กิจการสมัยใหม่กับการพึ่งพาแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเพื่อขยายผลทางธุรกิจ เป็นอะไรที่ต้องยอมรับว่าหนีกันไม่พ้น เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน เลือกที่จะพึ่งพาโลกออนไลน์เป็นหลักไปเสียทุกอย่าง ตั้งแต่การค้นหาข้อมูล ไปจนถึงการซื้อสินค้าและบริการ เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มที่เน้นสื่อมัลติมีเดียอย่าง Instagram ที่ปรับรูปโฉมให้กลายเป็น E-commorce ขนาดย่อม หากอยากทำให้ร้านเติบโตได้ในแพลตฟอร์ม Instargram การทำ SEO อาจคือคำตอบ!
Instragram กับการทำ SEO คือใบเบิกทางที่หลายคนไม่รู้
Instagram SEO คือเทคนิคการทำ Search Engine Optimization ในรูปแบบหนึ่งที่มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้โพสต์จากบัญชีดังกล่าว ปรากฏเป็นลำดับต้น ๆ บนหน้าผลการค้นหาของ Instagram โดยใช้เพียงแค่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้คนสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการ รวมถึงบัญชีผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
วิธีทำ SEO บน Instagram
โดยวิธีการทำ SEO บนแพลตฟอร์ม Instagram ก็ไม่ได้มีอะไรยิบย่อยเท่ากับการทำ SEO เว็บไซต์ เพียงให้ความสำคัญกับ “หัวใจหลัก” ในการทำ SEO ไม่กี่ประการ ดังนี้
1. การใช้คีย์เวิร์ด (Keywords) ที่เหมาะสม
คีย์เวิร์ด เป็นคำหรือวลีที่ผู้คนใช้ในการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้การใส่คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมและเกี่ยวข้องกับแบรนด์ รวมถึงสินค้าและบริการในโพสต์นั้น ๆ ก็ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายที่คาดหวัง มีโอกาสค้นพบโพสต์ของคุณได้ง่ายมากขึ้น โดยปัจจุบันสามารถใช้เครื่องมือฟรีอย่าง Google Keyword Planner หรือฟังก์ชันการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของ Instagram มานำร่องทำคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจได้
แต่ถ้าใครเริ่มคล่องตัวแล้วและอยากใช้เครื่องมือที่แอดวานซ์กว่า สามารถค้นหาคีย์เวิร์ดได้อย่างแม่นยำ พร้อมเสริมคุณภาพให้กับคอนเทนต์ในโพสต์ได้มากกว่า ก็สามารถมาใช้เครื่องมือจาก Mandala AI เพื่อเข้าถึงคุณสมบัติการทำงานที่ตอบสนองด้วยข้อมูลที่มีประสิทธิภาพได้เหมือนกัน
2. การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ (Quality Content)
เป็นการสร้างเนื้อหาให้มีประโยชน์ น่าสนใจ และดึงดูดผู้อ่านอยู่เสมอ โดยการเพิ่มคุณภาพให้แก่เนื้อหาในโพสต์ ทั้งแบบตัวอักษร รูปภาพ และวิดีโอ ซึ่งจะช่วยทำให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ น่าสนใจ อีกทั้งยังเป็นการช่วยนำเสนอเนื้อหาสาระให้กระชับ เข้าใจง่าย และที่สำคัญจะต้องหมั่นอัปเดตบ่อย ๆ เพื่อให้บัญชีมีการเคลื่อนไหว ลดโอกาสการถูกอันฟอลจากผู้ติดตาม ทั้งยังเป็นการช่วยเปิดการมองเห็นให้กับบัญชี Instagram ได้อีกด้วย
3. การโปรโมตบัญชี (Account Promotion)
ประการสุดท้ายที่สำคัญและแตกต่างจากการทำ SEO ในเว็บไซต์ คือการโปรโมตบัญชี Instagram เพื่อให้ผู้คนสามารถค้นพบและเข้าถึงบัญชีได้ง่ายขึ้น โดยวิธีการโปรโมตก็สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การจัดกิจกรรมคอนเทนต์ให้เกิดการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างกลุ่มเป้าหมายและบัญชีธุรกิจ อย่างการแท็กรูปภาพ การกล่าวถึงในสตอรี่ หรือแม้แต่การโปรโมตบัญชี Instagram แบบข้ามแพลตฟอร์มไปยังโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นวิธีการที่ช่วยเพิ่มการมองเห็น และทำให้เกิดการค้นพบบนแท็บสำรวจ (Explore) ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ข้อดีของการทำ SEO บน Instagram
- เพิ่มโอกาสในการมองเห็น เพราะการทำ SEO บน Instagram จะช่วยให้โพสต์ของเราปรากฏบนหน้าผลการค้นหาของ Instagram เป็นลำดับต้น ๆ อันจะส่งผลให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาบัญชีของเราเจอได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- ขยายฐานลูกค้า เมื่อผู้คนสามารถค้นพบบัญชีผ่านช่องการค้นหาและแท็บการสำรวจได้ง่ายขึ้น ก็จะทำให้มีโอกาสที่จะเปลี่ยนผู้คนเหล่านั้นให้กลายมาเป็นลูกค้าของแบรนด์ได้มากขึ้นด้วย
- เพิ่มยอดขาย ในช่วงแรกบัญชีอาจได้ลูกค้ามาในรูปแบบของผู้ติดตาม แต่เมื่อนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพ และแสดงผ่านฟีดบ่อยยิ่งขึ้น และยิ่งช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มยอดขายได้ในที่สุด
นอกจากนี้ ข้อดีของการทำ SEO บน Instagram ก็ยังช่วยให้บัญชีของแบรนด์มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น เพราะจะแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการมีความใส่ใจในการนำเสนอเนื้อหาและข้อมูลอย่างมีคุณภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังสนใจในสินค้าหรือบริการนั้น ๆ นั่นเอง
เทคนิคการทำ SEO บน Instagram ให้ปัง!
