สำหรับการทำธุรกิจนั้น การสื่อสารทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพคือกุญแจสำคัญในการปิดการขายและบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้ ซึ่ง Marketing Communication หรือ Marcom คือหนึ่งในกลยุทธ์ที่นักการตลาด นักสื่อสารการตลาด และเจ้าของธุรกิจ จำเป็นต้องให้ความสำคัญ โดยบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจ Marcom อย่างลึกซึ้ง เพื่อปิดการขายได้ง่ายยิ่งขึ้น
Marcom คือ?
Marcom คือคำที่ย่อมาจาก Marketing Communication คือ การสื่อสารทางการตลาดทุกแง่มุมที่แบรนด์ใช้ เพื่อส่งต่อข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมาย เป็นกลยุทธ์และเครื่องมือทางการตลาดที่ใช้เพื่อการสื่อสาร กระตุ้นความสนใจ สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ แรงจูงใจ นำไปสู่การตัดสินใจซื้อ และเกิดความจงรักภักดีต่อแบรนด์ สินค้า หรือบริการ ผ่านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย
ประโยชน์ของการทำการสื่อสารทางการตลาด
การสื่อสารทางการตลาด หรือ Marcom เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างแบรนด์กับลูกค้า มีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จของแบรนด์เป็นอย่างยิ่ง ดังนี้
- สร้างการรับรู้ (Awareness) : ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักสินค้า บริการ หรือแบรนด์ ผ่านการสื่อสารทางการตลาดที่บอกกล่าวถึงคุณค่า คุณประโยชน์ และข้อได้เปรียบ เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง นับว่าเป็นการสร้างฐานลูกค้ากลุ่มใหม่
- สร้างความเข้าใจ (Understanding) : ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเข้าใจถึงคุณสมบัติ ประโยชน์ จุดเด่นของสินค้า บริการ หรือแบรนด์ รวมถึงความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
- สร้างความพึงพอใจ (Preference) : ช่วยโน้มน้าวใจให้กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการของเรา
- สร้างความจงรักภักดี (Loyalty) : ช่วยรักษาฐานลูกค้าเก่า กระตุ้นให้ซื้อซ้ำ และเกิดการบอกต่อ
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดี (Brand Image) : ช่วยสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมเพื่อสังคม จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ความน่าเชื่อถือ และความผูกพันระหว่างแบรนด์กับลูกค้า นำไปสู่การสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีต่อแบรนด์ได้
5 องค์ประกอบของการตลาด เพิ่มโอกาสปิดการขาย
การนำเสนอสินค้าและบริการให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ทราบถือเป็นการตลาดที่ดี แต่หากต้องการเพิ่มโอกาสในการปิดการขายและสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นต้องมีองค์ประกอบของการตลาดที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนี้
1. แบรนด์ (Brand)
การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีเอกลักษณ์จะช่วยให้ธุรกิจของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง เป็นที่จดจำ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า ซึ่งจะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าด้วย โดยกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วยการสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) การวางตำแหน่งแบรนด์ (Brand Positioning) และการสื่อสารแบรนด์ (Brand Communication) ทั้งนี้ การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งไม่ได้หมายถึงแค่ชื่อแบรนด์ โลโก้ สโลแกน หรือรูปภาพโฆษณาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างเรื่องราวให้กับแบรนด์ บุคลิกภาพของแบรนด์ การสร้างคุณค่า และการมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าด้วย
2. การวิจัยตลาด (Marketing Research)
