Event Marketing ทำไมหลายแบรนด์ถึงให้ความสำคัญ [อัพเดท]

Event Marketing คืออะไร

Event Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดที่มีมานานและใช้กันอย่างแพร่หลายไปทุก ๆ ธุรกิจ ไม่ว่าจะร้านเล็ก ๆ ไปจนถึงบริษัทระดับโลก การทำกิจกรรมการตลาดแบบนี้แพร่หลายกันมากที่ดูจะใกล้ตัวหน่อยก็คงเป็นการฉลองเปิดรถยนต์รุ่นใหม่ งานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เป็นต้น

การใช้กลยุทธ์การตลาดลักษณะนี้หากมองเผิน ๆ ก็เหมือนทำตามกันมา แต่ความเป็นจริงการใช้กลยุทธ์การตลาดลักษณะนี้จำเป็นต่อธุรกิจอย่างมาก ถึงแม้งบประมาณและการจัดจะใช้การลงทุนที่สูง แต่สิ่งสำคัญที่ธุรกิจจำเป็นต้องมีนั่นก็คือ การรับรู้ว่ายังมีแบรนด์นี้อยู่ในตลาด ซึ่งจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือต่อผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อสินค้าเป็นอย่างมาก

ทำให้การใช้กลยุทธลักษณะนี้หรือการจัดงานอีเว้นท์เหล่านี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม วันนี้เราเลยพามาทำความรู้จักและดูเทคนิคการใช้เครื่องมือนี้ในการทำตลาดนั่นเอง

เพราะเหตุใดแบรนด์จึงให้ความสำคัญกับ Event

แน่นอนว่าการทำ Event Marketing ก็เพื่อเพิ่มการรับรู้ไปยังผู้บริโภคทั่วไป เพื่อให้ตระหนักถึงว่ามีแบรนด์นี้อยู่ในตลาด หรือแบรนด์นี้ขยับหรือเคลื่อนไหวอะไรในตลาดนั้น ๆ นอกจากเพื่อสร้างการรับรู้แล้ว ยังเป็นการเชื่อมต่อกับลูกค้าที่ทั่วไปมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการมาเป็นลูกค้าในอนาคต 

ที่สำคัญเพิ่มโอกาสการขายมากขึ้นอีกด้วย รวมถึงยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ความเชี่ยวชาญให้กับแบรนด์ ซึ่งส่งผลไปถึงเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าประจำของแบรนด์นั้นจงรักภักดีต่อแบรนด์มากขึ้นได้อีกด้วย

ประเภทของงาน Event

การทำ Event Marketing สามารถเลือกทำได้ 2 แบบ นั่นก็คือแบบออนไลน์และแบบออฟไลน์ แน่นอนว่าการทำอีเว้นท์ก็ย่อมมีรายละเอียดและวิธีการเข้าถึงลูกค้าที่แตกต่างกัน มาดูกันว่าแต่ละแบบสามารถทำได้อย่างไรบ้าง 

1. Online

• VR Event คือ การใช้เทคโนโลยี Virtual Reality มาผสมกับการจัดอีเว้นท์ โดยผู้เข้าชมสามารถเข้าร่วมทางออนไลน์ผ่านอุปกรณ์ที่บ้านที่รองรับ VR หรือจะเข้าไปที่งานเพื่อสัมผัสหรือเข้าร่วมอีเว้นท์ด้วยเทคโนโลยี VR ได้โยตรง เช่น งาน Intel Press Conference ที่ CES ในปี 2017 เป็นต้น

• Live Event คือ การไลฟ์ถ่ายทอดสดงานอีเว้นท์ที่จัดขึ้นผ่านระบบออนไลน์ ที่คนดูทางบ้านสามารถมีส่วนร่วมได้ ไม่ว่าจะกดบริจาค คอมเมนต์ หรือผู้จัดสามารถเพิ่มกิจกรรมหรือลูกเล่นให้กับผู้เข้าชมไลฟ์ไปพร้อม ๆ กับผู้ที่อยู่ในงานออฟไลน์ได้ด้วย เช่น งานเปิดตัว iPhone งานปล่อยจรวดของ Nasa เป็นต้น
• Webinar คือ อีเว้นท์การจัดสัมมนาออนไลน์หรือการสอนกับคอร์สต่าง ๆ ซึ่งจะจัดให้กับผู้ที่ลงทะเบียนหรือสนใจในคอร์สหรือความรู้นั้น ๆ โดยรายละเอียดคอร์สต่าง ๆ จะมีทั้งแบบฟรี แบบเสียเงิน ไปจนถึงคอร์สที่สอนลงมือทำในระยะยาวเป็นต้น

