Social Media MarketingSocial ListeningFacebook MarketingInstagram MarketingTikTok Marketing
Try Mandala For Free

Hotjar คืออะไร และใช้งานอย่างไรให้ได้ผลแบบปัง ๆ

Hotjar คืออะไร และใช้งานอย่างไรให้ได้ผลแบบปัง ๆ

หากคุณคือหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ที่กำลังหนักใจอยู่ว่าจะทำอย่างไรให้คนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น “Hotjar” คือตัวช่วยที่จะเข้ามาแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างตรงจุด แต่หากต้องการเจาะลึกข้อมูลได้มากขึ้นกว่าเดิม แนะนำให้ใช้ Mandala Analytics จาก Mandala AI เครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตลาดด้วย Mandala AI

Hotjar คืออะไร?

Hotjar ที่เราหยิบยกมาอธิบายในบทความนี้ไม่ได้หมายความถึง “เหยือกที่กำลังร้อน” แต่ Hotjar คือ เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ (Visitor Analytics) ที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักการตลาดออนไลน์อย่างมากในปัจจุบัน เพราะ Hotjar มีฟีเจอร์ที่หลากหลายและวิธีใช้งานที่ง่าย ทำให้เจ้าของเว็บไซต์หรือนักการตลาดสามารถเข้าใจพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ย้อนกลับไปในปี 2013 Mario Queiroz และ David Darmanin คู่หูอดีตวิศวกรจาก Google เกิดไอเดียที่อยากสร้างเครื่องมือที่จะมาเป็นตัวช่วยผู้ประกอบการธุรกิจออนไลน์ให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อต่อยอดสู่การคิดกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ จึงได้สร้าง Hotjar ขึ้นมา โดยเริ่มต้นจากการเป็นเครื่องมือแบบฟรีแวร์ แต่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทต้องพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมและเปลี่ยนเป็นโมเดลธุรกิจแบบสมัครสมาชิก ในปี 2022 Hotjar มีผู้ใช้มากกว่า 10 ล้านคนจากกว่า 180 ประเทศทั่วโลก

ประโยชน์ของการใช้ Hotjar

เข้าใจพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย:

Hotjar มีวิธีใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็น Heatmap, Scrollmap, Recordings, Funnel, Survey, Feedback, Polls, Forms เป็นต้น ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถเห็นภาพรวมได้ว่าผู้ใช้งานเข้ามาเว็บไซต์อย่างไร คลิกปุ่มไหน ใช้เวลาในแต่ละหน้านานเท่าใด ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้ดีขึ้น และนำไปปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้งาน

ปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์:

เมื่อเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานแล้ว เจ้าของเว็บไซต์สามารถนำข้อมูลไปปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ (User Experience: UX) ให้ดีขึ้นได้ เช่น ปรับตำแหน่งปุ่ม Call to Action ให้มองเห็นได้ง่ายขึ้น ปรับเนื้อหาให้กระชับขึ้น ปรับปรุงความสะดวกในการนำทาง เป็นต้น การปรับแต่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์:

Hotjar ยังมีอีกหนึ่งวิธีใช้ นั่นคือการช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ในด้านต่าง ๆ ได้ เช่น เพิ่มอัตราการคลิกผ่าน (Conversion Rate) เพิ่มยอดขาย เพิ่มจำนวนผู้สมัครสมาชิก เป็นต้น ตัวอย่างเช่น เจ้าของเว็บไซต์สามารถดูได้ว่าผู้ใช้งานคลิกปุ่ม Call to Action ไหนมากที่สุด จากนั้นจึงปรับแต่งปุ่มนั้นให้โดดเด่นขึ้นเพื่อเพิ่มอัตราการคลิกผ่าน

วัดผลความสำเร็จของเว็บไซต์:

Hotjar ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถวัดผลความสำเร็จของเว็บไซต์ในด้านต่าง ๆ ได้ เช่น จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ จำนวนหน้าที่เข้าชมเฉลี่ย ระยะเวลาเฉลี่ยในการเข้าชมเว็บไซต์ โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์สามารถติดตามผลการดำเนินงาน และปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดีขึ้นต่อไป

แน่นอนว่า Hotjar คือตัวช่วยที่จะทำให้ผู้ประกอบการเข้าใจพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย แต่ถ้าอยากทราบข้อมูลเชิงลึกยิ่งกว่าเดิม แนะนำให้ใช้ร่วมกับเครื่องมือ Mandala Analytics จาก Mandala AI โซลูชันที่นำข้อมูลซึ่งผู้คนแสดงความคิดเห็นในรูปแบบต่าง ๆ ไว้ตามโซเชียลมีเดีย มาวิเคราะห์แบบเจาะลึก

วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตลาดด้วย Mandala AI

Hotjar คือโปรแกรมอะไร ใช้งานอย่างไร

สำรวจฟีเจอร์น่าสนใจใน Hotjar

  • Heatmap: สำหรับฟีเจอร์นี้ของ Hotjar มีวิธีใช้คือแสดงข้อมูลการคลิก ปุ่มเลื่อน และการเคลื่อนไหวของเมาส์บนเว็บไซต์ ช่วยให้เห็นภาพรวมว่าผู้ใช้งานว่าสนใจส่วนไหนของเว็บไซต์เป็นพิเศษ
  • Scrollmap: แสดงข้อมูลการเลื่อนดูเว็บไซต์ ช่วยให้เห็นภาพรวมว่าผู้ใช้งานเลื่อนดูเว็บไซต์อย่างไร และหยุดดูหน้าไหนนานเป็นพิเศษ
  • Funnels: แสดงข้อมูลการไหลเวียนของผู้ใช้งานในเว็บไซต์ ช่วยให้เห็นภาพรวมว่าผู้ใช้งานเข้ามายังหน้าไหนบ้าง ออกจากหน้าไหนบ้าง และใช้เวลาในแต่ละหน้านานแค่ไหน
  • NPS (Net Promoter Score): วัดความพึงพอใจของลูกค้า ช่วยให้เข้าใจว่าลูกค้ามีความพึงพอใจต่อเว็บไซต์มากน้อยเพียงใด
  • Feedback: รวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ ช่วยให้เข้าใจความต้องการของผู้ใช้งานและนำไปปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดีขึ้น

วิธีติดตั้ง Hotjar

  1. สมัครใช้งาน Hotjar: ขั้นแรก จะต้องสมัครใช้งาน Hotjar ก่อน โดยสามารถใช้งานฟรีได้ 15 วัน หลังจากนั้นจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 29 ยูโรหรือประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน
  2. สร้างบัญชี Hotjar: เมื่อสมัครใช้งาน Hotjar เรียบร้อยแล้ว จะต้องสร้างบัญชี Hotjar โดยกรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วน
  3. เพิ่มเว็บไซต์ใน Hotjar: หลังจากที่สร้างบัญชี Hotjar เรียบร้อยแล้ว วิธีใช้ขั้นต่อไปคือการเพิ่มเว็บไซต์ที่ต้องการติดตามใน Hotjar โดยกรอกชื่อเว็บไซต์และ URL ของเว็บไซต์
  4. เพิ่มโค้ดติดตามของ Hotjar ลงในเว็บไซต์: โค้ดติดตามของ Hotjar สามารถเพิ่มลงในเว็บไซต์ได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่ใช้สร้างเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ที่สร้างด้วย WordPress สามารถเพิ่มโค้ดติดตามของ Hotjar ลงในไฟล์ header.php ของเว็บไซต์
  5. ตรวจสอบการติดตั้ง Hotjar: เมื่อเพิ่มโค้ดติดตามของ Hotjar ลงในเว็บไซต์เรียบร้อยแล้ว จะต้องตรวจสอบการติดตั้ง Hotjar โดยไปที่หน้าแดชบอร์ด และคลิกที่ปุ่ม “Check Tracking” หากการติดตั้ง Hotjar สำเร็จ จะแสดงข้อความ “Tracking is enabled”แน่นอนว่า Hotjar คือตัวช่วยที่ทรงประสิทธิภาพสำหรับนักการตลาดยุคใหม่ แต่ถ้าอยากดำเนินธุรกิจของคุณให้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก

แนะนำตัวช่วยจาก Mandala AI ผู้ให้บริการเครื่องมือ Mandala Analytics โซลูชันในการทำ Social Listening นำข้อมูลซึ่งผู้คนแสดงความคิดเห็นในรูปแบบต่าง ๆ ไว้ตามโซเชียลมีเดีย มาทำการวิจัยการตลาดเพื่อหาเจตนาที่แท้จริงว่า ตอนนี้ภาพรวมของตลาดกำลังต้องการอะไร ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนกลยุทธ์ สร้างคอนเทนต์การตลาด เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการธุรกิจในยุคดิจิทัล ทดลองใช้งานฟรีได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ของเรา

วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อการตลาดด้วย Mandala AI

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. What Is Hotjar? Key Features & Why You Should Use It. สืบค้นเมื่อ 12 ธันวาคม 2566.
  2. 7 Hotjar features you may not know about. สืบค้นเมื่อ 12 ธันวาคม 2566.
สมัครสมาชิกเนื้อหาการตลาดฟรีของเรา

เราจะส่ง Email เนื้อหาใหม่ให้คุณทุกสัปดาห์

This email is already subscribe.