การจะประสบความสำเร็จในการปิดการขายได้นั้น คุณจำเป็นจะต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตนเองก่อนว่าเป็นใคร ต้องการอะไร เพื่อให้สินค้าหรือบริการของคุณตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างตรงจุดมากที่สุด ดังนั้น การวิจัยตลาดจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้ข้อมูลที่มีคุณค่า เพื่อนำไปสู่การพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ทั้งการวิเคราะห์สภาพตลาด การวิจัยกลุ่มเป้าหมาย การวิเคราะห์คู่แข่ง การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการทดสอบตลาด เพื่อประเมินปฏิกิริยาการตอบรับของผู้บริโภคต่อผลิตภัณฑ์ ก่อนที่จะนำออกสู่ตลาดจริง เพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ง่ายยิ่งขึ้น
3. การโฆษณา (Advertising)
การโฆษณาเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการรับรู้และเป็นวิธีสำคัญในการสื่อสารแบรนด์ สินค้า หรือบริการไปยังกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่าง ช่องทางการโฆษณา เช่น การโฆษณาทางสื่อสิ่งพิมพ์ การโฆษณาทางทีวี การโฆษณาออนไลน์ การโฆษณาบนสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งการเลือกใช้สื่อโฆษณาที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย การออกแบบรูปแบบการสื่อสารด้วยการใช้ข้อความ ภาพ เสียง หรือวิดีโอที่น่าสนใจ เพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างอารมณ์ร่วมกับลูกค้า ตลอดจนการวางแผนงบประมาณและระยะเวลาอย่างเหมาะสม จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion)
นอกจากการกำหนดราคาสินค้าให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย พิจารณาราคาของคู่แข่ง การคำนวณต้นทุนการผลิต และผลกำไรแล้ว การส่งเสริมการขายก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องทำ เพราะการส่งเสริมการขายเป็นกลยุทธ์กระตุ้นการขาย ดึงดูดลูกค้าใหม่ และรักษาฐานลูกค้าเก่า โดยรูปแบบการส่งเสริมการขายก็มีหลายแบบด้วยกัน เช่น การลดแลกแจกแถม การให้ส่วนลดพิเศษ หรือการแจกของรางวัล ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการดึงดูดความสนใจของลูกค้า และกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อในทันที ทั้งนี้ การวางแผนการส่งเสริมการขายที่น่าสนใจและสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นด้วย
5. สื่อออนไลน์ (Online Media)
ในยุคดิจิทัลอย่างปัจจุบันนี้ การใช้สื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือการสื่อสารการตลาดที่มีบทบาทสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาดผ่านเว็บไซต์ การทำการตลาดในโซเชียลมีเดีย การเขียนบล็อค แม้กระทั่งการใช้ Influencer ล้วนมีส่วนช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งการวางแผนกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่ดี การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ และการโปรโมตอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ สร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า สร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก และเพิ่มโอกาสการขายได้
รูปแบบการสื่อสารการตลาด ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
การสื่อสารการตลาด เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ช่วยให้แบรนด์สามารถส่งมอบข้อความ กระตุ้นความสนใจ และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มเป้าหมาย โดย 2 รูปแบบการสื่อสารที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่
1. การสื่อสารแบบ 2 ทาง (Two-way Communication)
การสื่อสารแบบ 2 ทาง เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ไม่ใช่เพียงแค่การสื่อสารทางเดียวจากแบรนด์ไปยังลูกค้าเท่านั้น แต่ยังให้โอกาสลูกค้าได้แสดงความคิดเห็น สามารถโต้ตอบแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันได้
ยกตัวอย่างรูปแบบการสื่อสารแบบ 2 ทาง เช่น
- การใช้สื่อโซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ตอบคำถามและข้อความของลูกค้า
- การจัดกิจกรรมถามตอบแบบสด (Live Q&A) ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
