แอปพลิเคชัน Line นั้นถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยคุ้นเคยกันอย่างดี เพราะเป็นแอปสำหรับแชทที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน และ Line เองก็ได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ที่หลากหลายมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้อยู่ตลอด
หนึ่งในฟีเจอร์ที่ Line ได้พัฒนาขึ้นมาที่เราจะพูดถึงกันในวันนี้คือ Line Voom ที่เพิ่มลูกเล่นหน้าไทม์ไลน์ให้ผู้ใช้ได้เสพย์สาระและความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้ธุรกิจและแบรนด์ SME เข้ามาทำการตลาดผ่านฟีเจอร์นี้อีกด้วย
หนำซ้ำในตอนนี้นั้น Line มีผู้ใช้งานที่ Active มากถึงประมาณ 54 ล้านคน ตัวเลขนี้ชี้ให้เราเห็นแล้วว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดไหน การทำการตลาดบนเเพลตฟอร์มนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาด
Line Voom คือ
Line Voom คือหนึ่งในฟีเจอร์จากแอปพลิเคชัน Line ที่รวมวิดีโอสั้นและคอนเทนต์อีกหลากหลายรูปแบบให้ผู้ใช้งานได้รับชม โดย Voom นั้นมาจาก Video Room + Visual Room และ Boom เปรียบเหมือนห้องที่เป็นศูนย์รวมคอนเทนต์ทั้งแบบรูปและวิดีโอนั่นเอง
Line Voom เป็นฟีเจอร์ที่ทาง Line ได้พัฒนามาจาก Timeline โดยเพิ่มลูกเล่นที่มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ โดยที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ช่องทางการแชทอย่างเดียวแล้ว แต่ผันตัวเองให้กลายเป็นพื้นที่ Social Media ที่มีการทำงานคล้ายคลึงกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ
Line Voom ใช้งานอย่างไรได้บ้าง? ไปทำความเข้าใจกันในหัวข้อถัดไปได้เลย
Line Voom ทำอะไรได้บ้าง ?
ในฟีเจอร์ Line Voom นั้นจะถูกแบ่งหน้า Page ออกเป็น 2 หน้า ดังนี้
1. หน้า For You เป็นหน้าที่แนะนำวิดีโอให้กับผู้ใช้งาน โดยเป็นการอิงจากประวัติการดูวิดีโอของผู้ใช้ ทั้งนี้ก็เพื่อแนะนำคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับความชื่นชอบของผู้ใช้งานนั่นเอง ถือว่าเป็นพื้นที่ที่เอื้อประโยชน์ให้แบรนด์ต่าง ๆ ในการสร้าง Awareness อย่างมาก
2. หน้า Following เป็นหน้าที่จะแสดงคอนเทนต์ของบัญชีที่ผู้ใช้งานกด Follow อยู่ ทำงานเหมือนแพลตฟอร์ม Social Media อื่น ๆ อย่าง Instagram และ TikTok โดยผู้ใช้งานสามารถรับชมคอนเทนต์และแชร์ไปให้เพื่อน ๆ ในช่องแชทของ Line ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถทำการสื่อสารทางการตลาดกับลูกค้าของแบรนด์ได้โดยตรงเลย
คอนเทนต์บน Line Voom มีแบบไหนบ้าง ?
