Predictive Marketing คืออะไร? พร้อมวิเคราะห์ 3 แบรนด์น่าสนใจ

Predictive Marketing คืออะไร?

นิยามของ Predictive Marketing คือ การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics) เพื่อคาดการณ์แนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้าในอนาคต และนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยการทำ Predictive Marketing จะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังต่อไปนี้

รวบรวมข้อมูล: ข้อมูลที่ใช้ในการทำ Predictive Marketing อาจเป็นข้อมูลเชิงปริมาณ เช่น ข้อมูลยอดขาย ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้า ข้อมูลทางประชากรศาสตร์ หรือข้อมูลเชิงคุณภาพ เช่น ข้อมูลความคิดเห็นของลูกค้า ข้อมูลรีวิวสินค้า

วิเคราะห์ข้อมูล: การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคาดการณ์ จะใช้เทคนิคทางสถิติ อัลกอริทึม และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลต่าง ๆ และคาดการณ์แนวโน้มพฤติกรรมของลูกค้า

วางแผนกลยุทธ์การตลาด: ข้อมูลเชิงคาดการณ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ จะถูกนำมาใช้ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาด เช่น การกำหนดเป้าหมายการตลาด การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การกำหนดกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด

ประเภทของ Predictive Marketing

เราสามารถแบ่งประเภทของการทำ Predictive Marketing ได้ตามจุดประสงค์ เพื่อให้สามารถเลือกประยุกต์ใช้ได้ตรงจุดยิ่งขึ้น โดยมีดังต่อไปนี้

Customer Segmentation: เป็นการแบ่งกลุ่มลูกค้าออกเป็นกลุ่มย่อย ๆ ตามลักษณะร่วมกัน เช่น เพศ อายุ ความสนใจ พฤติกรรมการซื้อสินค้า เป็นต้น การทำ Customer Segmentation จะช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าใจลูกค้าแต่ละกลุ่มได้ดีขึ้น และสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม

Customer Lifetime Value (CLV): คือมูลค่าทางการเงินที่ธุรกิจคาดว่าจะได้รับจากลูกค้าตลอดช่วงระยะเวลาที่ลูกค้ามีความสัมพันธ์กับธุรกิจ โดยเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดความคุ้มค่าของลูกค้าแต่ละราย การทำ Predictive Marketing รูปแบบนี้คือเครื่องมือที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถระบุลูกค้าที่มีแนวโน้มจับจ่ายใช้สอยสูง และให้ความสำคัญกับการรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ไว้เป็นพิเศษ

Churn Prediction: เป็นการคาดการณ์ว่าลูกค้ารายใดมีแนวโน้มที่จะเลิกใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากธุรกิจในอนาคต ดังนั้นจึงช่วยให้นักการตลาดสามารถดำเนินการป้องกันล่วงหน้าเพื่อรักษาลูกค้ากลุ่มนี้ไว้

Upselling and Cross-selling: คือการเพิ่มยอดขายให้แก่ลูกค้าเดิมโดยการเสนอขายสินค้าหรือบริการเพิ่มเติมที่ลูกค้ามีความสนใจหรืออาจต้องการ โดยการทำ Upselling and Cross-selling คือกลยุทธ์เด็ดที่ช่วยให้นักการตลาดสร้างรายได้ที่มากขึ้น จากจำนวนลูกค้าที่เท่าเดิม

เสริมประสิทธิภาพการทำ Predictive Marketing ให้ได้ผลมากยิ่งขึ้น ต้องใช้ Mandala Analytics เครื่องมือจาก Mandala AI ที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า พร้อมนำมาวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ

Predictive Marketing ตัวอย่างแบรนด์ที่ใช้แล้วสำเร็จ

3 แบรนด์ระดับโลกที่ใช้ Predictive Marketing และประสบความสำเร็จ

1. Netflix

ใช้ข้อมูลประวัติการดูของผู้ใช้มาวิเคราะห์ผ่านอัลกอริทึม เพื่อแนะนำคอนเทนต์ที่ตรงตามที่ผู้ใช้มองหา อัลกอริทึมนี้ทำงานโดยพิจารณาจากประวัติการดูของผู้ใช้ รวมถึงการดูของผู้ใช้รายอื่น ๆ ที่ใช้โปรไฟล์ที่คล้ายคลึงกัน

2. Amazon

เชื่อว่าคงมีหลายคนที่เข้า Amazon ไป เพื่อตั้งใจซื้อสินค้าอย่างหนึ่ง แต่กลับโดนแนะนำสินค้าที่น่าสนใจมาให้เห็นเรื่อย ๆ สุดท้ายบานปลายกลายเป็นมี 5 สินค้าอยู่ในตะกร้า โดยการแนะนำนี้คือ Predictive Marketing ที่ใช้เป็นตัวอย่างได้ดีที่สุด

3. Walmart

ด้วยการใช้ Predictive Marketing ในหลากหลายวิธี ตัวอย่างเช่น ใช้ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการซื้อของลูกค้าเพื่อคาดการณ์ว่าลูกค้าจะซื้ออะไรในอนาคต ช่วยให้ Walmart สามารถส่งอีเมลส่งเสริมการขายและจดหมายข่าวที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น นอกจากนี้ Walmart ยังใช้ข้อมูลสภาพอากาศเพื่อคาดการณ์ความต้องการผลิตภัณฑ์เฉพาะสำหรับช่วงเวลาหรือสถานที่ ทำให้สามารถจัดหาสินค้าคงคลังได้อย่างเพียงพอ

ทำ Predictive Marketing ได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยตัวช่วยจาก Mandala AI

การทำ Predictive Marketing จากตัวอย่างที่หยิบยกมา แสดงให้เห็นว่าไม่ยากอย่างที่คิด และยิ่งสะดวกหากมีตัวช่วยอย่าง Mandala AI ผู้ให้บริการเครื่องมือ Mandala Analytics โซลูชันในการทำ Social Listening นำข้อมูลซึ่งผู้คนแสดงความคิดเห็นในรูปแบบต่าง ๆ ไว้ตามโซเชียลมีเดีย มาวิเคราะห์เพื่อหาเจตนาที่แท้จริงว่า ตอนนี้ภาพรวมของตลาดกำลังต้องการอะไร การวิจัยการตลาดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนกลยุทธ์ สร้างคอนเทนต์การตลาด เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ผู้ประกอบการธุรกิจในยุคดิจิทัล ทดลองใช้งานฟรีได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์ของเรา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่