2. Offline

• Flashmob คือ การจัดอีเว้นท์เพื่อสร้างการรับรู้หรือบอกแคมเปญให้กับคนทั่วไปในพื้นที่ที่กำหนดไว้ โดยการใช้พนักงานหรือกลุ่มคนที่ออกมาร้องเพลง เต้น เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มคนที่อยู่ในบริเวณนั้น ๆ เช่น การที่รวมตัวกันทำ Ice Breaking Challenge การประชาสัมพันธ์โปรโมชันหรือดีลพิเศษ เช่น งานอีเว้นท์แคมเปญไวน์ในวันคริสต์มาส เป็นต้น 

• Fair & Exhibition คือ การที่แบรนด์หรือธุรกิจไปจัดบูธออกงานประชาสัมพันธ์ให้กับลูกค้าที่สนใจมางานแฟร์หรือนิทรรศการประเภทนั้น ๆ โดยเฉพาะ อย่างเช่น การจัดงานแฟร์เฟอร์นิเจอร์ งานมอเตอร์โชว์ หรืองานแม่และเด็ก เป็นต้น
• งานเปิดตัวสินค้า คือ การเปิดตัวสินค้าใหม่ของแบรนด์นั้น ๆ พร้อมกับประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทั่วไปได้รับรู้เป็นวงกว้าง อย่างเช่น การเปิดตัว iPhone การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เป็นต้น

• Workshop คือ การจัดเวิร์คช้อป เทรนนิ่งและสอนทักษะหรือความรู้ต่าง ๆ ให้กับผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็น เวิร์กช้อปชงกาแฟ เวิร์คช้อปชงชา เวิร์คช้อปถ่ายรูป เวิร์คช้อปเรียนโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น

เทคนิคการทำ Event Marketing ให้ประสบความสำเร็จ

การทำอีเว้นท์ให้ประสบความสำเร็จและได้ผลตามที่คาดหวัง จำเป็นต้องเตรียมปัจจัยต่าง ๆ มากมายทั้งก่อนและหลังการจัดอีเว้นท์ ซึ่งจำเป็นต่อการทำให้อีเว้นท์ประสบความสำเร็จและบรรลุจุดประสงค์ตามที่ตั้งเป้าเอาไว้ สามารถทำได้ดังนี้

ก่อนอีเว้นท์

• กำหนดเป้าหมายของงาน จัดงานอีเว้นท์เพื่อจุดประสงค์อะไร เพื่อบอกให้กับสื่อและผู้คนทั่วไปได้เข้าใจและสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ รวมถึงทำให้ผู้เข้าร่วมรู้จุดประสงค์ของงานและสิ่งที่จะได้รับเมื่อเข้าร่วมงานนี้นั่นเอง
• ศึกษากลุ่มเป้าหมาย เพื่อประเมินการจัดงานและจัดงานให้เหมาะกับผู้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ธีม ตัวงาน ไปจนถึงเนื้อหาในงานที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายนั่นเอง
• กำหนด KPI ของงาน ประเมินการจัดงาน เช่น จำนวนผู้เข้าร่วมงาน การเช็กอิน คะแนน Social Mention จำนวนผู้ลงทะเบียน จำนวนการขาย ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมงาน จำนวนผู้มีส่วนร่วมกับอีเว้นท์นี้ เป็นต้น
• สร้างคอนเทนต์หรือสตอรี่ของอีเว้นท์ เพื่อกำหนดธีมและบอกเล่าเรื่องราวตลอดงานได้สอดคล้องและเป็นภาพเดียวกันตลอดทั้งงาน อีกทั้งยังเป็นการเชื่อมต่อกลุ่มเป้าหมายให้ใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้นอีกด้วย 
• นำเสนอคอนเทนต์ตามช่องทาง Social media หรือ influencer และ sponsor เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ร่วมงานอื่น ๆ ที่อาจจะไม่ได้รับข่าวสารและต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมหรือเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือติดตามงานอีเว้นท์เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น