1. รูปภาพ
แบรนด์หรือร้านค้าสามารถโพสต์คอนเทนต์ภาพนิ่งหรือ Infographic เพื่อให้ข้อมูลสินค้าของแบรนด์พร้อมแคปชันได้
2. วีดีโอ
แบรนด์หรือร้านค้าสามารถโพสต์คอนเทนต์วิดีโอหรือ GIF ต่าง ๆ เช่น แนะนำสินค้า, รีวิวจากผู้ใช้, การใช้งานและอื่นๆ อีกทั้งยังใส่แคปชันได้ด้วยเช่นกัน
3. สติกเกอร์
แบรนด์หรือร้านค้าสามารถโพสต์สติกเกอร์พร้อมแคปชันกำกับอย่างเช่นการแจ้งเตือน การอัปเดตสินค้าใหม่ โปรโมชัน หรือกิจกรรมต่าง ๆ โดยการใช้สติกเกอร์นั้นถือว่าเพิ่มลูกเล่นให้โพสต์ของแบรนด์ได้ไม่น้อยเลย
4. ข้อความพร้อมพื้นหลัง
แบรนด์หรือร้านค้าสามารถโพสต์ข้อความอย่างเดียวได้ด้วยเช่นกันและทางไลน์ก็มีฟังก์ชันให้เลือกสีพื้นหลังได้อีกด้วย
5. แผนที่
แบรนด์หรือร้านค้าสามารถสร้างโพสต์ที่แนบแผนที่หน้าร้าน, สถานที่สำหรับ Event, Workshop หรือกิจกรรมอื่นๆ ของแบรนด์ได้ เป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าได้อย่างมาก
6. คูปองและแบบสอบถามจาก Line OA
แบรนด์หรือร้านค้าสามารถเชื่อม Line OA เข้ากับฟีเจอร์ Line Voom เพื่อดึงคูปองหรือแบบสอบถามที่ทางร้านได้สร้างไว้และโพสต์ลงบน Timeline ของ Line Voom ได้
ประโยชน์ของ Line Voom สำหรับธุรกิจในปัจจุบัน
1. ใช้งานง่ายและสะดวก
ร้านค้าสามารถเชื่อม Line OA และ Line Voom และสร้างโพสต์ได้เลย ซึ่งถือว่าขั้นตอนการลงคอนเทนต์นั้นไม่ได้มีความซับซ้อนแถมยังมีคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบให้ใช้และสามารถตั้งเวลาการโพสต์ได้อีกด้วย
2. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจำนวนมาก
อย่างที่เราได้รู้ไปว่าจำนวนผู้ใช้ Line ในทุนเดิมนั้นมีอยู่จำนวนมากอยู่แล้ว เพราะคนไทยใช้ Line เป็นช่องทางการสื่อสารกันเป็นหลักเลยก็ว่าได้ และเมื่อ Line มีฟีเจอร์นี้เพิ่มเข้ามา ก็เอื้อให้แบรนด์สามารถสื่อสารการตลาดไปยังกลุ่มเป้าได้อย่างกว้างขวาง เพราะเพียงแค่มีแอป Line กลุ่มเป้าหมายก็มีโอกาสเข้าถึงคอนเทนต์ได้แล้ว
3. คอนเทนต์มีความหลากหลาย
อย่างที่เราได้ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่า คอนเทนต์ของ Line Voom นั้นมีมากถึง 6 รูปแบบ (รูปภาพ, วิดีโอหรือ GIF, สติกเกอร์, ข้อความบนพื้นหลัง, สถานที่, คูปอง, แบบสอบถาม) แบรนด์สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของเนื้อหาที่แบรนด์ต้องการสื่อสารได้อย่างสะดวก
4. มีตัวอย่างจาก Line Voom Studio
Line มีเครื่องมือที่ชื่อว่า Line Voom Studio ที่ให้ร้านค้าใช้จัดการการลงคอนเทนต์บน Line Voom ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้หากใช้งานผ่านบัญชี Line OA ด้วยนั้น ก็สามารถสร้างโพสต์และเชื่อมไปยังฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Line OA อย่าง Rich Message และสามารถวัดผลของแต่ละโพสต์ได้อีกด้วย
เทคนิคเพิ่มเติมสำหรับเพิ่มยอดขาย
- เลือกใช้รูปภาพที่สะดุดตาเพราะผู้คนส่วนใหญ่มักถูกดึงดูดด้วยรูปได้มากกว่าข้อความ
- ใส่ Hashtag ให้สอดคล้องกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมาย
- ควรมี Landing Page สำหรับกลุ่มลูกค้าเฉพาะเช่น สำหรับสมาชิก แจ้งโปรโมชันพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า
- ใช้ Influencer เข้ามาช่วยโปรโมทสินค้าอย่างเช่นการบอกต่อหรือรีวิว และเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์
- สร้างคอนเทนต์ทันกระแส ให้ความบันเทิง ย่อยง่ายและยังสามารถ Tie-in สินค้าไปในตัวได้
- ลงคอนเทนต์สม่ำเสมอ เพื่อให้คอนเทนต์เป็นที่พบเห็นมากขึ้น
คุณได้ลองใช้ Line Voom เป็นตัวช่วยในการทำการตลาดรึยัง?
Line Voom ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำหรับการทำการตลาด Social Media ที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสร้าง Awareness และสื่อสารแบรนด์ได้กว้างขวาง เนื่องจากผู้ใ่ช้ Line ทุกวันนี้มีอยู่จำนวนมากทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น
อีกทั้งยังเป็นฟีเจอร์ที่ฟรีและมีลูกเล่นที่หลากหลาย เอื้อประโยชน์ให้ร้านค้าได้เลือกใช้คอนเทนต์ที่แตกต่างกันในการดึงดูดลูกค้า และหากใช้คู่กับบัญชี Line OA แล้วด้วยนั้นก็ช่วยให้แบรนด์สามารถทำการตลาดบน Line ได้อย่างเกิดประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย
