TikTok ถือเป็นแพลตฟอร์มการตลาดโซเชียลมีเดียและแหล่งรวมคอนเทนต์มีเดียที่หลากหลายจากทุกสาขาเพราะไม่ว่าใครก็สามารถเป็นครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มนี้ได้ ขณะที่ผู้คนต่างใช้ TikTok ในการสร้างสรรค์วิดีโอเพื่อความสนุกสนานด้วย Creative Tools บนตัวแอปพลิเคชัน ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเล่น Challenge ต่าง ๆ ที่กำลังเป็นกระแส การตัดต่อวิดีโอสั้น การถ่ายคลิปด้วยเอฟเฟ็กต์ แบรนด์เองก็สามารถใช้พื้นที่บนแพลตฟอร์มนี้ในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ (Awareness) หรือแม้แต่การสร้างปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายอย่างใกล้ชิดได้อีกด้วย
จากสถิติพบว่า TikTok เป็นแอปพลิเคชันที่คนใช้เวลาเยอะที่สุดในโลก ผู้คนต่างใช้เวลาบน TikTok ที่เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นมากถึง 34 ชั่วโมง/เดือน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มวิดีโอ Long Form อย่าง YouTube ที่จำนวนชั่วโมงอยู่ที่ 28.5 ชั่วโมง/เดือน แล้วนั้น TikTok สามารถดึงคนให้ใช้เวลาบนแอปพลิเคชันได้นานกว่า ในขณะเดียวกันตัวเลขของจำนวนผู้ใช้แอปพลิเคชันนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเหมือนกัน
การตลาด TikTok สำคัญอย่างไร ? อะไรที่ทำให้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มการทำการตลาดที่แตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่น ๆ
จุดเด่นของ TikTok คือ การสร้างคลิปสั้น ๆ ความยาวตั้งแต่ 15 วินาที จนไปถึง 60 วินาที การปรับแต่งคลิปด้วยเสียง เอฟเฟ็กต์ และฟิลเตอร์ ผ่านขั้นตอนที่ง่ายดาย นอกจากนี้ผู้ใช้ก็สามารถตอบสนองกับคอนเทนต์นั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว นี่เป็นเหตุผลที่แอปฯ นี้สามารถดึงดูดผู้ใช้ได้จำนวนมาก เพราะไม่ว่าใครก็สามารถใช้ TikTok ได้ ทำให้แพลตฟอร์มนี้มีคอนเทนต์ที่ทันกระแสอยู่เสมอ ไม่ว่าหัวข้อไหนก็ตามที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจอยู่ ก็สามารถนำไปสร้างเป็นคอนเทนต์เกิดกระแสไวรัลได้บน TikTok
สำหรับนักธุรกิจหรือเจ้าของแบรนด์ นี่ถือเป็นโอกาสที่สำคัญอย่างมาก ด้วย Feature บนตัวแอปพลิเคชันและอิสระในการผลิตคอนเทนต์ แบรนด์สามารถทำแผนการตลาด TikTok หรือ TikTok Marketing ได้หลากหลายรูปแบบ และแบรนด์ที่มาถูกทาง ก็สามารถผลิตคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจและความต้องการของผู้ใช้ เพิ่มยอดวิวและฐานลูกค้าได้อีกด้วย
วิเคราะห์ตัวเลขกลุ่มผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม TikTok
จากได้ที่กล่าวไปเบื้องต้นว่าในปัจจุบัน TikTok ได้รับความนิยมจากผู้ใช้เป็นอย่างมาก แล้วกลุ่มผู้ใช้ไหนคือกลุ่มหลักสำหรับแพลตฟอร์มนี้?
- กลุ่มผู้ใช้งานหลักบน TikTok คือกลุ่มช่วงอายุ 18 – 24 ปี หรือกลุ่ม Gen Z ซึ่งมีสัดส่วนมากถึง 34.9%
- ตามมาด้วยกลุ่มมิลเลเนียล (Millennials) 25-34 ปี 28.2%
จากการวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของกลุ่มผู้ใช้งานกลุ่ม Gen Z และ กลุ่ม Millennials แล้ว เราจะเห็นได้ว่าผู้ใช้กลุ่มนี้คือกลุ่มที่เติบโตมากับเทคโนโลยี มาพร้อมกับกระแสอยู่เสมอ ไม่ชอบเสียเวลารอคอย มีความชอบในการเสพคลิปสั้น ๆ ย่อยง่ายและให้ความเพลิดเพลินในเวลาเดียวกัน นี่จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนักที่คนกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มผู้ใช้หลักของ TikTok
“TikTok คือ TV ของคน Gen Z” Jo Cronk ประธานบริษัทด้านการตลาด Whalar ได้กล่าวกับ Bloomberg ว่า “ทุกวันนี้ถ้าคุณอยากทำให้แบรนด์ของคุณ สินค้าของคุณ บริการของคุณได้รับความสนใจจากคน Gen Z การทำการตลาด TikTok เป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้เลย” |
แต่ถึงอย่างนั้น TikTok ก็ไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับแค่ Gen Z และ Millennials เท่านั้น เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์หลายแบบจากหลากหลายอุตสาหกรรม บนแอปฯ นี้ก็ยังมีผู้ใช้กลุ่มอื่น ๆ อยู่อีกด้วย เพียงในสัดส่วนที่น้อยกว่า 2 กลุ่มข้างต้น โดยกลุ่มอายุ 13- 17 มีอยู่ 14.4%, กลุ่ม 35 – 44 ปี อยู่ที่ 12.8%, กลุ่ม 45-54 ปี 6.3% และกลุ่ม 55 ปี ขึ้นไป 3.4%
ทำไมต้องทำการตลาด TikTok
หากมองในมุมการตลาด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่ TikTok ได้รับความนิยมอย่างมากนั้นมาจากความง่ายและความสะดวกรวดเร็วในการใช้งาน เพราะนอกเหนือจากผู้ใช้จะได้ความเพลิดเพลินจากการรับชมคอนเทนต์บนแอปฯ นี้แล้ว ยังสามารถศึกษาข้อมูลและจับจ่ายซื้อสินค้าหรือบริการของแบรนด์นั้น ๆ ผ่านช่องทางนี้ได้เช่นเดียวกัน ถือได้ว่าครบจบในที่เดียว
ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มผู้ใช้งานหลักอย่างกลุ่มวัยรุ่น ต่างหันมาใช้ TikTok ในการค้นหาข้อมูลแทนการใช้ Google แล้ว เนื่องจากข้อมูลที่ได้นั้นมีจำนวนมากเกินไปและในบางครั้งก็เป็นข้อมูลทีไม่ตรงประเด็น และเมื่ออิงข้อมูลจาก MediaBrix ทำให้พบว่าสื่อวิดีโอแบบสั้นมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอย่างมาก โดย 90% ของผู้บริโภคชอบรับชมวิดีโอแบบสั้นแนวตั้งและ 72% ของผู้บริโภคเลือกศึกษาข้อมูลของแบรนด์ผ่านรูปแบบวิดีโอ
นักการตลาดควรให้ความสำคัญกับการทำ TikTok Marketing เป็นอย่างมากเพราะนอกจากจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันบนโลก E-commerce แล้ว ก็ถือเป็นการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายและต่อยอดธุรกิจเติบโตได้ตามเทรนด์การตลาดในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี
10 กลยุทธ์การทำ TikTok Marketing
เมื่อได้เห็นความสำคัญของการตลาดบน TikTok ต่อธุรกิจแล้ว ในบทความนี้ได้รวบรวม 10 กลยุทธ์ในการทำ TikTok Marketing ดังนี้
1. การใช้ Hashtag #
การใช้ Hashtag บน TikTok นั้น มีรูปแบบการทำงานเช่นเดียวกับการใช้ Hashtag บนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มอื่น ๆ นั่นคือเป็นการจัดกลุ่มคอนเทนต์ของสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ซึ่งง่ายต่อการค้นหาและศึกษาข้อมูลของผู้บริโภค ในหนึ่งคอนเทนต์สามารถติด Hashtag ได้หลายอัน ที่สำคัญคือควรจะต้องเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในคอนเทนต์ กระชับ และง่ายต่อการจดจำ นอกจากนี้ TikTok ยังมีการลิสต์ Hashtag ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ไว้ให้ โดยดูได้จากเมนู Discover ไว้ให้อีกด้วย