1. ใส่คีย์เวิร์ดบนไบโอ
เริ่มต้นการทำ SEO ให้บัญชี Instagram ได้ง่าย ๆ ด้วยการใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเอาไว้บน “ไบโอ” ที่หน้า Profile เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้คีย์เวิร์ดในการค้นหาได้ แม้ไม่ได้พิมพ์ชื่อบัญชีโดยตรง เช่น หากธุรกิจของคุณเกี่ยวกับเครื่องสำอางวีแกนจากส่วนผสมธรรมชาติ ก็อาจจะใช้คำว่าเครื่องสำอางออร์แกนิก หรือ Vegan Cosmetic เพื่อให้เกี่ยวข้องกับสินค้า และเพิ่มโอกาสในการติดท็อปเซิร์ชผ่านช่องค้นหานั่นเอง นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยผลักดันให้อัลกอริทึมของ Google ขึ้นแนะนำบนหน้า Search Engine เพื่อเพิ่มจำนวนการเข้าชมบัญชี (Traffic) ได้อีกด้วย
2. ใช้ # แฮชแท็กให้ถูกต้อง
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการทำ SEO บน Instagram คือการใช้ # (แฮชแท็ก) ที่เป็นการจำกัดคีย์เวิร์ด ให้เข้าสู่ระบบอัลกอริทึมของแพลฟอร์ม โดยเทคนิคนี้จะช่วยเพิ่มการมองเห็นและสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้างอย่างมีประสิทธิภาพ เพียงแต่จะต้องเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับคอนเทนต์ อาจเป็นคีย์เวิร์ดที่บ่งบอกถึงสินค้าหรือบริการ และถ้าหากเป็นคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ก็ให้เลือกแฮชแท็กที่ Related กับเหตุการณ์หรือกำลังเป็นเทรนด์ในช่วงเวลานั้น
3. เพิ่ม Alt Text ลงไปบนภาพ
ในส่วนของการใส่ Alt Text (Alternative Text) ลงไปในภาพ ถือได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการทำ SEO บนแพลตฟอร์มที่เน้นการโพสต์รูปภาพเป็นหลัก เพราะ Alt Text จะเป็นคำอธิบายรูปภาพแฝงคีย์เวิร์ดที่จะแทรกไปอยู่ใน HTML Code ของเว็บไซต์ และถึงแม้จะไม่แสดงเป็นตัวอักษรออกมา แต่ก็ยังมีผลเป็นอย่างมากต่อการทำ SEO นั่นเอง
4. รักษาคุณภาพของโพสต์และ Account อยู่เสมอ
นอกเหนือจากการใส่คีย์เวิร์ดแล้ว การรักษาคุณภาพของโพสต์และ Account อยู่เสมอก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะผลการค้นหาที่อัลกอริทึมของ Instagram คัดเลือกมา จะต้องผ่านตามหลักเกณฑ์ที่แพลตฟอร์มกำหนด นั่นจึงหมายความว่าถ้าโพสต์หรือบัญชีเกิดกระทำบางอย่างที่ขัดต่อหลักเกณฑ์เหล่านี้ ก็จะทำให้เริ่มถูกปิดกั้น จนไม่ปรากฏการมองเห็นบัญชี และอาจร้ายแรงถึงขั้นโดนลบบัญชีได้ในที่สุด โดยสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมีหลัก ๆ ดังนี้
- ประโยคหรือเฮดไลน์ที่เป็น Clickbait
- การอ้างอิงหรือการเคลมเรื่องสุขภาพที่เกินจริง
- เนื้อหาที่คัดลอกมาจากแหล่งอื่น
- การอ้างสิทธิ์หรือเนื้อหาที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด
- การซื้อยอดผู้ติดตาม (Followers) และยอดกดถูกใจ (Likes)
นอกจากพลังจากการทำ SEO จะช่วยให้บัญชี Instagram ของคุณได้รับการมองเห็น พร้อมเพิ่มยอดผู้ติดตาม และเพิ่มโอกาสที่จะดึงกลุ่มเป้าหมายมาเป็นลูกค้าได้อย่างมั่นใจแล้ว แต่นั่นอาจจะยังไม่เพียงพอในการลงโฆษณาบน IG หากยังขาดประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ด รวมไปถึง Data ที่จะมาขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาด ให้ช่วยสร้างคอนเทนต์ที่ทรงพลัง Mandala AI ขอเสนอเครื่องมือที่จะช่วยเติมเต็มได้อย่างตรงจุด ด้วย Mandala Anaytics เพื่อให้คุณรู้เท่าทันเทรนด์ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้ โดยรวบรวมข้อมูลที่ผู้คนแสดงความคิดเห็น ท็อปคอมเมนต์ แฮชแท็กต่าง ๆ จากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ที่อยู่ในกระแสความสนใจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำคอนเทนต์ สามารถทดลองใช้ได้ที่นี่เลย
