เป็นที่ทราบกันดีว่าข้อมูลมีบทบาทสำคัญในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีผลต่อการตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ ดังนั้นการหยิบข้อมูลมานำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและให้เกิดความน่าสนใจ จึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง Infographic ก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้
Infographics คืออะไร
Infographic (อินโฟกราฟิก) มาจากคำว่า Information และ Graphic หมายถึง การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของกราฟิกหรือภาพประกอบ โดยการนำข้อมูลจำนวนมากหรือมีความซับซ้อน มาอธิบายให้กระชับ เข้าใจง่าย และสวยงามน่าอ่าน ผ่านการใช้ภาพประกอบ เส้นกราฟ สี แผนภูมิ แผนผัง หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการนำเสนอข้อมูลเหล่านั้น โดยที่ผู้อ่านจะได้ไม่ต้องเสียเวลาอ่านข้อความจำนวนมากนั่นเอง
ซึ่งตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ อินโฟกราฟิกจึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่หลายสื่อหรือหลายองค์กรเลือกนำมาใช้สื่อสารข้อมูลกับกลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากพฤติกรรมการเข้าถึงข้อมูลของคนยุคปัจจุบันมีความรวดเร็ว ผู้อ่านมักต้องการได้รับข้อมูลที่ฉับไว กระชับ เข้าใจง่าย หากต้องเสียเวลาในการอ่านหรือศึกษาข้อมูลนาน ๆ ก็อาจทำให้ไม่มีใครสนใจได้ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับสถิติจำนวนประชากรโลก หากนำเสนอในรูปแบบของข้อความ ก็อาจทำให้ผู้อ่านรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่อยากอ่านได้
ดังนั้นภาพ Infographic จึงช่วยมาช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจและมีประโยชน์ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับข้อมูลทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเชิงข่าวสาร ข้อมูลเชิงสถิติ ข้อมูลเชิงวิชาการ ข้อมูลเชิงธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือข่าวบันเทิง ก็สามารถนำมาทำ Infographic เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านได้อย่างรวดเร็วและเกิดการจดจำข้อมูลได้นั่นเอง
รูปแบบของการทำ Infographic ที่ดีมีอะไรบ้าง
การทำ Infographic ที่ดีนั้น สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงรูปแบบของ Infographic ให้เหมาะสมกับเนื้อหาที่นำเสนอ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดการจดจำได้ด้วย ซึ่งรูปแบบของ Infographic ที่ดีนั้น มีดังนี้
1. ต้องเน้นที่หัวข้อหลักให้ชัดเจน
Infographic ควรเน้นที่หัวข้อหลักเพียงหัวข้อเดียว ควรระบุหัวข้อหลักอย่างชัดเจนที่ด้านบนของภาพ Infographic เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจข้อมูลได้อย่างรวดเร็วว่ากำลังสื่อสารเรื่องอะไรอยู่
2. ออกแบบภาพให้เข้าใจง่าย
วิธีทำ Infographic จะต้องออกแบบให้เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่ใช้ตัวหนังสือเยอะ โดยควรเลือกใช้ภาพและกราฟิกที่ช่วยสื่อความหมายของข้อมูลแทนอย่างตรงไปตรงมา สีสันในภาพต้องสดใส แต่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป ใช้ฟ้อนต์ตัวอักษรที่อ่านง่าย มีขนาดใหญ่พอที่จะอ่านได้ง่าย และสีฟ้อนต์ควรตัดกับพื้นหลังอย่างชัดเจน
3. คำนึงถึงการจัดองค์ประกอบภาพ
วิธีทำ Infographic ที่ดีต้องคำนึงถึงการจัดองค์ประกอบภาพ ให้เหมาะสมด้วย โดยควรจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ให้อยู่ในตำแหน่งที่สมดุล มีความเชื่อมโยงกัน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจข้อมูลได้อย่างเป็นลำดับขั้นตอน