- การจัดสัมนา อีเวนต์ หรือนิทรรศการ
- การวิจัยตลาดโดยสอบถามความคิดเห็นลูกค้า
2. การสื่อสารเพื่อชักจูงใจ (Persuasive Communication)
เป็นการใช้เครื่องมือการสื่อสารทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้ลูกค้าเกิดความสนใจในสินค้าหรือบริการ สร้างความต้องการ และตัดสินใจซื้อในที่สุด
ยกตัวอย่างรูปแบบการสื่อสารเพื่อจูงใจ เช่น
- การโฆษณาผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ สื่อออนไลน์
- การเขียนบทความรีวิวสินค้าหรือบริการ
- การมอบข้อเสนอโปรโมชันส่งเสริมการขาย เช่น ลดราคา แจกของรางวัล สะสมแต้ม
- การประชาสัมพันธ์
- การแถลงข่าว
- การใช้ Influencer หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในการสื่อสาร
เทคนิคการสื่อสารการตลาดที่ดี
หลังจากทำความเข้าใจเกี่ยวกับองค์ประกอบของการตลาด รวมถึงเครื่องมือสื่อสารทางการตลาด รวมถึงวิธีการสื่อสารการตลาดแบบคร่าว ๆ ไปแล้ว ก้าวต่อไปคือการยกระดับการสื่อสารของแบรนด์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยเทคนิคเหล่านี้
- การสื่อสารการตลาดผ่านข้อความ Key Message
การกำหนดข้อความหลักที่ชัดเจน กระชับ และจดจำได้ง่าย เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งการสื่อสารการตลาดผ่านข้อความ Key Message มีเทคนิคสำคัญ ดังนี้
- ใช้ภาษาที่กระชับ เข้าใจง่าย และเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย
- สร้างข้อความที่โดดเด่น น่าจดจำ มีเอกลักษณ์ และแตกต่างจากคู่แข่ง
- เน้นประโยชน์และคุณค่าที่ลูกค้าจะได้รับ
- สอดแทรกอารมณ์และความรู้สึกเพื่อสร้างการจดจำ
- สามารถยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ฟังหลายรูปแบบ
- การสื่อสารการตลาดผ่านการออกแบบ (Marketing Communication Design)
การสื่อสารการตลาดที่ประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงข้อความหรือเนื้อหาเท่านั้น แต่องค์ประกอบทางด้านการออกแบบก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน การสื่อสารที่ดีต้องผสมผสานทั้งเนื้อหาและการออกแบบเข้าด้วยกัน ซึ่งเรียกว่า “Marketing Communication Design” โดยกระบวนการสื่อสารการตลาดผ่านการออกแบบนั้น มีดังนี้
- วิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันของแบรนด์และธุรกิจ
- ตั้งเป้าหมายในการทำแคมเปญ
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสาร
- กำหนดความรู้สึกที่ต้องการให้เกิดขึ้น
- เลือกประเภทของการออกแบบที่ใช้ในการสื่อสารการตลาด
- เลือกช่องทางในการโปรโมตคอนเทนต์
- ประเมินผลลัพธ์
- การรับฟังความคิดเห็น
การสื่อสารการตลาดที่ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่แค่การนำเสนอข้อมูลไปยังผู้บริโภคเพียงอย่างเดียว แต่ต้องให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นจากลูกค้าด้วย หากแบรนด์รับฟังเสียงจากลูกค้า และนำความคิดเห็นเหล่านั้นมาปรับใช้กับการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง ก็จะได้เปรียบในการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ความไว้วางใจ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ ซึ่งสามารถทำได้หลายเทคนิคด้วยกัน เช่น การทำแบบสำรวจสอบถามเพื่อเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความพึงพอใจ ความต้องการ และปัญหาของลูกค้า การจัด Focus Group การติดตามความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย การเลือกใช้เครื่องมือ Social Listening เป็นต้น
ทำการตลาด Marcom สร้างการรับรู้และเข้าถึง เพื่อปิดการขายได้ง่ายกว่าเดิม
ประโยชน์สำคัญของการทำ Marcom คือ การสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการในหมู่กลุ่มเป้าหมาย ด้วยการส่งสารผ่านช่องทางที่หลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ กิจกรรมส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ และการตลาดดิจิทัล ฯลฯ อีกทั้ง Marcom ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า ผ่านการสื่อสารที่ต่อเนื่องและสม่ำเสมอด้วย