นอกจากนี้การสร้าง Hashtag Challenge การท้าให้ผู้ใช้ TikTok มาร่วมทำกิจกรรมเพื่อความบันเทิงและลุ้นรับรางวัลได้อีกด้วย สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการทำ Hashtag Challenge คือต้องอาศัยความสร้างสรรค์และความแปลกใหม่ของ Challenge เพื่อกระตุ้นให้คนอยากเล่นต่อ ๆ ไปได้ และถ้าหากแคมเปญประสบความสำเร็จ นอกจากจะสร้างยอด Engagement กับตัวแบรนด์แล้วนั้น ก็สามารถสร้าง Reach ได้อย่างมหาศาลอีกด้วย
ประโยชน์ของการใช้ Hashtag บน TikTok
- เพิ่มการรับรู้และการเข้าถึงคอนเทนต์ของแบรนด์ ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายหาแบรนด์เจอ
- เพิ่มโอกาสในการเพิ่มจำนวนผู้ติดตาม (Follower)
- เพื่อระบุคู่แข่ง
สิ่งที่ควรระวังในการติด Hashtag นั้นคือไม่ควรใช้จำนวน Hashtag เยอะจนเกินไปเพราะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้คอนเทนต์นั้น ๆ ถูกมองว่าเป็นแสปม อ่านแล้วรู้สึกสะดุด ไม่น่าเชื่อถือ และทำให้ดูรกตาได้
2. อัพเดทเทรนด์ประจำวันด้วย Current TikTok Trends
หนึ่งใน Feature บน TikTok ที่สำคัญอย่างมาก คือ Current TikTok Trends ที่ผู้ใช้สามารถติดตามคอนเทนต์หรือหัวข้อที่กำลังเป็นกระแสอยู่ได้ แบรนด์ที่ใช้ประโยชน์จากการตามเทรนด์ของผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที จะสามารถผลิตคอนเทนต์ที่ตอบสนองความชื่นชอบและเพิ่มโอกาสการรับชมจากผู้บริโภคได้ ซึ่งเป็นการเพิ่มแนวโน้มของกลุ่มลูกค้าจนไปถึงการตัดสินใจซื้อได้ด้วยเช่นกัน
3. โปรโมตแบรนด์หรือสินค้าด้วย Influencer Marketing บน TikTok
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้ Influencer หรือ TikToker เข้ามาเป็นตัวช่วยในการโปรโมต TikTok คอนเทนต์นั้นมีอิทธิพลอย่างมาก เพราะด้วยลูกเล่นบนแพลตฟอร์มอย่างการใส่เพลงที่กำลังเป็นกระแส การใช้เอฟเฟกต์ การตัดต่อต่าง ๆ ทำให้คอนเทนต์บน TikTok นั้นไม่น่าเบื่อ สร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ใช้งาน
@yatnyts ใครขี้เอาชนะ?!!?! #SkintificTH ♬ เสียงต้นฉบับ – yatnyts
สำหรับนักการตลาดที่ต้องการใช้กลยุทธ์นี้ควรระวังไว้ว่า เนื้อหาของคอนเทนต์ที่ทำโดย Influencer นั้นต้องมีความเป็นธรรมชาติ นำเสนอแบรนด์โดยทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกว่ามีการขายตรงมากจนเกินไป หรือเรียกง่าย ๆ ว่าการ Tie-in แบบเนียน ๆ และหากยิ่งใช้ Influencer ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก ก็ยิ่งทำให้แบรนด์เป็นที่รับรู้เป็นวงกว้างได้มากขึ้นเพราะในปัจจุบัน TikTok ยังไม่มี Algorithm ที่ใช้ในการจำกัด Reach หรือ การมองเห็น เหมือนที่ Facebook กำลังทำอยู่ตอนนี้
4. สร้างการมีส่วนร่วมของแบรนด์ด้วย Comment
TikTok ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมในการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์และผู้ใช้ เนื่องจากแบรนด์สามารถดู Feedback ของผู้ใช้ได้แบบ Real-time และแบรนด์ที่มองเห็นความสำคัญในส่วนนี้ก็สามารถสร้างฐานลูกค้าได้ด้วยการตอบกลับ Comment อย่างทันที วิธีนี้สามารถสร้างความประทับใจกับผู้ใช้งานได้นอกจากนี้ TikTok จะจัดลำดับ Comment โดยอิงจากยอด Like ที่เยอะที่สุดของ Comment นั้น ๆ ดังนั้น การระวังในการใช้คำและภาษาก็เป็นสิ่งที่แบรนด์ควรคำนึงอย่างยิ่ง