4. ให้ความสำคัญกับข้อมูล
ข้อมูลใน Infographic ควรมีความถูกต้อง ครบถ้วน และทันสมัย ควรตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องก่อนเผยแพร่ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่เป็นความจริง และนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
5. ต้องรู้กลุ่มเป้าหมาย
วิธีทำ Infographic ให้ประสบความสำเร็จนั้น ควรพิจารณาถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นผู้รับสารด้วย เพื่อเลือกรูปแบบและเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจและระดับความรู้ของกลุ่มเป้าหมาย
6. กำหนดวัตถุประสงค์ในการนำเสนอให้ชัดเจน
ควรกำหนดวัตถุประสงค์ในการนำเสนอให้ชัดเจน เช่น ต้องการให้ข้อมูล ต้องการโน้มน้าวใจ หรือต้องการกระตุ้นให้เกิดการกระทำ เพื่อจะได้เลือกเนื้อหาที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการนำเสนอนั่นเอง
Infographic มีกี่ประเภท
อย่างที่อธิบายไปแล้วว่า Infographic เป็นรูปแบบการสื่อสารข้อมูลด้วยภาพและกราฟิก ที่สามารถนำเสนอข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ ได้อย่างเข้าใจง่ายและน่าดึงดูดความสนใจ ทั้งนี้ Infographic สามารถแบ่งออกได้เป็นประเภทต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ในการนำเสนอ ดังนี้
1. Infographic เชิงสถิติ (Statistics Infographics)
เป็น Infographic ที่ใช้นำเสนอข้อมูลเชิงตัวเลขหรือสถิติต่าง ๆ เช่น ข้อมูลประชากร ข้อมูลเศรษฐกิจ ข้อมูลด้านสุขภาพ ฯลฯ มักใช้แผนภูมิ กราฟ ตาราง แผนภูมิแท่ง แผนภูมิเส้น แผนที่แสดงข้อมูล หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในการนำเสนอข้อมูล เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจข้อมูลตัวเลขได้ง่ายขึ้น
- ยกตัวอย่างอินโฟกราฟิกสวย ๆ เชิงสถิติ
ที่มา: complaint.oag.go.th
2. Infographic เชิงให้ข้อมูลเบื้องต้น (Informational Infographics)
เป็น Infographic ที่ใช้นำเสนอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องใดก็ได้ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ขององค์กร การแนะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ โดยเน้นที่ความกระชับของข้อมูล การจัดวางรูปภาพและตัวหนังสือที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดผู้อ่าน
- ยกตัวอย่างอินโฟกราฟิกเชิงให้ข้อมูลเบื้องต้น
ที่มา: taradhealth.com
3. Infographic เชิงขั้นตอนการทำงาน (Process Infographic)
เป็น Infographic ที่ใช้นำเสนอขั้นตอนการทำงานหรือกระบวนการต่าง ๆ เหมาะมากสำหรับใช้ในการอธิบายสินค้าหรือบริการที่มีวิธีการใช้งานหลายขั้นตอน เช่น ขั้นตอนการชำระเงินออนไลน์ ขั้นตอนการใช้แอปพลิเคชัน ขั้นตอนการดูแลรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ
- ยกตัวอย่างอินโฟกราฟิกเชิงขั้นตอนการทำงาน
ที่มา: help.grab.com
4. Infographic เรียงลำดับเวลา (Timeline Infographics)
คือ Infographic ที่ใช้นำเสนอข้อมูลที่เป็นลำดับเวลา เช่น การเล่าประวัติความเป็นมาหรือวิวัฒนาการของสิ่งต่าง ๆ การนำเสนอเหตุการณ์สำคัญ การเปรียบเทียบเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน โดย Infographic เรียงลำดับเวลามักใช้เส้นแทนระยะเวลา (Timeline) ในการเล่าจุดเริ่มต้น ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลง จุดสิ้นสุด เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่ายขึ้น
- ยกตัวอย่างอินโฟกราฟิกแบบเรียงลำดับเวลา
ที่มา: dga.or.th
5. Infographic เชิงภูมิศาสตร์ (Geographic Infographics)
