างการปวดเข่า ไปจนถึงปัญหาหัวล้านได้ด้วย อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีนี้ยังเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ยังไม่ได้มีการทดสอบอย่างแพร่หลายนัก และยังไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา อย่างเป็นทางการนั่นเอง การเข้ารับบริการจึงจำเป็นต้องเลือก ต้องคัดให้มีคุณภาพมากที่สุดโดยอาจอ้างอิงมาตรฐานจากโรงงานผลิตวัคซีนที่ได้มาตรฐาน GMP PIC/S (Pharmaceutical Inspection Co-operation Scheme) ได้ด้วย ที่สำคัญเมื่อฉีด Exosome เข้าไปแล้วก็อาจจะต้องวัดผลในระยะยาว เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดหรือเกิด Placebo Effect (ปรากฏการณ์ยาหลอก) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้หากมีการฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกายด้วย
จะเห็นได้ว่า 10 เทรนด์ความงามที่หยิบยกมาในปี 2024 ล้วนมีความน่าสนใจตรงที่นวัตกรรม เทคโนโลยี หรือเทรนด์การแต่งหน้า จะมีแนวโน้มไปในคอนเซ็ปต์ที่อิงธรรมชาติ เน้นการแก้ไขฟื้นฟูผิวด้วยวิธีธรรมชาติมากขึ้น ซึ่งนับว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว ยิ่งหากเป็นผู้ประกอบการหรือนักลงทุนที่กำลังมองหาช่องทางการลงทุนอยู่แล้วนั้น การจับกระแสมองเทรนด์ออกนั้นย่อมตัดสินใจและวางแผนรับมือได้ก่อนใครเพื่อนอีกด้วย
แดชบอร์ด Mandala AI พร้อมอัปเดตเทรนด์ความงามทุกแพลตฟอร์ม
แน่นอนว่าสำหรับใครที่กำลังหาเครื่องมือช่วยดูเทรนด์ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรือธุรกิจต่าง ๆ อยู่นั้นการมีเครื่องมือวิเคราะห์ มีแดชบอร์ดที่แนะนำเทรนด์สำคัญ หรือมองหาระบบ Tracking เทรนด์ต่าง ๆ นั้น ก็อยากให้ลองใช้ เครื่องมืออย่าง Mandala AI เพื่อวิเคราะห์ แสดงผล หรือติดตามความนิยมไม่ว่าจะสินค้าหรือคีย์เวิร์ดต่าง ๆ เพื่อมองหา Insight หรือกระแสที่กำลังมาแรง เพื่อให้นักการตลาดหรือเจ้าของกิจการไปวางแผนรับมือหรือปรับตัวไปกับเทรนด์นั้น ๆ บนโลกออนไลน์ได้ทันท่วงทีอีกด้วย