5. โพสต์ Content อย่างสม่ำเสมอ
เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่มีคอนเทนต์ที่มีจำนวนมหาศาลและหลากหลายรูปแบบ อีกทั้งพฤติกรรมทั่วไปของผู้ใช้งาน TikTok นั้นคือการเลื่อนปัดวิดีโอไปเรื่อย ๆ การโพสต์คอนเทนต์บน TikTok ควรมีความถี่และสม่ำเสมอ เช่น 3-5 โพสต์ต่อ 1 อาทิตย์ หรือ วันละ 1 โพสต์เป็นอย่างน้อย เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนเห็นคอนเทนต์ของเรา พร้อมทั้งเพิ่มผู้ติดตามไปในเวลาเดียวกัน และนอกเหนือจากนั้น ยังทำให้แบรนด์ของเราน่าเชื่อถือมากขึ้นอีกด้วย
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ลืมไม่ได้เลย คือการเลือกช่วงเวลาที่จะลงคอนเทนต์บน TikTok ให้เหมาะสม เพื่อให้คนเห็นและมีส่วนร่วมกับโพสต์ (Engagement) ของคุณให้มากที่สุด
สำหรับนักการตลาดที่ต้องการประหยัดเวลา ไม่ต้องคอยจดบันทึกช่วงเวลาที่มีผู้ใช้งานและมีส่วนร่วมกับโพสต์มากที่สุดด้วยตัวเอง ก็สามารถใช้เครื่องมือเข้ามาช่วยได้ เช่น เครื่องมือ Social Listening ของ Mandala AI. ที่มีฟีเจอร์ Time Analytics ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลส่วนนี้ให้ สามารถนำข้อมูลไปปรับใช้ได้อย่างทันท่วงที
6. การใช้ TikTok Effect
อีกลูกเล่นที่โดดเด่นและน่าสนใจบน TikTok คือการใช้ Effect ในการสร้างคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบ 2D 3D หรือ AR หากแบรนด์สามารถสร้างเอฟเฟ็กต์ของตัวเองให้น่าเล่น น่าสนใจได้ ก็เพิ่มโอกาสที่ผู้ใช้จะนำ Effect ไปเล่นต่อได้ เป็นวิธีที่ช่วยสร้าง Engagement เพิ่มการรับรู้ และโปรโมตแคมเปญนั้นไปในตัว
7. สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและเข้าใจง่าย
จากที่ได้กล่าวไปว่าพฤติกรรมของผู้ใช้งาน TikTok ในทุกวันนี้นั้นมีความชื่นชอบในการดูคลิปสั้น ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดว่าผู้บริโภคมีสมาธิจดจ่อได้ไม่นาน ดังนั้น ถ้าหากแบรนด์ไม่สามารถดึงความสนใจได้ภายใน 3 วินาทีแรกของคอนเทนต์ ก็มีโอกาสที่ผู้ใช้งานจะเลื่อนผ่าน หนำซ้ำหากคอนเทนต์นั้น ๆ ถูกกดข้ามบ่อยมากเท่าไหร่ TikTok จะมองว่าเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ดี ไม่มีคุณภาพ ทำให้มีโอกาสสูงที่คลิปนั้นจะถูกดันให้จม ทำให้การมองเห็นของคอนเทนต์ถูกลดลงได้
8. TikTok Ads
เช่นเดียวกันกับช่องทางออนไลน์อื่น ๆ TikTok เองก็การทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มด้วยเช่นกัน ซึ่ง TikTok ได้สร้างรูปแบบการโฆษณามาให้เจ้าของธุรกิจหรือแบรนด์ได้ใช้อยู่ 3 แบบ ดังนี้
- Brand Takeover: การทำงานของ Brand Takeover คือ โฆษณาแบบ Full Screen สามาถเป็นได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอสั้น แต่ต้องมีความยาวไม่เกิน 5 วินาที ซึ่งจะเด้งขึ้นมาทันทีเมื่อผู้ใช้เปิดแอปฯ ถือว่าเป็นรูปแบบที่สามารถสร้าง Reach ได้เยอะที่สุดใน 3 รูปแบบโฆษณาของ TikTok เหมาะกับแบรนด์ที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้วและต้องการโปรโมตแคมเปญให้กลุ่มเป้าหมายรับรู้
- Top View: รูปแบบนี้เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มี Website อยู่แล้ว และต้องการเล่าเรื่องหรือสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย โดยโฆษณาจะขึ้นมาเป็นคลิปแรกของหน้า Feed มีความยาวไม่เกิน 60 วินาที สามารถ Lead ผู้ใช้งานไปยังหน้า Website ของแบรนด์ได้ นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถ Comment Like Share ได้เหมือนกับคอนเทนต์ทั่วไปอีกด้วย