เป็น Infographic ที่ใช้นำเสนอข้อมูลเชิงภูมิศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ ภูมิอากาศ ภูมิประเทศ ยกตัวอย่าง Infographic แสดงสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยในแต่ละภาค Infographic แสดงการกระจายตัวของประชากรของประเทศไทยในแต่ละจังหวัด แผนที่แสดงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในไทย ฯลฯ ซึ่ง Infographic เชิงภูมิศาสตร์ มักจะมีการนำไปใช้ในหลายสาขา เช่น การท่องเที่ยว การสื่อสารวัฒนธรรม การศึกษา เป็นต้น
- ยกตัวอย่างภาพอินโฟกราฟิกเชิงภูมิศาสตร์
ที่มา: kapook.com
6. Infographic เชิงเปรียบเทียบข้อมูล (Comparison Infographic)
เป็นการนำข้อมูลสองชุดหรือมากกว่านั้นมาเปรียบเทียบกัน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจความแตกต่างและความสัมพันธ์ของข้อมูลทั้งหมดได้ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงช่วยให้ผู้อ่านสามารถมองเห็นภาพรวมของข้อมูลได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลความรู้ การเปรียบเทียบคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการต่าง ๆ รวมไปถึงการเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย
- ยกตัวอย่างภาพอินโฟกราฟิกเชิงเปรียบเทียบข้อมูล
ที่มา: vejthani.com
7. Infographic เชิงเรียงลำดับความสำคัญ (Hierarchical Infographics)
อีกรูปแบบหนึ่งของ Infographic ที่เน้นการจัดลำดับความสำคัญของข้อมูล โดยใช้สัญลักษณ์ในการเล่าเรื่องบนรูปภาพอย่างชัดเจน ช่วยให้ผู้อ่านสามารถแยกได้ว่าข้อมูลใดสำคัญกว่ากัน ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจในบริบทต่าง ๆ ได้ ซึ่งมักจะใช้รูปทรงพีระมิดหรือแผนผัง ในการทำภาพ Infographic ซึ่ง Infographic ประเภทนี้เหมาะสำหรับการนำเสนอข้อมูลที่มีปริมาณมากหรือข้อมูลที่มีความซับซ้อน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ยกตัวอย่างของ Infographic เชิงเรียงลำดับความสำคัญ เช่น แผนภูมิแท่งแสดงยอดขายสินค้าแต่ละประเภท แผนภูมิวงกลมแสดงสัดส่วนประชากรในแต่ละประเทศ แผนผังแสดงขั้นตอนการทำงาน แผนผังแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่าง ๆ
- ยกตัวอย่างภาพอินโฟกราฟิกเชิงเรียงลำดับความสำคัญ
ที่มา: wealth24hrs.com
8. Infographic รูปแบบลิสต์รายการ (List Infographics)
หนึ่งใน Infographic ที่น่าสนใจและทำได้ง่าย คือการนำเสนอข้อมูลเป็นลิสต์รายการ ในแต่ละลิสต์ไม่ควรมีตัวหนังสือยาวมากนัก จับประเด็นที่สำคัญ สรุปเนื้อหาให้เข้าใจง่ายด้วยการนำเสนอในรูปแบบการแจกแจงข้อมูลเป็นข้อ ๆ จะช่วยลดความซับซ้อนของข้อมูลให้ผู้อ่านได้
- ยกตัวอย่างภาพอินโฟกราฟิกรูปแบบลิสต์รายการ
ที่มา: thaifranchisecenter.com
9. Infographic แบบมีปฏิสัมพันธ์ (Interactive Infographics)
เป็น Infographic ที่ผู้ชมสามารถมีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้ เช่น ปรับแต่งข้อมูลด้วยตัวเอง ดูคุณสมบัติเพิ่มเติม หรือปรับขนาดของกราฟได้ตามต้องการ เหมาะกับการบรรยายข้อมูลที่มีปริมาณมากและซับซ้อน
- ยกตัวอย่างภาพอินโฟกราฟิกแบบมีปฏิสัมพันธ์
ที่มา: thinglink.com
ประโยชน์ของการทำ Infographic ในการสื่อสารกับลูกค้า
ปัจจุบันนี้ผู้บริโภคมีข้อมูลข่าวสารมากมายที่ได้รับตลอดเวลา การนำเสนอข้อมูลให้เข้าใจง่ายและน่าสนใจจึงกลางเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการทำ Infographic เป็นหนึ่งวิธีที่ช่วยสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีประโยชน์มากมายต่อการสื่อสารกับลูกค้า ดังนี้
1. ช่วยย่อและสรุปเนื้อหาที่เข้าใจยากให้ง่ายขึ้น
หากข้อมูลที่ต้องการสื่อสารกับลูกค้ามีจำนวนมาก และเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ซับซ้อน การทำ Infographic สามารถช่วยได้ เพราะจะต้องผ่านการย่อและสรุปเนื้อหามาก่อน แล้วนำเสนอข้อมูลผ่านภาพกราฟิก สัญลักษณ์ รูปภาพ ประกอบกับข้อความสั้น ๆ จึงช่วยให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายและรวดเร็วกว่าการอ่านตัวอักษรจำนวนมาก
2. ช่วยสื่อสารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Infographic สามารถช่วยในการสื่อสารข้อมูลหรือความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้ผู้อ่านเข้าใจข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจตรงกัน
3. ช่วยดึงดูดความสนใจได้
เพราะ Infographic นั้นใช้ภาพและสีสันที่หลากหลาย จึงสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้มากกว่าการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของตัวอักษรเพียงอย่างเดียว
4. เกิดการจดจำได้ง่าย
ด้วยภาพและสีสันของภาพ Infographic นั้นจะช่วยกระตุ้นความจำ ทำให้ลูกค้าจดจำข้อมูลได้นานกว่าการอ่านตัวอักษรเพียงอย่างเดียว
5. กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้
Infographic นั้นสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้และความสนใจในข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนได้มากขึ้น
6. ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
การทำ Infographic ที่ให้ข้อมูลความรู้ที่เป็นประโยชน์กับผู้อ่านอย่างสม่ำเสมอนั้น สามารถช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์หรือธุรกิจได้ อีกทั้งการจัดระเบียบข้อมูลอย่างเป็นระบบ และนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ จะช่วยให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือและไว้ใจได้มากขึ้น
7. เกิดการแชร์ต่อได้ง่าย
Infographic นั้นเป็นภาพที่สวยและมีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย จึงสะดวกในการแชร์ต่อบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งหากองค์กรใดหรือธุรกิจใดนำไปใช้ ก็มีโอกาสเพิ่มการมองเห็น เพิ่มการรับรู้แบรนด์ต่อวงกว้างมากขึ้น
8. ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์
Infographic นั้นสามารถช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นที่น่าจดจำและน่าเชื่อถือ ซึ่งการเลือกภาพและกราฟิกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะช่วยให้แบรนด์มีความโดดเด่นและเป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้นในสายตาผู้บริโภค
9. กระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
Infographic นั้นสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้ โดยสามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่น่าสนใจ เช่น คุณสมบัติผลิตภัณฑ์ มาทำเป็นภาพ Infographic กระตุ้นให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและจดจำในวงกว้าง เป็นโอกาสดีที่ช่วยเพิ่มระดับการตัดสินใจของลูกค้า ทำให้คุณปิดการขายได้สำเร็จ
อ่านข้อมูลได้ง่ายขึ้นด้วย Infographic
จะเห็นได้ว่า Infographic เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการนำเสนอข้อมูลในปัจจุบัน โดยสามารถประยุกต์ใช้กับงานต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ด้วยความสวยงามและความกระชับของข้อมูล ทำให้ Infographic ไม่เพียงแต่ทำให้ข้อมูลของคุณน่าสนใจขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ ในการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือจากลูกค้าได้ด้วย