• เขียนข่าวประชาสัมพันธ์ เขียนหนังสือเพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมหรืองานให้กับสื่อออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้าง

หลังอีเว้นท์

• วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อแก้ไข-ปรับปรุง นำข้อมูลและข้อเสนอแนะต่าง ๆ รวมไปถึงข้อมูลที่เกิดจากโลกออนไลน์ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือ Social Listening  การ track ข้อมูลตามจุดต่าง ๆ บนเว็บ แลนด์ดิงเพจ อีเมล์หรือช่างทางต่าง ๆ นำมาวิเคราะห์ปรับปรุงเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น หรือเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้กับการทำ CRM ของแบรนด์นั้น ๆ นั่นเอง
• โพสต์ขอบคุณรวมถึงทำ survey สอบถาม feedback เพื่อขอบคุณสปอนเซอร์และผู้คนที่เข้าร่วม รวมถึงนำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงและพัฒนาการจัดงานในครั้งต่อไป 

• แชร์คลิปหรือข้อมูลเฉพาะลงบนสื่อ ไม่ว่าจะเป็นข้อคิด เทคนิค หรือเคล็ดลับที่เกิดขึ้นจากผู้พูดหรือสิ่งที่เกิดขึ้นภายในงานออกสู่สื่อออนไลน์หรือออฟไลน์เพื่อให้งานได้ถูกพูดถึงบนสื่อและเข้าถึงผู้ชมคนอื่น ๆ มากขึ้น

เทรนด์ Event Marketing

นอกจากการจัดอีเว้นท์ที่เห็นกันคุ้นตาแล้วยังมีเทรนด์การจัดอีเว้นท์ที่น่าสนใจ และนำไปปรับใช้ให้กับธุรกิจเพื่อให้การจัดอีเว้นท์ราบรื่นและเข้ากับอินไซด์ของผู้เข้าร่วมงาน รวมถึงตอบโจทย์การจัดงานที่หลากหลายได้มากขึ้น งานอีเว้นท์ มีอะไรบ้างหรือเทรนด์อะไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย

• Hybrid Event เป็นการจัดงานที่รวมการใช้เทคโนโลยี VR บนสถานที่จัดงานจริงเพื่อมอบประสบการณ์ให้กับผู้เข้าร่วมแบบไร้รอยต่อ
• Artificial intelligence and Chatbots เป็นการจัดงานที่มีผู้ช่วยส่วนตัวคอยให้ข้อมูลต่าง ๆ คำแนะนำ และการบริการผู้เข้าร่วมภายในงาน
• Gamification เป็นการจัดงานโดยการใช้การเกม เข้ามาช่วยเพิ่มประสบการณ์และการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมในงานอีเว้นท์ที่จัดขึ้น
• Augmented Reality and Virtual Reality การใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ภายในงาน เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจากผู้เข้าร่วมงาน
• Sustainable and eco-friendly event เป็นการจัดงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน
• Real-time event analytics เป็นการจัดอีเว้นท์ที่มีการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้เข้าร่วมโดยตรง เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมแบบเรียลไทม์ให้ผู้เข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่พิเศษในการเข้าร่วมงานมากขึ้น

• Live Streaming เป็นการถ่ายทอดสดบรรยากาศในงานให้กับผู้ที่ไม่ได้เข้าร่วมงานได้สัมผัสมากขึ้น

คุณเห็นความสำคัญแล้วรึยัง ?

จะเห็นได้ว่าธุรกิจหรือแบรนด์ต่าง ๆ ยังให้ความสำคัญกับการจัดงานอีเว้นท์ต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้คนทั่วไปได้สัมผัสและเชื่อมต่อใกล้ชิดกับผู้คนหรือกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เพื่อรักษาและสร้างกลุ่มลูกค้าที่จงรักภักดีกับแบรนด์หรือธุรกิจมากขึ้นนั่นเอง