- In-Feed: เป็นโฆษณาที่จะเด้งขึ้นมาคั่นระหว่างที่ผู้ใช้งานกำลังเลื่อน Feed เพื่อรับชมคอนเทนต์ (ทำงานเช่นเดียวกันกับโฆษณาบน Instagram story) โฆษณารูปแบบนี้สามารถตั้งค่าให้ Lead ผู้ใช้งานไปยังหน้า Website หรือ Landing Page ของแบรนด์ได้ด้วยเช่นกัน
9. วิเคราะห์ประสิทธิภาพของโฆษณาด้วย TikTok Pixel
การติดตั้ง TikTok Pixel คือเครื่องมือที่ช่วยติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานบน TikTok เพื่อใช้ข้อมูลเหล่านั้นมาปรับปรุงแคมเปญโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ของ TikTok Pixel
- สามารถวัดผลทางการตลาดบน TikTok ได้ โดยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเข้าใจการตอบสนองและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ดีขึ้น
- เพิ่ม ROI จากการทำโฆษณาบน TikTok
- เจอกลุ่มเป้าหมายที่ใช่ที่เหมาะสมกับแคมเปญต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและแม่นยำมากยิ่งขึ้น
10. การทำ Branded Content
@bondijelly เช้าอันสงบสุขคงเป็นเช้าที่ทุกคนใฝ่ฝัน~ 🌤️✨ แต่ไม่ใช่กับเขาคนนี้!! “พี่ปาร์ตี้” หนุ่มใหญ่ที่หัวใจรักเสียงดนตรี ทุกวินาที ต้องได้แด๊นส์🕺🎶💙 และยังต้องมาเจอกับน้องสาวสุดป่วน ที่เตรียมจะฟ้องแม่ทุกครั้งที่ปาร์ตี้ก้าวขาออกจากบ้าน 🥊💥 EP นี้พี่ปาร์ตี้จะออกไปปาร์ตี้ได้อย่างราบรื่นหรือไม่ มาลุ้นไปพร้อมกั๊นนน 🥳🎉 #bondijelly #bondilandtheseries ♬ เสียงต้นฉบับ – bondi jelly
โดยปกติแล้วผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเลื่อนผ่านคอนเทนต์ที่มีการขายอย่างโจ่งแจ้ง ซึ่งไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจนัก ดังนั้นแบรนด์ควรจะผลิตคอนเทนต์ที่สามารถให้ทั้งความบันเทิง ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้งาน แต่ยังมีการโปรโมตตัวเองไปในตัว แบรนด์สามารถทำ Branded Content ได้ด้วยการ นำเสนอคุณค่า ประโยชน์ที่ผู้บริโภคจะได้รับ มากกว่าการนำเสนอสินค้าหรือบริการโดยตรง เน้นการผลิตคอนเทนต์ที่สร้างให้เกิดการสื่อสารกับแบรนด์หรือการพูดถึงแบรนด์ เนื้อหาของคอนเทนต์ควรมีเรื่องราว (Storytelling) เป็นต้น ด้วยวิธีนี้ จะสามารถทำให้แบรนด์ดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่าการทำโฆษณาปกติ เพราะสามารถสร้างอารมณ์ร่วมลูกค้า กระตุ้นการการสื่อสารระหว่างแบรนด์และลูกค้า ทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้อย่างยาวนาน
ทำการตลาดบน TikTok ให้ปัง กระตุ้นยอดขาย
ถึงจุดนี้เราได้เห็นกันแล้วว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่จำเป็นและทรงอิทธิพลอย่างมากสำหรับแบรนด์ที่ต้องการต่อยอดธุรกิจให้เติบโตด้วยการเจาะกลุ่มคนจำนวนมาก อย่างกลุ่ม Gen Z ที่เป็นกลุ่มผู้ใช้หลัก ด้วยลูกเล่นที่ต่าง ๆ ของแอปฯ นี้ ช่วยให้แบรนด์ทำคอนเทนต์ได้หลากหลาย เพิ่มคุณค่าและความน่าสนใจให้ตัวแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพ
นี่ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับนักการตลาดในการเรียนรู้และทดลองใช้แอปพลิเคชันนี้ รวมทั้งยังสามารถศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้งานบน TikTok ด้วย Mandala AI. ในการเก็บข้อมูลเชิงลึกและดูว่าคอนเทนต์แบบไหนที่มีคนสนใจมากที่สุด เพื่อนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดและการทำคอนเทนต์ของแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น